เอือมระอาทั้งตลาด หนุ่มขาด้วนใจพิการ เร่ขายสลากฯ ใครไม่ซื้อไล่กร่างใส่

พิการทั้งตัวและหัวใจ โซเชียลแห่วิจารณ์ หนุ่มขาด้วนเร่ขายลอตเตอรี่ แต่โชว์กร่าง เหตุชาวบ้านไม่ซื้อ เลื่องลือทั้งตลาดนิสัยแย่สุดๆ โดยสาปแช่งแถมด่าซ้ำ โก่งราคาขายใบละ 120 บาท

ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้านค้าแห่งหนึ่งในภายในตลาดอ่างทอง สามารถจับภาพขณะที่ชายพิการ อายุประมาณ 50 ปี ที่เดินเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่หน้าร้าน ก่อนจะเดินออกไปและใช้เท้าถีบกระถางต้นไม้หน้าร้านจนแตก ก่อนที่จะเดินหนีไป โดยขณะเกิดเหตุเจ้าของร้านได้เดินออกมาดูด้วย แต่ชายคนดังกล่าวกลับมีทีท่าไม่สนใจ ยังเดินขายสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไปเรื่อย

หลังเกิดเหตุ นางอรพิน หรือ เจ้แอ้ว เจ้าของร้านได้ให้ลูกชายโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อเตือนภัยให้ระมัดระวังชายพิการผู้นี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมก่อเหตุเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง หากไม่พอใจชาวบ้านที่ไม่ยอมซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตัวเองนำมาเร่ขาย

นางอรพิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนนั่งอยู่ภายในร้าน ก็มีชายคนดังกล่าวที่พบพิการขาซ้ายด้วน เดินเข้ามาพร้อมทั้งบอกขายสลากฯ ให้กับตนเอง ในราคาใบละ 120 บาท ซึ่งตนเป็นคนไม่ซื้อสลากฯ อยู่แล้ว จึงบอกปฏิเสธไป เมื่อชายคนดังกล่าวเมื่อเห็นว่าตนไม่ซื้อ ก็ได้ออกปากด่าว่าใส่ตนแบบลับหลัง ก่อนที่จะเดินออกไปที่หน้าร้าน และใช้เท้าถีบกระถางต้นไม้ที่ตนตั้งเอาไว้กรวดน้ำ หลังจากทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า ทำให้กระถางร่วงแตกไปบนถนน

ตนได้ยินเสียงของแตก จึงได้เดินตามออกไป ก็ดูชายพิการคนดังกล่าวมีท่าทียียวน ก่อนที่จะเดินไปแบบทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนเห็นว่าเป็นพฤติกรรมไม่ดี จึงให้ลูกชายนำไปโพสต์เตือนในเฟซบุ๊ก ซึ่งหลังโพสต์ออกไปได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นมากมาย บางรายบอกว่า หากไม่ซื้อชายคนดังกล่าวก็จะสาปแช่ง ขอให้ชีวิตฉิบหาย ค้าขายไม่ขึ้น

แต่ถ้าใครสงสารก็จะบังคับขายสลากฯ ให้ใบละ 120 บาท แต่บังคับขายเป็นชุด 5 ใบ ราคา 600 บาท ซึ่งถ้าใครไม่ซื้อก็ต่อว่าด่าทอ หรือไม่ก็ทำพฤติกรรมต่างๆ เช่น เตะรองเท้าของเจ้าของบ้านที่ถอดเอาไว้ไปที่กลางถนน หรือเตะขวดแก้วไปกลางถนนเพื่อให้รถทับบ้าง รวมถึงบางรายเจอหนักขนาดแช่งให้เป็นมะเร็ง สร้างความเอือมระอาให้กับชาวบ้านในละแวกนี้เป็นอย่างมาก

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามตรวจสอบหาชายคนดังกล่าว ซึ่งทราบว่าตระเวนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ในตลาดอ่างทอง แต่ยังไม่พบตัว โดยชาวบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวด้วย เนื่องจากเป็นผู้พิการแต่มีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย