นายกฯเมินทักษิณโฟนอิน-จี้กลับมารับโทษ

นายกฯเมินทักษิณโฟนอิน-จี้กลับมารับโทษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 13.15 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เลขานุการ รมว.ต่างประเทศออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากดูไบ และเดินทางมายังประเทศในแถบเอเชียในขณะนี้ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยอมรับว่าได้ยินข่าวเหมือนกัน เมื่อถามว่า ขณะนี้จำเป็นต้องติดตามความเคลื่อนไหวหรือไม่ เพราะมีการโฟนอินเข้ามายังกลุ่มเสื้อแดงตลอดเวลา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การโฟนอินจะอยู่ที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเราทราบว่าอดีตนายกรัฐมนตรีพำนักอยู่ที่ไหนก็จะไปขอความร่วมมือว่า 1. อย่าให้ทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 2.อย่าทำผิดกฎหมาย 3.ถ้ามีข้อตกลงที่จะส่งตัวมาได้ก็ขอให้ส่งตัวกลับมายังประเทศไทย หลักการของเราก็มีอยู่เท่านี้

ผมไม่อยากจะพูดมากเดี๋ยวจะหาว่าผมใช้เวลาทำแต่เรื่องนี้ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานตามปกติที่จะติดตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่านายกฯ ไม่ได้หวั่นวิตกอะไรใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เพราะเราเป็นฝ่ายที่บอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาในประเทศ ไม่ใช่เราห้ามไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าหรือกลัวว่าจะเข้ามา ที่ผ่านมาตนบอกมาตลอดว่า อดีตนายกรัฐมนตรีควรกลับเข้ามารับโทษ และถ้าหากท่านจะกลับเข้ามารับโทษก็ตรงกับแนวคิดของเรา

ต่อข้อซักถามว่าคิดอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสื่อสารกับประชาชนโดยระบุว่าต้องกลับเข้ามาเพื่อล้างหนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อไว้ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ก็คิดว่าแปลกดี เพราะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ผมอยากจะย้ำเรื่องของการสร้างหนี้ต้องให้ชัดว่า ในรอบที่แล้วไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ไปกู้เงินมาจากไอเอ็มเอฟ แต่เราเข้ามาก็เข้าใจว่า คนที่ไปกู้มีความจำเป็นเราก็ทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลประชาธิปัตย์ทำงานจนกระทั่งสามารถหยุดเบิกเงินจากไอเอ็มเอฟ คือ ไม่ต้องกู้ครบจำนวน และสามารถจะใช้หนี้คืนได้เร็วก่อนกำหนด ซึ่งถ้าทำก็จะได้ผลทางการเมือง แต่เราไม่ทำ เพราะจะทำใศเสียค่าปรับ ก็ยอมไม่เสียค่าปรับ ทั้งๆ ที่ความจริงในทางการเมืองการใช้หนี้ก่อนจะเป็นประโยชน์ ดังนั้น ความพร้อมในการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเสร็จสิ้นมาก่อนที่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณจะเข้ามาเสียอีก

อีกทั้งช่วงที่คุพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในตำแหน่งก็มีการกู้เงินมากมายมหาศาล ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาท ทำงบประมาณขาดดุลอยู่ 3-4 ปี แต่ผมก็ไม่ว่าอะไร เราต้องให้ความรู้กับประชาชนว่า การที่รัฐบาลกู้เงินนั้นเป็นเรื่องปกติในการบริหารด้านการเงินการคลัง อย่าไปทำให้เกิดความสับสน ถ้าอยากจะหาเสียงด้วยวิธีดังกล่าว ก็ทำไป และอยากย้ำว่าเราต้องมาตามแก้ปัญหาทุกปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานที่วางกรอบไว้หรือไม่ เนื่องจากมีการโฟนอินเข้ามาจนเกิดความสับสน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่กระทบการบริหารเพราะแนวทางการบริหารของรัฐบาลมีความชัดเจน และยึดอยู่กับข้อเท็จจริง และหลักการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ความจริงรัฐบาลก็ไม่มีความจำเป็นในการกู้เงินถ้าไม่คิดว่าต้องทำอะไร แต่บังเอิญตนเห็นว่า 7-8 ปี ที่ผ่านมา เราปล่อยให้ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย แหล่งน้ำเสื่อมโทรม และถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องมี ก็ตัดสินใจที่จะทำและมั่นใจว่า ทำแล้วอนาคตประเทศไทยเข้มแข็งขึ้นก็จะสามารถใช้หนี้ได้ไม่มีปัญหาก็ตัดสินใจเดินหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรถึงเวลาหาเสียงเราก็จะไปบอกเองว่า ตกลงฝ่ายนั้นเขาไม่เห็นด้วยประชาชนก็จะได้ตัดสินเอง

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีตั้งข้อสงสัยหรือไม่ว่าทำไมหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงจึงไม่สามารถดำเนินการอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทั้งที่รู้ว่าอยู่หรือเดินทางไปที่ไหน ปัญหาอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศหรือปัญหาด้านการทูต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดเช่นนั้น ตัวอย่างกรณีที่เรายังมีบุคคลที่ประเทศต้องการตัวซึ่งรู้ที่อยู่เป็นหลักแหล่งเป็นสิบๆ ปี แต่ของอย่างนี้ไม่ง่าย เพราะถ้าประเทศเหล่านั้นไม่มีสนธิสัญญาก็ยาก หรือแม้จะมีสนธิสัญญาบางครั้งก็ต้องไปขึ้นศาลและต้องมีการเทียบเคียงกฎหมายของทั้งประเทศในเรื่องความผิด และขั้นตอนต่างๆ

เมื่อถามย้ำว่าปัจจุบันการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศต่อกรณีการนำตัวอดีตนายกฯ กลับประเทศมีประสิทธิภาพแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าทางกระทรวงการต่างประเทศทำงานในระดับที่เหมาะสม ได้ติดตามไปยังบประเทศต่างๆ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีเคลื่อนไหวให้ช่วยผลักดัน บางประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาก็ผลักดันให้มีขึ้น แต่งานของกระทรวงการต่างประเทศมีงานสำคัญกว่านี้อีกหลายเรื่อง อีกทั้งเราต้องให้ความสำคัญกับงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั่วไป

ขนาดทำแค่นี้ก็ยังมีคนไปบ่นว่าดีแต่ทำเรื่องนี้ ความจริงไม่ใช่ เราทำตามความเหมาะสมเท่านั้นเอง ทั้งระบบการติดตาม การนำตัวบุคคลๆ หนึ่งเข้ามาเพื่อรับโทษตามกฎหมาย นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจ้าหน้าที่ได้รายงานหรือประสานงานกับทางรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการประสานงานกับทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการประสานงานในหลายระดับแต่บังเอิญว่ามีหลายเงื่อนไข

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลตั้งใจนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษจริงหรือไม่ หรือไม่กล้าทำ เนื่องจากกลัวบ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจจริงที่จะนำตัว รัฐบาลไม่ได้กลัว เราไม่เคยขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไป เมื่อถามต่อว่าในทางการเมือง การที่พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่นอกประเทศหรือในประเทศ แบบไหนจะดีต่อรัฐบาลมากกว่ากัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับตนดีที่สุด คือ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษตามกฎหมาย เพราะจะช่วยทำให้ทุกคนยอมรับกติกาว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook