เปิดทาง''โฟล์ค''ผุดรง.ในไทย คาดทุ่มลงทุน2.7หมื่นล้านผุดซิตีคาร์ ''อัพ'' ขายทั่วโลก

เปิดทาง''โฟล์ค''ผุดรง.ในไทย คาดทุ่มลงทุน2.7หมื่นล้านผุดซิตีคาร์ ''อัพ'' ขายทั่วโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วงการรถยนต์ชี้บีโอไอออกแผนส่งเสริมลงทุนใหม่เปิดทาง โฟล์คสวาเกนสร้างโรงงานผลิตเก๋งเล็กในไทย คาดทุ่ม 2.7 หมื่นล้าน ผลิตซิตีคาร์ อัพ เครื่องยนต์1.2 ลิตรขายทั่วโลก

นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่โดยมีเป้าหมายกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มเติม เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูง ก่อให้เกิดการจ้างงานมากมาย แต่เงื่อนไขวงเงินค่อนข้างสูงมาก คือไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์ ที่ใช้วงเงินลงทุนเฉลี่ย 5,000 ล้านบาทเท่านั้น

ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมบริษัทรายใหม่ให้เข้ามาตั้งโรงงานแห่งใหม่ ขณะที่ค่ายรถยนต์ที่มีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้วคงไม่สามารถลงทุนด้วยวงเงินขนาดนั้นได้ ค่ายรถยนต์ที่พร้อมจะลงทุนด้วยวงเงินลงทุนสูงขนาดนั้นเหลืออยู่ไม่กี่ราย ไม่ว่าจะเป็นค่ายโฟล์คสวาเกน ที่เคยมีแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย และเคยยื่นแผนลงทุนในโครงการอีโคคาร์ของบีโอไอ แต่สุดท้ายก็ขอถอนเรื่องออกไป

นอกจากนี้ อาจมีค่ายรถยนต์จากเกาหลีใต้ ที่ยังไม่มีโรงงานในไทย หรือแม้แต่ค่ายรถทาทา จากอินเดีย ก็ยังไม่มีโรงงานของตัวเอง

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีรายงานจาก สำนักข่าวในอังกฤษว่า โฟล์คสวาเกนกรุ๊ป ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี มีความต้องการสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทุ่มเงินลงทุนครั้งใหญ่ถึง 27,000 ล้านบาทหรือประมาณ 912 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ใกล้กับกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้โฟล์คมีกำลังการผลิตรถยนต์จากปีละ 3.4 ล้านคันในปี 2551 เป็น6.5 ล้านคันในปี 2561โดยโครงการนี้ จะผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน ที่มีมลพิษต่ำ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 192 กรัมต่อไมล์ โดยผลิตมาแข่งขันกับโตโยต้า ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน มิตซูบิชิ และทาทา ที่ร่วมโครงการอีโคคาร์

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของโฟล์คสวาเกน ที่ได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์ ซิตีคาร์ ในชื่อ โฟล์คสวาเกน อัพ( UP) ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กสำหรับการใช้งานเมืองใหญ่ มีดีไซน์เรียบง่าย เตะตา ออกแบบเพื่อเป็นรถของประชาชน ใช้เครื่องยนต์ สามสูบ ขนาด 1.2 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า มีทั้งแบบสามประตู และห้าประตู

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่งฯ และนายกสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย เปิดเผยว่า เมื่อสิ้นปี 2551 อุตสาหกรรมรถยนต์ไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2552 จะมีการผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 1.08 ล้านคัน โดยเป็นการผลิตเพื่อป้อนความต้องการภายในประเทศ 488,000 คัน และผลิตเพื่อส่งออก 592,000 คัน แต่วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นต้นปี 2552 ทำให้ยอดขายและยอดส่งออกลดลงกว่าที่คาดคิดไว้มาก ทำให้ขณะนี้ ต้องลดเป้าหมายการผลิตเหลือเพียง 940,000 คัน เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 430,000 คัน และผลิตเพื่อส่งออก 510,000 คัน

(ล้อมกรอบ)

บีโอไอออกแผนการส่งเสริมการลงทุนใหม่สำหรับโครงการผลิตรถยนต์รายใหม่ โดยจะได้การยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนาน 5 ปี สำหรับโครงการลงทุนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท และยกเว้น 6 ปี สำหรับโครงการที่มีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท และจะได้การส่งเสริมอีกกรณีละ 1 ปี หากยื่นคำขอภายในปี 2552 โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้รับการส่งเสริมลงทุนต้องมีวงเงินลงทุนไม่รวมที่ดินและเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท จะต้องมีกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คัน ภายใน 3 ปีแรก และจะต้องลงทุนสร้างสายการประกอบรถยนต์ใหม่ รวมทั้งมีการผลิตรถยนต์แบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อน เช่นรถยนต์ลูกผสมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าหรือรถไฮบริด นอกจากนี้ ต้องทำการลงทุนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook