คลิปมัดตัว! หนุ่มสุดกร่างเมาแล้วขับ ชนเขาไม่สำนึก-ง้างหมัดชกคู่กรณี

คลิปมัดตัว! หนุ่มสุดกร่างเมาแล้วขับ ชนเขาไม่สำนึก-ง้างหมัดชกคู่กรณี

คลิปมัดตัว! หนุ่มสุดกร่างเมาแล้วขับ ชนเขาไม่สำนึก-ง้างหมัดชกคู่กรณี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มกระบะเมากร่างสุดตัว ซิ่งรถปาดไปมาเฉี่ยวรถคันอื่น คู่กรณียกโทรศัพท์โทรหาประกัน กลับโดนชกหน้าอย่างจัง สุดท้ายไปไม่รอด ซิ่งไปเฉี่ยวรถอีกคัน-คว่ำพังยับเยิน

คลิปภาพเหตุการณ์ที่เผยให้เห็นชายหนุ่มไม่สวมใส่เสื้อ กำลังเปิดฉากทะเลาะกับหนุ่มใส่เสื้อขาว ที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ พร้อมกับพยายามยื้อแย่งชิงโทรศัพท์ไป ก่อนจะชกเข้าใบหน้าหลายครั้ง โดยมีเสียงของผู้ถ่ายคลิปตะโกนคำสบถออกมาว่า "เฮ้ย...มึงต่อยพ่อกูเหรอ!?" โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 ก.ค.)

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดตามสอบถามไปยังผู้ที่อยู่ในคลิปดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายณัฏฐิพล อายุ 35 ปี และเป็นผู้ที่ถูกชกที่ใบหน้าและถูกทำร้ายร่างกาย โดย นายณัฏฐิพล เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว เดินทางมากับภรรยาและลูกชาย กำลังจะชะลอรถจะเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันบางจากในอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าเติมน้ำมัน

แต่ปรากฏว่ามีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ขับสวนทางมาอีกเลนด้วยความเร็ว ทำให้เกิดเฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถของตน ตนจึงได้จอดและลงจากรถไปตรวจสอบ พร้อมกับยกโทรศัพท์เรียกประกันภัย แต่ปรากฏว่าคู่กรณีไม่ยอมให้ใช้โทรศัพท์ กระทั่งมีการยื้อแย่งดึงโทรศัพท์ไปจากตน ก่อนที่คู่กรณีจะชกเข้าที่ใบหน้า

หลังจากนั้นคู่กรณีได้ขับรถหลบหนีไปตามถนนเส้นพานทอง-บ้านเก่า กระทั่งมามาถึงบริเวณปั๊ม ปตท. รถของคู่กรณีได้ชนท้ายของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ อีกครั้ง ทำให้รถของคู่กรณ๊เกิดพลิกคว่ำ สภาพพังยับเยิน จนไม่สามารถขับต่อไปได้อีก

ต่อมา พ.ต.ต.สมศักดิ์ ใจแล สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพานทอง ได้รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้พบกับ นายเอกชัย อายุ 29 ปี คนขับรถกระบะคันดังกล่าว อยู่ในสภาพคล้ายมึนเมาสุรา จึงได้นำตัวมาที่ สภ.พานทอง พร้อมกับตรวจวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ก่อนจะพบค่าสูงถึง 201 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

หลังจากนั้นจึงได้แจ้ง 2 ข้อหาหนัก ฐานขับรถในขณะมึนเมา และขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นตามคลิปนั้นได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลพานทอง เพื่อนำหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook