พลเมืองดีหัวร้อน! เข้าห้ามทัพคนต่อยกัน สุดท้ายกลายเป็นฆาตกรยิงตาย 1 ศพ

พลเมืองดีหัวร้อน! เข้าห้ามทัพคนต่อยกัน สุดท้ายกลายเป็นฆาตกรยิงตาย 1 ศพ

พลเมืองดีหัวร้อน! เข้าห้ามทัพคนต่อยกัน สุดท้ายกลายเป็นฆาตกรยิงตาย 1 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พลเมืองดีเข้าห้ามคนต่อยกัน สุดท้ายกลายเป็นฆาตกรยิงตาย 1 ศพ อ้างโมโหที่เข้าไปห้ามแต่โดนตี

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. (23 มิ.ย. 62) ที่ สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายณรงค์ หรือ ตั้ม คนขับรถตุ๊กตุ๊กผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับนายปัญญาที่ถูกยิงเสียชีวิต กับ นายฉัตรชัย หรือ บังเลาะ สองคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ที่เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายปัญญา อายุ 45 ปี ชาว จ.ภูเก็ต คนเชียร์แขก ซ.ป่าตองทาวเวอร์ เสียชีวิตภายใน ซ.ป่าตองทาวเวอร์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้เข้ามอบตัว พร้อมอาวุธปืนของกลาง หลังถูกเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทหารและฝ่ายปกครองกดดันอย่างหนัก อีกทั้งสำนึกในความผิดจึงเข้ามอบตัว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมร่วมสอบปากคำ เพราะบันดาลโทสะที่เข้าไปห้ามไม่ให้มีเรื่องทะเลาะกัน

นายฉัตรชัย หรือ บังเลาะ หนึ่งได้ผู้เข้ามอบตัว กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดเรื่องหรือมีผู้เสียชีวิต แต่พอไปถึงกับถูกผู้เสียชีวิตใช้ท่อนเหล็กไล่ทำร้าย โดยใช้เหล็กตีเข้าที่ใบหน้าจนล้มคว่ำไป ซึ่งบาดแผลก็ยังมีอยู่เหตุที่เข้าไปก็เพื่อที่จะห้ามปราบไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้น แต่ด้วยผู้เสียชีวิตทำร้ายตนก่อนจึงเกิดอารมณ์โมโหขาดสติและตอบโต้ไป รวมทั้งอยากขอโทษผู้ตายและครอบครัวว่าไม่ตั้งใจยิง แค่เพียงยิงสกัดให้หยุดเท่านั้น

พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 23 มิถุนายน 2562 ได้เหตุทะเลาะวิวาท เกิดการชกต่อย และใช้อาวุธยิงกันเสียชีวิต จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุชกต่อยกันคือ นายณรงค์ กับ นายปัญญา เนื่องจากมีการโต้เถียงกัน และนายณรงค์ ได้ไปตามนายฉัตรชัย หรือบังเลาะ ซึ่งมีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย เมื่อมาเริ่มแรกก็พยายามห้ามปราม แต่กลับถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกพามายิงไปที่ผู้เสียชีวิต 1 นัด หลังเกิดเหตุก็ได้หลบหนีไป

ปืนที่ใช้ก่อเหตุ

แต่ต่อมาได้สำนึกผิด จึงได้มีการติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอมอบตัว อันเนื่องมาจากถูกกดดันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือปกครอง ทหารและตำรวจ ส่วนผู้ก่อเหตุคนอื่นๆ จากการสอบสวนจะเหลืออีก 1 คน ส่วนข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต “สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ ฝ่ายผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้เข้าไปพูดจาตักเตือนคนทางฝั่งของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีพฤติกรรมคล้ายกับจะไปตบทรัพย์นักท่องเที่ยว จึงเกิดความไม่พอใจกันขึ้น จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาท และเสียชีวิตในที่สุด

โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตจากการสอบสวน ทราบว่าไม่ใช่หัวหน้าวิน และไม่ได้เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง สำหรับผู้เสียชีวิตไม่ได้เป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแต่อย่างใด โดยมีอาชีพหาแขกหรือเชียร์แขก ซึ่งสิ่งที่เราต้องการคือ การสร้างความมั่นใจว่า มีความพร้อมในการดูแลคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุทะเลาะกันเฉพาะหน้า และก่อเหตุขึ้นดังกล่าว

พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบปากคำนายณรงค์ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุรู้จักกันแต่ไม่สนิทสนมกันเนื่องจากมีวินรถตุ๊กตุ๊กอยู่ตรงข้ามกัน และเห็นพฤติกรรมของสาวประเภทสองที่ผู้เสียชีวิตดูแลไปหากินกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการล่อลวงตบทรัพย์ จึงได้เข้าไปตักเตือนด้วยความหวังดี เนื่องจากการหลอกลวงหรือตบทรัพย์นักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทำให้ฝ่ายของผู้เสียชีวิตไม่พอใจ จนเกิดการชกต่อยและใช้อาวุธยิงกันจนเสียชีวิตดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook