แกล้งชน ท้ายเสี่ย! คาสี่แยก ปืนจ่อหัว ชิงนับล้าน

แกล้งชน ท้ายเสี่ย! คาสี่แยก ปืนจ่อหัว ชิงนับล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
2 โจรจยย. ลงมืออุกอาจกลางวันแสกๆ แกล้งขับรถชนท้ายฟอร์จูนเนอร์เสี่ยปั๊มน้ำมันกลางสี่แยกไฟแดง พอเหยื่อหลงกลลงมาเจรจา ก็ชักปืนจ่อหัวเชิดกระเป๋าเงินไป รวมทรัพย์สินนับล้านบาท เหยื่อเผยก่อนเกิดเหตุ นั่งรถมากับน้องสาว 2 คน มาเก็บเงินสดจากปั๊มจะนำไปฝากแบงก์ พอออกจากปั๊มได้แค่กิโลฯเดียวมาติดไฟแดง โจรที่เตรียมแผนการมาอย่างแยบยลก็ลงมือทันที

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. พ.ต.ท.วิเชียร ไตรโลกา สารวัตรเวรสอบ สวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ก่อเหตุชิงทรัพย์ เหตุเกิดกลางแยกไฟแดงคลังน้ำมัน ถนนลำลูกกาคลองสี่ขาเข้า ต.ลาดสวาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ. อนุสรณ์ กลิ่นขจร ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ศฮ 1218 กทม. จอดอยู่ริมไหล่ทาง ผู้เสียหาย 2 คนรออยู่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ชื่อนายเกียรติ ชัย ภมรเวชวรรณ อายุ 54 ปี และนางจงจิตต์ วชิรเสรีชัย อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน และเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ย่านลำลูกกา คลองสี่

จากการสอบสวนนายเกียรติชัยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและน้องสาวซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มคาลเท็กซ์ ได้เดินทางมาที่ปั๊มเพื่อเก็บเงินค่าน้ำมันหน้าลานจากพนักงานยอดเงินกะเย็นเมื่อวานและกะเช้าวันนี้ รวมเป็นเงิน 4 แสนกว่าบาท จากนั้นได้ขับรถออกมาจากปั๊ม เพื่อนำเงินจะไปเข้าธนาคารที่ห้างบิ๊กซี คลอง 6 ไม่ไกลจากปั๊ม แต่เมื่อตนเองขับรถออกมาจากปั๊มประมาณ 1 ก.ม. มาติดอยู่ที่แยกไฟแดงคลังน้ำมัน จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนนต์แล่นมาชนท้ายรถของตนเอง ตนเปิดประตูรถลงมาดู โดยบอกน้องสาวว่าไม่ต้องลงมา เมื่อมาท้ายรถก็พบชาย 2 คน ซึ่งขับรถจักรยานยนต์แบบหญิง ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ทราบรุ่น สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนขับจักรยานยนต์เอ่ยปากขอโทษ บอกจะจ่ายค่าเสียหายให้เป็นเงิน 2,000 บาท แล้วบอกให้ตนขยับรถไปจอดข้างทางดีกว่า เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นแยกไฟแดง ตนเห็นว่าจราจรเริ่มติดขัด จึงยอมขยับรถตามที่ชายดังกล่าวบอก

นายเกียรติชัยให้การต่อว่า พอจอดรถริมไหล่ทางเรียบร้อยแล้ว ชายทั้งสองก็ตามมาจอดด้านท้ายรถ ทั้งสองพูดจาขอโทษอีกครั้ง พร้อมจะมอบเงินให้ 2,000 บาท แต่ตนเองเห็นว่ารถได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย เป็นแค่รอยขีดนิดเดียว แทบจะมองไม่เห็นรอย ทำไมให้เงินค่าเสียหายเยอะเกินเหตุ จึงบอกกับชายทั้งสองว่า เดี๋ยวขอคุยกับน้องสาวก่อน แล้วมาด้านข้างรถฝั่งที่น้องสาวตนเองนั่งรออยู่ จังหวะนั้นชายคนที่ซ้อนท้ายก็เดินตามมาด้วย ชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจี้ใส่ตนเอง และผลักจนล้ม จากนั้นหันไปที่น้องสาวตนเองที่เปิดกระจกรถไว้ ใช้อาวุธปืนจี้ที่หัว บอกให้ส่งกระเป๋าถือมา แล้วซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเดิมหลบหนีไป ตนรีบขับตามไปแต่ก็ไม่ทัน จึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับทรัพย์สินที่ถูกชิงไป เป็นกระเป๋าถือสีน้ำตาล ข้างในบรรจุเงินสด 460,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 6 บาท เช็คเงินสดลูกค้า จำนวน 2 ใบ บัตรเอทีเอ็ม เอกสารและทรัพย์สินอื่นอีก รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนรูปพรรณของคนร้าย คนขับสวมเสื้อเชิ้ตลายสกอตสีแดง กางเกงยีนส์ หมวกกันน็อกสีดำ สวมหมวกไหมพรมข้างใน คนซ้อนท้ายสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ หมวกแก๊ปสีดำ

หลังสอบสวนผู้เสียหาย ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของปั๊ม เผื่อว่าจะเห็นหน้าตาคนร้ายปรากฏอยู่ เพราะคาดว่าคนร้ายต้องมาจอดรอผู้เสียหายตั้งแต่ในปั๊ม แล้วขับรถสะกดรอยตามมา เมื่อสบโอกาสจึงทำทีให้เกิดอุบัติเหตุชนท้าย ให้ผู้เสียหายลงมาเจรจาแล้วชิงทรัพย์สินไป โดยคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อเป็นอย่างดี จะมาเก็บเงินเวลาไหน ส่วนผู้เสียหายให้การว่าเคยไล่พนักงานปั๊มน้ำมันออกไป 3-4 ราย เนื่อง จากทราบว่ามีพฤติกรรมติดยาเสพติด ซึ่งตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อมูลของพนักงานที่ถูกไล่ออกเหล่านั้นด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook