บุกบ้านจับหนุ่มเชือด "ม้า" แล่เนื้อขายออนไลน์ อ้างเลิกทำแล้วหลังถูกกรรมตามสนอง

บุกบ้านจับหนุ่มเชือด "ม้า" แล่เนื้อขายออนไลน์ อ้างเลิกทำแล้วหลังถูกกรรมตามสนอง

บุกบ้านจับหนุ่มเชือด "ม้า" แล่เนื้อขายออนไลน์ อ้างเลิกทำแล้วหลังถูกกรรมตามสนอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บุกบ้านจับหนุ่มเชือด "ม้า" แล่เนื้อขายออนไลน์ อ้างเลิกทำแล้วหลังประสบอุบัติเหตุขาหัก หวั่นเป็นผลของการทำบาปกับม้า

(20 ก.ค.62) เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบกรณีการทารุณกรรมสัตว์โดยการนำม้ามาฆ่าเพื่อชำแหละเนื้อจำหน่าย หลังได้รับการร้องเรียนจาก “กลุ่มมูลนิธิวอทซ์ด็อกซ์ ไทยแลนด์” ว่ามีชายไทยนำม้ามาฆ่าจำหน่ายมาเป็นเวลานานแล้ว โดยมีการนำเนื้อไปขายทั้งในตลาดสดในพื้นที่ และทางเฟซบุ๊กกิโลกรัมละ 220 บาท ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์อย่างมาก จึงนำกำลังเข้าสืบหาข่าวก่อนบุกเข้าตรวจค้นที่บ้านพักเลข ที่ 40 ม.5 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบ นายนิรันดร์ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าของเฟซบุ๊กอยู่ภายในบ้าน ซึ่งมีกลิ่นคาวเลือดแห้งเกรอะกรังที่พื้น พร้อมกะโหลกศีรษะม้าจำนวน 1 ชิ้น

นอกจากนี้ในที่ ดินข้างเคียงกันพบม้าเพศผู้ สีเทา ไม่ทราบอายุอีก 1 ตัวถูกล่ามไว้ โดยที่พื้นพบเศษซากกระดูกกรามม้าอีก 1 ชิ้นจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวน นายนิรันดร์ ให้การว่าทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยอยู่กับตาที่บ้านจนกระทั่งตาเสียจึงทำเพียงลำพัง โดยไปหาซื้อม้าที่หมดสภาพ อาทิ เช่น หรือพิการขาหัก มาจากฟาร์มช้างในพื้นที่บางละมุง มาเลี้ยงไว้ จากนั้นก็จะจ้างคนเชือดมาเชือดและชำแหละเนื้อม้าเพื่อนำไปจำหน่ายตามตลาดสด หรือตามออร์เดอร์ที่มีคนสั่งในพื้นที่หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กขายไปด้วยในกิโลกรัมละ 220 บาท ซึ่งได้ทำมาประมาณ 5-6 ตัวเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้เลิกทำไปประมาณ 1-2 เดือนแล้ว เนื่องจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถชนขาหัก จึงเกรงว่ามีสาเหตุมาจากการกระทำดังกล่าว ส่วนตัวล่าสุดที่เลี้ยงไว้นั้นก็จะขายเป็นตัวแต่ไม่ได้นำไปฆ่า เพียงคนซื้อต้องการซื้อไปเพื่อไปปล่อยเป็นการไถ่ชีวิตเท่านั้น

ขณะที่ตัวแทนจากกลุ่มมูลนิธิวอทซ์ด็อกซ์ไทยแลนด์ กล่าวว่ามีการร้องเรียนผ่านมูลนิธิมาเป็นเวลานานแล้วเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และมีข้อมูลเป็นภาพการจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊กส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะมีการลบเพจดังกล่าวไปแล้ว แต่ทางมูลนิธิสามารถรวบรวมไว้ได้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการส่งดำเนินการ

ทั้งนี้ทราบว่า เคยมีม้าอยู่ในการครอบครองของนายนิรันดร์ ถึง 10 ตัว แต่ปัจจุบันเหลือเพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งการกระทำนี้ถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งได้กระทำสำเร็จไปแล้ว และอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.โรงฆ่าสัตว์ พ.ร.บ.อาหารและสาธารณสุข และโรคระบาดอีกด้วย

ด้าน พ.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่าหลังรับแจ้งก็ได้จัดส่งกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่ามีการกระทำดัง กล่าวจริงจึงได้นำกำลังลงพื้นที่และเข้าตรวจสอบจับกุม อย่างไรก็ตามเบื้องต้นก็ได้ยึดหลักฐานทั้งหมดไว้ พร้อมเอกสารจากทางมูลนิธิเพื่อนำมาประกอบการในการดำเนินคดีว่าเข้าข่ายความผิดด้านใดบ้าง พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือจากพยานที่จะมาซื้อม้าไปเพื่อไถ่ชีวิตไปสอบปากคำด้วย ซึ่งจะได้ส่งตัวนายนิรันดร์ ให้พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เจ้าของพื้นที่ดำเนินการต่อไป.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook