ล่ามโซ่ขืนใจดญ.13

ล่ามโซ่ขืนใจดญ.13

ล่ามโซ่ขืนใจดญ.13
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วยระทึก ด.ญ.วัย 13 ถูกขังเปลือยไว้ในบ้านพัก ล่ามโซ่ คล้องกุญแจล็อกไว้บนเตียงนอน หวีดร้องขอความช่วยเหลือจน ชาวบ้านได้ยินแจ้งตร.บุกเข้าไปช่วยไว้ได้ สอบ ถามระบุถูกโปะยาสลบนำขึ้นรถตู้มากักขัง ตร.ตรวจสอบภายในบ้านพบบัตรลูกจ้างกปน. ตกอยู่ จึงจัดกำลังเฝ้าจุดไว้รวบตัวได้ทันควันระหว่างย้อนกลับมา สารภาพหลงรักเด็กหญิงเคยชวนมานอนด้วย 2 ครั้ง สาเหตุที่จับล่ามโซ่ไว้เพราะเกรงจะหลบหนี

เวลา 15.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ร.ต.อ.เกรียงไกร แสงยศ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬา ลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายสุชาติ จงเจริญ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร.เทศบาลเมืองรังสิต ว่า มีเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ภายในบ้านเลขที่ 19 ซอยรังสิต-นครนายก 42 หมู่ 3 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี เกรงว่าจะมีเหตุอันตราย ขอให้มาตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย หลังรับแจ้งจึงไปตรวจ สอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รองผกก.ป.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองรังสิต

พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ประตูหน้าบ้านมีกุญแจคล้องอยู่อย่างแน่นหนา และยังได้ยินเสียงเด็กสาวร้อง ขอความช่วยเหลืออยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดกุญแจหน้าบ้านเข้าไปด้านใน พบด.ญ.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นั่งอยู่บนเตียงเล็กๆ ในสภาพเปลือยกาย มีโซ่ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 1 เมตร ล่ามอยู่ที่ข้อเท้าขวาและมีลูกกุญแจคล้องล็อกไว้ เจ้าหน้าที่จึงช่วยตัดโซ่ที่ล่ามข้อเท้าออก

สอบสวนในเบื้องต้น ด.ญ.อ้อย ได้ให้การว่า ตนมีบ้านพักอยู่ที่แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. เรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดุสิต ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดินกลับมาจากบ้านเพื่อน ผ่านมาทางหน้าวัดมะกอก ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อจะกลับบ้าน จากนั้นก็มีรถตู้ไม่ทราบสี และยี่ห้อ ขับมาจอดด้านข้างๆ แล้วก็มีคนร้ายลงมาจากรถแล้วใช้ผ้าปิดปากและจมูกของตน จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย มาได้สติอีกที เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. เช้าวันเดียวกันนี้ พบว่านอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน และอยู่ในสภาพเปลือยกาย โดยมีโซ่ล่ามข้อเท้าขวาอยู่ ต่อมาได้มีชาย 2 คน เข้ามาในบ้าน และซื้อข้าว 2 กล่องมาให้กิน จากนั้นทั้ง 2 คนก็หายออกไปจากบ้าน ตนจึงได้ตะโกนเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยเหลือ

ภายหลังการสอบปากคำแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวด.ญ.อ้อยส่งไปตรวจสภาพร่างกายที่ร.พ. ประชาธิปัตย์ เบื้องต้นได้ประสานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรีให้เข้ามาช่วยเหลือนำเด็กไป ดูแลสภาพจิตใจก่อน และจะได้ติดต่อญาติๆ ให้มารับตัวต่อไป

อย่างไรก็ ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวอย่างละเอียด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พบบัตรประจำตัวของพนักงานการประปานครหลวง ระบุชื่อนายสถิต ผ่องโสภณ ตกอยู่ในบริเวณบ้าน และเมื่อให้ผู้เสียหายดูแล้วก็ยืนยันว่า เป็น 1 ใน 2 คนร้ายที่อยู่ในบ้าน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนให้คอยดูความ เคลื่อนไหวบริเวณบ้านหลังดังกล่าว หากผู้ต้องสงสัยย้อนกลับเข้ามาที่บ้าน ก็ให้ควบคุมนำตัวมาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่

กระทั่ง เมื่อเวลา 15.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าซุ่มดูอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุ ก็มีชายต้องสงสัยเดินเข้ามาในบ้าน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสถิต ผ่องโสภณ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/26 หมู่ 1 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

นายสถิตรับสารภาพ ว่า ได้กักขังด.ญ.อ้อยไว้ในบ้านพักจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน โดยบอกว่าตนทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่การประปานครหลวง สามเสน และรู้จักกับด.ญ.อ้อยมาก่อนและเคยพามาที่แห่งนี้ 2 ครั้ง เพื่อร่วมหลับนอน และเมื่อคืนก็ได้รับตัวมาจากย่านอนุสาวรีย์ชัยฯและนำตัวมาอยู่ที่บ้านพักที่ เช่าเอาไว้ แต่ระหว่างที่มาอยู่ที่บ้านนั้น ด.ญ.อ้อยคอยจะหลบหนี จึงได้ไปซื้อโซ่มาล่ามขาไว้ ส่วนถุงยางอนามัยที่พบรอยแกะแล้วอยู่ที่บ้านนั้นตอนแรกตนเองคิดจะข่มขืน แต่เห็นว่าด.ญ.อ้อยเป็นประจำเดือน จึงยังไม่ทันได้ลงมือ และออกไปซื้อผ้าอนามัยมาให้ และจัดหาข้าวปลามาให้กิน และที่บอกว่าที่ตนจับตัวขึ้นรถตู้นั้นก็ไม่จริง เพราะตนไม่มีรถตู้ ยอมรับว่าชอบพอด.ญ.อ้อย แต่ฝ่ายหญิงชอบอยู่กับคนชื่อหงอก จยย.รับจ้างวินใต้ทางด่วนแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ และในวันเดียวกันนี้ก็กำลังจะติดต่อพ่อแม่ของเด็กเพื่อนำตัวกลับไปส่งที่ บ้าน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน

ด้านพ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รอง.ผกก.สส. กล่าวว่าคำให้การของผู้ต้องหาไม่ตรงกับคำให้การของด.ญ.อ้อย ซึ่งบอกว่าไม่รู้จักกับชายทั้งสองคนที่ฉุดมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ล่อไปหรือพาไปซึ่งเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร และจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนด.ญ.อ้อยจะได้ประสานงานไปยังอัยการ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อสอบปากคำตามระเบียบ และถ้าพบว่าผู้ต้องหามีการกระทำความผิดมากกว่านี้ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมและ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งด.ญ.อ้อยถูกนำตัวมาตรวจร่างกายยังห้องตรวจภายในของโรงพยาบาล

นาง ปวีณา กล่าวภายหลังการเข้าเยี่ยมด.ญ. อ้อย ว่า ในเบื้องต้นนั้นได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ในการนำตัวด.ญ.อ้อยไปดูแลเป็นการชั่วคราว พร้อม ทั้งจะประสานงานไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กให้ทราบ ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ที่ผู้ใหญ่กระทำกับเด็กหญิง จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

เมื่อ เวลา 18.30.น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.วรพจน์ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนนายสถิต ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมาได้พาผู้เสียหายมาที่บ้านหลังนี้ และร่วมหลับนอนด้วยกัน 3 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่นำมาล่ามโซ่ไว้นั้น ยังไม่ได้ทำอะไร โดยอ้างว่าเหยื่อเกิดมีประจำเดือน จึงผูกมัดล่ามโซ่และซื้อข้าวกล่องกับน้ำดื่มมาไว้ให้ และออกไปทำงานตามปกติจนกระทั่งเดินทางกลับมาที่บ้านก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมได้ สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่ตนเช่าไว้ตั้งนานแล้วจะมาพักอาศัยอยู่คนเดียวหลังจากเลิกกับภรรยาเก่า เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเพิ่มคือข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ที่มิใช่ภรรยาตนเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook