ตำรวจแจงดราม่าจับวุ้นโดราเอมอนละเมิดลิขสิทธิ์ นัดส่งของหน้าโรงพัก

ตำรวจแจงดราม่าจับวุ้นโดราเอมอนละเมิดลิขสิทธิ์ นัดส่งของหน้าโรงพัก

ตำรวจแจงดราม่าจับวุ้นโดราเอมอนละเมิดลิขสิทธิ์ นัดส่งของหน้าโรงพัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเจ้าของคดีเผย คดีจับลิขสิทธิ์วุ้นรูปโดราเอมอน ตัวแทนของบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอง ก่อนที่จะมีการเจรจายอมความจ่ายเงินค่าชดเชยกัน ตำรวจรับแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันก่อนที่จะมีการมาถอนแจ้งความ ยืนยันไม่มีส่วนในการไปจับกุม หรือเรียกร้องเงินค่าเสียหาย เป็นการตกลงกันสองฝ่าย

จากกรณีที่ นางสาวทิพวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของเพจ วุ้นละมุน เชียงใหม่ ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ ตัวการ์ตูนโดราเอมอน ล่อซื้อวุ้นรูปโดราเอมอน จำนวน 2 ชิ้น ได้แก่ ขนาด 1 ปอนด์ ราคา 290 บาท และขนาด 2 ปอนด์ ราคา 390 บาท โดยมีการอ้าง เพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกฝาแฝดและให้นำไปส่งที่หน้า สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ช่วงบ่ายของวันที่ 20 เม.ย. 62

จนกระทั่งมีผู้ชายมารับวุ้นโดราเอมอนที่สั่งไว้ จากนั้นได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกับตัวแทนลิขสิทธิ์โดราเอมอน พร้อมพากันไปที่สถานีตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อจะดำเนินคดี แต่ให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันก่อน จนตกลงกันได้ว่าตัวเองยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งหลักหมื่นเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์

ซึ่งเรื่องดังกล่าว นางสาวทิพวรรณ ได้นำมาโพสต์ในโลกออนไลน์ เพียงอยากจะให้เป็นวิทยาทานหรืออุทาหรณ์สำหรับคนทำมาหากิน ที่อาจจะไปกระทำผิดหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด จากการเปิดเผยทางโทรศัพท์ของ พ.ต.ต.มนตรี พุทธขันท์ สารสัตรสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของคดี ชี้แจ้งว่า คดีนี้เรื่องต้นจากการที่ตัวแทนของลิขสิทธิ์ดังกล่าวได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการแสดงตัวตน หลักฐานในการมอบอำนาจ รวมทั้งนำหลักฐานต่างๆ ในการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งภาพถ่ายวุ้นโดราเอมอน มาแจ้งความ เพื่อขอให้ตำรวจดำเนินคดี

โดยทางตำรวจเองไม่ได้ไปร่วมจับกุมด้วยแต่อย่างใด แต่ก็ให้ความร่วมมือตามสิทธิ์ทางกฎหมายของผู้เสียหาย แต่หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ไปเจรจาพูดคุยกันเองเนื่องจากคดีนี้สามารถยอมความกันได้ โดยยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปร่วมเจรจาด้วยแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องของเงินที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆ

ก่อนที่ตัวแทนลิขสิทธิ์ดังกล่าวจะมีขอถอนแจ้งความ โดยมีการเจรจาตกลงค่าเสียหายกันเองโดยตำรวจไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่ 2 ฝ่ายเจรจากัน โดยในวันเกิดเหตุทางฝ่ายผู้ละเมิดลิขสิทธิ์เองก็ไม่ได้มีท่าทีอึดอัดหรือถูกบังคับข่มขู่แต่อย่างใด ซึ่งหากมีการบังคับข่มขู่หรือทำให้อึดอัดใจก็สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ยอมรับว่าทางผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำ เรื่องของการทำคดีลิขสิทธิ์ในลักษณะนี้มาอย่างชัดเจนและรัดกุม เนื่องจากทางตำรวจเองก็ตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และเป็นผู้ที่จะต้องดำเนินคดีต่างๆ ตามพยานหลักฐาน

จึงได้มีการเน้นย้ำมาก่อนหน้านี้ ว่าห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปข้องเกี่ยวกับเรื่องของผลประโยชน์ ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถูกต้อง และชัดเจน เช่นเดียวกันกับกรณีที่เกิดขึ้น ตำรวจไม่ได้ไปร่วมจับกุมหรือล่อซื้อ แต่ก็ต้องทำคดีให้ตามที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษตามขั้นตอน จึงอยากให้ประชาชนได้เข้าใจการทำงานของตำรวจด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook