4โจรใต้เหยื่อวิ มือยิงหมวดตี้

4โจรใต้เหยื่อวิ มือยิงหมวดตี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พระราชทาน! พวงมาลาครู

ในหลวง-พระราชินี พระบรม วงศานุวงศ์ทุกพระองค์พระ ราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบ ศพครูยะลาตร.ปัตตานีเหยื่อโจรใต้ เผยประวัติ มะซอบี 1 ใน 4 คนร้ายที่ถูกวิสามัญฯ มีหมายจับ 16 คดี โยงฆ่า หมวดแคน-หมวดตี้ ถล่มรถตู้ 8 ศพ ตัดคอชาวบ้าน มาร์ค ชี้ส่งหน่วยรบพิเศษลงพื้นที่ใต้เป็นเรื่องปกติ ยันไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางดับไฟใต้ ได้หลักฐาน ดีเอ็นเอ มัดคนร้ายยิงถล่มมัสยิด ยันไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่วัดเลียบ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นายประมุข ลมุล รองผู้ว่าฯปัตตานี อัญเชิญพวงมาลาพระ ราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ 11 พระองค์ วางประดับหน้าหีบศพด.ต.วิเชียร บุญเพชรศรี อายุ 55 ปี ตำรวจสภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดซุกซ่อนไว้ในรถจักรยานยนต์ของกลางที่หน้าสภ.สายบุรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนพิธีฌาปนกิจจะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย.

วันเดียวกัน เวลา 17.00 น. ที่ศาลาสวดพระอภิธรรม ฌาปนสถานเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าฯยะลา เป็นผู้แทนอัญเชิญพวงมาลาพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์รวม 11 พระองค์ วางหน้าหีบศพน.ส.เลขา อิสสระ ครูโรงเรียนบ้านพอแม็ง อ.รามัน จ.ยะลา ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ยังความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวอิสสระเป็นล้นพ้น

ทั้งนี้ จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. เวลา 13.00 น. ที่ฌาปนสถานเทศบาลนครยะลา

สำหรับน.ส.เลขาเสียชีวิตเนื่องจากถูกคนร้ายยิงขณะขี่รถจักรยานยนต์เดินทางออกจากบ้านพัก เพื่อไปสอนหนังสือที่โรงเรียนบ้านพอแม็ง เหตุเกิดบนถนนสายรามัน-พอแม็ง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ศูนย์ประสานงานเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ จ.ยะลา รายงานสถาน การณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.กรงปินัง และ อ.ธารโต 2 เหตุการณ์ มีชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย เหตุแรกเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. ขณะที่นายดอแม อภิบาลแบ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ม.1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา กลับจากละหมาดที่มัสยิด เมื่อมาถึงบนถนนสายสะเอ๊ะ-ฆอรอราแม บ้านจาซีโป๊ะ ม.5 ต.สะเอ๊ะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม ใช้ปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงใส่ กระสุนปืนถูกบริเวณศีรษะและลำตัวจำนวนหลายนัดจนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 3 ปลอก

อีกราย เวลา 21.30 น. ขณะที่นายอุสมัน หาซิ อายุ 21 ปี และนายนูรดิน สาเมาะ อายุ 16 ปี นั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ บ้านเจาะซีโป๊ะ ม.8 ต.บ้านแหร อ.ธารโต มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิงจนทั้งสองคนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชาย แดนภาคใต้ (ศชต.) พร้อมด้วย พล.ต.ต. ไพฑูรย์ ชูชัยยะ พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข รองผบ.ศชต.เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุหลังเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย ม.8 บ้านตือระ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้าย ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 4 คน เจ้าหน้าที่ยึดปืนหลายรายการ ตรวจค้นในแอ่งน้ำหลังบ้านที่เกิดเหตุ พบแม็กกาซีนปืนอาก้า ซองปืนพกสั้นกับถุงมือ คาดว่าเป็นของกลุ่มคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ท.พีระ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่วิสามัญกลุ่มคนร้าย 4 คน และหลบหนีไปได้จำนวนหนึ่ง คนร้ายเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุช่วงหลังวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเคยก่อเหตุยิงรถตู้โดยสารสายหาดใหญ่-เบตง ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ฆ่าตัดคอประชาชนที่อยู่ในสวนยาง และยิงส.ต.ต. เกรียงไกร และขโมยปืนไป ซึ่งพบปืนของ ส.ต.ต.เกรียงไกร เป็นปืนของกลางที่ยึดได้เมื่อวานนี้ นอกจากนั้นยังเชื่อมโยงกับการยิงตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งร.ต.อ.ธรนิศ ศรีสุข หรือหมวดแคน และร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ เนื่องจากปืนขนาด 9 ม.ม. ของหมวดแคนพบอยู่ในมือของคนร้ายที่เสียชีวิตด้วย

สำหรับกลุ่มคนร้ายชุดดังกล่าวมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมมาก โดยเฉพาะนายมะซอบี ยะโก๊ะ หนึ่งในคนร้ายที่เสียชีวิต มีหมายจับป.วิอาญา 16 เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา เป็นกลุ่มเครือข่ายใหญ่ที่ก่อเหตุในพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากประชาชนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ กลุ่มคนร้ายมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.กรงปินัง และต.ปะแต บางครั้งเข้า ไปในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา ช่วงหลังกลุ่มคนร้ายสามารถเคลื่อนไหวนอกพื้นที่ได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมมากๆ ทำให้กลุ่มคนร้ายเล็กลง และเปลี่ยนยุทธวิธีโดยแลกพื้นที่กันก่อเหตุ พล.ต.ท.พีระ กล่าว

พล.ต.ท.พีระ กล่าวต่อว่า จากนี้ไป เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้คนร้ายตอบโต้กับผู้บริสุทธิ์ กลุ่มคนร้ายพยายามตอบโต้ทุกครั้ง จากเป้าหมายหลักไม่ได้ จะเป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ ครู ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม นอกจากนี้ ตำรวจประสานกับทหาร ช่วงนี้ต้องปูพรมกับการตรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจยานพาหนะให้มากขึ้น

วันเดียวกัน นางพิมพลักษณ์ บุญลือ รองผอ.โรงเรียนบ้านหมี่วิทยา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มารดาของหมวดตี้ เปิดเผยว่า ดีใจที่ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ระบุว่า 1 ใน 4 คนร้ายที่ถูกวิสามัญเมื่อวานนี้ มีหมายจับ 16 คดี รวมถึงคดียิงร.ต.อ.ธรนิศ และร.ต.ต.กฤติกุล บุตรชาย หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัว บุญลือ หายกังวลใจเพราะคนที่ลงมือทำร้ายบุตรชายของตน จะได้ไม่ต้องไปเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเพราะในวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. จะเป็นวันครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของหมวดตี้ ขณะเดียวกันเป็นวันเกิดของหมวดตี้ด้วย ทางครอบครัวจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เวลา 11.00 น. ที่บ้านเลขที่ 56/1 ม.1 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และจะเปิดตัวสายรัดข้อมือหรือริสต์แบนด์ ที่กลุ่มเพื่อนหมวดตี้จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสายรัดข้อมือสีเลือดหมู ซึ่งเป็นสีของตำรวจ พิมพ์ข้อความว่า ที่ระลึกครบรอบ 1 ปีหมวดตี้ จะจำหน่ายราคาเส้นละ 100 บาท รายได้ทั้งหมดจะเข้ากองทุนหมวดตี้ เพื่อสนับสนุนข้าราชการในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเป็นกองทุนส่งเสริมเด็กนักเรียนที่ต้องการเป็นตำรวจเหมือนหมวดตี้

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีบางส่วน บังเอิญเมื่อวานอยู่ในสภาด้วยกัน นายสุเทพย้ำเรื่องการไปติดตามคดีที่อยู่ในความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีผลกระทบในพื้นที่

เมื่อถามว่าที่มีการส่งกำลังหน่วยเฉพาะกิจลงไปในพื้นที่เพิ่มเติมนั้นเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นงานที่ฝ่ายความมั่นคงต้องทำต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องการที่เราดูแลความปลอดภัยของคนและป้องกันไม่ให้คนกระทำความผิด เป็นเรื่องปกติที่ต้องทำ กำลังที่ต้องลงไปอยู่ตรงนั้นมากก็ต้องทำสิ่งนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปเปลี่ยนแปลงแนว ทาง เพราะแนวทางหลักคือเรื่องกระบวนการพัฒนา ส่วนเรื่องนี้ก็เป็นการดูแลรักษากฎหมายและความเรียบร้อย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนติดต่อกับนางอังคณา นีละไพจิตร ทราบข้อมูลที่นางอังคณาระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการตามข้อมูลที่คน ในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสและเสนอข้อเรียกร้อง ตนชี้แจงเรื่องนี้ในสภาว่าเบื้องต้นที่ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมันต่างจากเหตุ การณ์ที่เห็นชัดเจนว่าเป็นการปฏิบัติการของภาครัฐ เช่นเหตุการณ์ที่กรือเซะ ตากใบนั้นเป็นปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ แต่เหตุการณ์ปิดล้อมยิงมัสยิดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร ตนให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้สืบสวนสอบสวน ถ้าไม่สามารถทำงานได้ หรือเมื่อทำงานไปแล้วเห็นได้ชัดว่าจะไม่เกิดความน่าเชื่อถือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การลงพื้นที่ของนายสุเทพก็มีความคืบหน้า และมีการกำชับอย่างชัดเจนในเชิงนโยบายว่าต้องทำอย่างตรงไปตรงมา จะเป็นใครก็ตาม หรือฝ่ายไหนก็ตาม ก็ต้องเอาตัวมาดำเนินคดีให้ได้

นายกฯ กล่าวด้วยว่า กระบวนการพัฒนาต้องดำเนินการควบคู่ไปกับร่างพ.ร.บ.สำนักบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) โดยร่างที่มีอยู่ทั้ง 3 ฉบับจะต้องนำมารวมกัน โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเป็นผู้ดำเนินการ คิดว่ากฎหมายน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในสมัยประชุมหน้าได้ แต่ขณะนี้ร่างกฎหมายใหม่ยังมาไม่ถึงตน แต่หลักคือฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายนโยบายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด แต่ก็ยังมีข้อเสนอที่ไม่ตรงกัน เพราะบางคนอยากให้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย บางคนให้มาอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี และบางคนบอกว่าให้ขึ้นกับนายกฯ โดยตรง แต่ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการแย่งอำนาจกัน โดยตนคุยกับรมว.กลาโหม และผบ.ทบ.แล้ว จึงไม่มีประเด็นการแย่งอำนาจกันแน่นอน

ด้านนายสุเทพ กล่าวถึงการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า สาเหตุที่ต้องลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพราะมีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือต้องไปร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยบอกให้เขาฟังว่าคนไทยในจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศมีความกังวลต่อสถานการณ์ ในภาคใต้ และปรารถนาจะเห็นกองกำลังเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ประกอบอาชีพสุจริต รวมทั้ง ครู พระ และโต๊ะอิหม่าม ให้เข้มข้นมากขึ้น ตนทราบดีแล้วว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนัก แต่อยากให้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นเพราะประชาชนคาดหวังมาก

นายสุเทพ กล่าวถึงความคืบหน้าคนร้ายบุกยิงมัสยิดนั้นว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่ามีหลักฐานดีเอ็นเอแต่ไม่สามารถพูดได้ จึงเร่งรัดว่าต้องรีบออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีให้ได้ โดยย้ำคำสั่งของนายกฯ ว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนต้องโปร่งใส ต้องได้ผู้ต้องหาตัวจริง ไม่ใช่แพะ และยืนยันได้เพียงว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายบ้านเมืองอย่างที่มีความพยายามจะชักชวนให้ประชาชนไขว้เขวแน่นอน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า นายกฯ ให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชา ชน และกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถป้องกันตนเองได้ ไม่ว่าครูหรือพระ ให้ดูแลอย่างเข้มข้น รัดกุม ไม่ให้เกิดการสูญเสีย โดยให้กอ.รมน. และกองทัพบกร่วมกันปฏิบัติและพิจารณาว่าจะใช้กำลังจากส่วนใดปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นด้วย กำลังของกองทัพที่ลงไปเพื่อดูแลประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความเข้าใจและดูแลความปลอดภัย โดยกำลังส่วนหนึ่งยังต้องทำหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุกอยู่

ผบ.ทบ. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการยิงกราดมัสยิดซึ่งตรวจพบดีเอ็นเอของคนร้ายนั้น มีความคืบหน้าในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ตนไม่สามารถพูดได้ เพราะเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งใช้หลักกฎหมายและพยานหลักฐาน พยานบุคคลเป็นหลักมากกว่าที่จะสันนิษฐานไปตามสภาพแวดล้อม ขณะนี้ตนให้แม่ทัพภาค 4 และผอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องถึงการที่เจ้าหน้าที่มีความเคลื่อนไหวในลักษณะใด

(กรอบบ่าย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook