ลูกนักดาราศาสตร์ยิ้มออก ได้เงินเกือบล้านคืน สืบพบที่แท้ฝีมือสาวแบงก์

ลูกนักดาราศาสตร์ยิ้มออก ได้เงินเกือบล้านคืน สืบพบที่แท้ฝีมือสาวแบงก์

ลูกนักดาราศาสตร์ยิ้มออก ได้เงินเกือบล้านคืน สืบพบที่แท้ฝีมือสาวแบงก์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทายาทสาวนักดาราศาสตร์ชื่อดังเข้าถอนแจ้งความ หลังได้เงินกว่า 9 แสนบาทที่หายไปจากบัญชีเงินฝากคืนกลับมา ธนาคารขอโทษและแสดงความรับผิดชอบ สืบไปมาที่แท้สาวแบงก์อยู่เบื้องหลัง

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ส.ค.) น.ส.นันทกานท์ อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.(หญิง) ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อทำการถอนการแจ้งความ หลังได้รับการคืนเงินจากทางธนาคารชื่อดังแล้ว สืบเนื่องจากกรณีที่พบว่าเงินให้บัญชีเงินฝากหายไปกว่า 9 แสนบาท ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

น.ส.นันทกานท์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ทางสำนักงานใหญ่ได้รับทราบถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยจะขอเวลาสอบสวนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นเพียงไม่นาน ทางธนาคารสาขาที่เกิดเหตุก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งอีกว่า ทางสำนักงานใหญ่ได้สั่งการให้ทางสาขาจ่ายเงินคืนให้ตน

หลังจากนั้น ตนจึงได้เดินทางไปที่ธนาคารตอนเวลา 14.30 น. ทางธนาคารได้คืนเงินผ่านทางแคชเชียร์เช็คเป็นเงินจำนวน 9 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยในช่วงระหว่างนั้นอีกจำนวน 1,854.05 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 901,854.05 บาท หลังจากได้รับเงินคืนแล้วจึงได้เดินทางเข้ามาถอนแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยจะไม่ติดใจเอาความต่อบุคคลใดทั้งสิ้น

>> ลูกสาวนักดาราศาสตร์สุดช็อก บัญชีเงินหายเกือบล้าน ธนาคารได้แต่อ้ำอึ้ง

ทั้งนี้ ตนอยากจะฝากขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้ ทำให้ได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็ว พร้อมขอบคุณทางธนาคารที่ช่วยเหลือและเร่งรัดเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นทราบว่าผู้กอเหตุนั้นเป็นพนักงานสาว อายุประมาณ 30 ปี เป็นพนักงานประจำสาขา ได้กระทำการโดยการโอนเงินไปเข้าบัญชีของเพื่อน ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 โดยพนักงานสาวได้ยอมรับสารภาพ และยังทราบว่าเป็นพนักงานคนเดียวกันกับที่เคยดำเนินการเปิดบัญชีให้กับตน เมื่อครั้งมาเปลี่ยนชื่อบัญชีจากชื่อพ่อมาเป็นชื่อตน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีความเดือดร้อนอะไร จึงได้กระทำความผิดโอนเงินของลูกค้าออกจากบัญชีไป

แต่จากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เชื่อว่าน่าจะมีการวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า เนื่องจากพนักงานสาวรายดังกล่าวนี้ ได้เคยเข้ามาทำทีตีสนิทกับตนถึงยังที่บ้าน เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากได้นำเงินไปฝากเพิ่มเติมเข้าบัญชีอีกจำนวน 1.5 ล้านบาท อีกทั้งยังทำทีเป็นลูกค้ามาซื้อของที่ร้านของตนบ่อยๆ ในช่วง 3-4 วันก่อนเกิดเหตุ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพบเห็น

ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัวมาก่อน เป็นเพียงลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาอุดหนุนที่ร้าน จึงอยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ และเตือนไปยังผู้ที่อยู่กับสถาบันการเงินว่า "ความลับไม่มีในโลก อย่าคิดกระทำความผิด เพราะจะทำให้อาจถึงขั้นเสียอนาคตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook