เปิดใจอดีตวิศวกรชาวดัตช์ ยื่นฟ้องโรงพยาบาลดังเก็บค่าบริการเกินจริง 250 บาท มาตลอด 4 ปี

อดีตวิศวกรชาวเนเธอร์แลนด์ เปิดใจ สาเหตุที่แจ้งความให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลดัง หลังเรียกเก็บค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) เกินกว่าความเป็นจริงมา 250 บาท ไม่ตรงกับระเบียบของกรมบัญชีกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ก.ค.) ได้เดินทางไปพบกับ นายเออร์วิน โรเบิร์ต บูซเซอร์ อายุ 50 ปี อดีตวิศวกรรถไฟชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพเกษตรกรเลี้ยงแพะ โดยพักอาศัยกับภรรยาชาวไทย ที่ตำบลคลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังทราบว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน เพื่อให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุเพราะเรียกเก็บค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) เกินกว่าความเป็นจริง โดยไม่ได้ระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขรองรับ เข้าข่ายประพฤติมิชอบ 

นายเออร์วิน โรเบิร์ต บูซเซอร์ เล่าให้ฟังว่า ตนร้องเรียนโรงพยาบาลดังกล่าวที่เก็บค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) เกินจริง ซึ่งตนป่วยเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ต้องรับการรักษาทุก 3 เดือน โดยจะขี่รถจักรยานยนต์จากอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว ระยะทางไปกลับราว 200 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือในการรักษาโรคที่ตนป่วย

ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้จ่ายค่าบริการด้วยเงินสด เป็นจำนวน 3 แสนบาทกว่าบาท เป็นค่ายาค่าเวชภัณฑ์ ค่ารักษา ตนเองยินดีจ่ายเงินในส่วนที่ต้องจ่าย แต่กรณีค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) ที่บวกเพิ่มอีก จำนวน 300 บาท ผิดไปจากโรงพยาบาลอื่น ที่ให้ชำระแค่ 50 บาท

ซึ่งไม่ได้มีระเบียบกระทรวงรองรับหรือกำหนดเป็นกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง ปัจจุบันยังคงเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่เพราะเพื่อนชาวต่างชาติทุกคนบอกเหมือนกันว่า โดนเรียกเก็บด้วยเช่นกับตน

ที่ผ่านมาตนได้ ทำหนังสือร้องเรียนสอบถามไปยังกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ดำรงธรรม และ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบว่า กรณีที่โรงพยาบาลเรียกเก็บเงินค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) ครั้งละ 300 บาท ในขณะที่โรงพยาบาลอีกแห่งเสียค่าบริการในส่วนค่าบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ครั้งละ 50 บาทนั้น มีความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่

ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้แจ้งเบื้องต้นว่า เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ จึงเก็บค่าบริการครั้งละ 300 บาท หรือในอัตรา 15% ซึ่งตั้งแต่ตนรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลมา พบว่ามีเงินส่วนต่าง รวมทั้งหมด 12,746  บาท

สำหรับค่าบริการจำนวน 300 บาทที่เรียกเก็บนั้น กรมบัญชีกลางได้กำหนดอัตราค่าบริการสาธารณสุข ซึ่งเป็นค่าบริการผู้ป่วยนอก ราคา 50 บาท กลับแจ้งเป็นค่าบริการผู้ป่วยนอก (ต่างชาติ) ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในการเบิกจ่ายค่าบริการสำหรับหน่วยงานรัฐ  

นอกจากค่าบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ที่เก็บเกินครั้งละ 300 บาทแล้ว พบว่ายังมีการเก็บค่าบริการและค่าเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ซึ่งไม่ตรงกับระเบียบของกรมบัญชีกลาง ที่ได้กำหนดอัตราค่าบริการสาธารณสุข เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยา ชิ้นเนื้อขนาดกลาง 2-5 เซนติเมตร เก็บค่ารักษา 575 บาท ค่าทำหัตถการและวิสัญญี Cystoscope เก็บค่ารักษา 2,300  บาท

ทั้งนี้ สาเหตุที่ตนลุกขึ้นมาฟ้องร้องให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลนั้น เพราะต้องการให้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เหตุใดจึงมีการเก็บค่าบริการเกินจริงที่ผ่านมา 4 ปี มีการบ่ายเบี่ยงในการชี้แจงมาตลอด  แต่ละหน่วยงานโอนเรื่องกันไปมา อยากให้คนทุจริตถูกลงโทษ เพราะกรณีนี้คือการคอรัปชั่นในหน่วยงานรัฐ