ตะครุบ 2 หนุ่มเหี้ยม "โอ๋-จิ้งจก" ฆ่าโหดฝังดินบนเขา สารภาพยิงหัว-ผ่าท้องแล้วโยนลงหลุม
จากกรณีพบศพ นายจรัญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 12 ต.เชี่ยวเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช อาชีพรับจ้างทำสวน ถูกฆ่าและมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่หน้าท้องก่อนที่คนร้ายจะนำศพไปฝังดินเพื่ออำพรางคดี บริเวณบนเขาป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาดี จ.สุราษฎร์ธานี จนมีผู้ไปพบศพก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงกว่านำศพลงมาเพื่อส่งชันสูตรได้ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นลักษณะป่าเขาทุรกันดาร โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด (20 มิ.ย.62) เมื่อเวลา 07.00 น. พล.ต.ต อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิภาวดี ร่วมกันจับกุมตัว นายพิเชษฐ์ หรือ โอ๋ อายุ 37 ปี และ นายสุรพงศ์ หรือจิ้งจก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา เลขที่ 52/2562 ลงวันที่ 19 มิ.ย. ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และฝังซ่อนเร้นศพเพื่อปกปิดสาเหตุแห่งการตาย
โดย พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายพิเชษฐ์ หรือ โอ๋ ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้เข้าไปรับจ้าง ผูกกิ่งทุเรียน และได้มาเจอกับนายจรัญ หรือ บ่าว ผู้ตายก็ได้เข้ามารับจ้างวางท่อส่งน้ำในสวนของนายมานิตย์เหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายเรื่องผู้ตายด่าบุพการี และวันเกิดเหตุหลังจากเลิกงานได้มานั่งดื่มเหล้ากันที่สวนดังกล่าว และเกิดมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายเพราะผู้ตายด่าถึงบุพการี อีกครั้งเจ้าของสวนจึงได้ไล่ให้กลับบ้านไปทั้งคู่ จึงได้เดินตามผู้ตายไปจนถึงที่เกิดเหตุและได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด และได้ใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่หัวอีก 3 นัด หลังจากก่อเหตุได้ให้ นายสุรพงศ์ หรือ จิ้งจก ช่วยลากศพไปก่อนที่จะใช้มีดผ่าท้องศพอีกครั้ง แล้วช่วยกันฝังตรงจุดที่พบศพ
จากนั้นได้พาทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุจำนวน 3 จุด จุดที่ 1 เป็นจุดนายโอ๋นั่งกินเหล้ากับผู้ตายที่บ้านนายมานิตย์ ที่นั่งกินเหล้า จุดที่ 2 เป็นจุดที่ลงมือสังหาร และจุดที่ 3 เป็นจุดที่นำศพไปฝัง จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิภาวดีดำเนินคดีต่อไป
สนับสนุนเนื้อหา
