โรคพิลึก-ดญ.เลือดออก ตา-จมูก-ปาก

โรคพิลึก-ดญ.เลือดออก ตา-จมูก-ปาก

โรคพิลึก-ดญ.เลือดออก ตา-จมูก-ปาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น่าสงสารลูกสาวผกก.สภ. หนองหินเมืองเลยป่วยโรคประหลาดมีเลือดไหลออกจากปาก จมูก ตา ทุกช่องทวาร ยกเว้นหู เป็นอาทิตย์ละครั้ง พ่อต้องวิ่งรอกนำส่งร.พ.จนแทบไม่ได้ทำงาน หมอยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นอะไรกันแน่ พบข้อมูลอินเตอร์เน็ตทั่วโลกมี 6 ราย ประหลาดเป็นช่วงวันโกน-วันพระ พ่อตระเวนหาวัดทำบุญ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก.สภ. หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย ว่า บุตรสาวของตนคือด.ญ.มันธนัน อรุณจันทร์ภักดี หรือน้องแตม อายุ 11 ปี ปัจจุบันเรียนที่โรงเรียนอนุบาลสกลนคร ชั้นป.4 แต่ต้องหยุดเรียนเพื่อรักษาตัวเพราะป่วยเป็นโรคประหลาด

พ.ต.อ.จีรัฐ ติกุล กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค. 2550 เป็นต้นมา ด.ญ.มันธนัน มีอาการเลือดออกทางจมูก ในช่วงแรก ก็เข้าใจว่าเป็นอาการเลือดกำเดา แต่เมื่อเฝ้าดูอาการก็พบว่าเลือดไหลออกมากผิดปกติและนำส่งร.พ. แต่ก็ไม่ดีขึ้น ต่อมาก็เกิดอาการเลือดไหล ไม่เฉพาะทางจมูกเท่านั้น แต่จะออกทางตา ปาก และช่องทวารทุกที่ยกเว้นหู เมื่อเลือดออกเด็กจะมีอาการ ตาบอด มองอะไรไม่เห็น และสลบไป ตนนำ ส่งร.พ.ของรัฐหลายรอบ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น และแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการป่วยได้

พ. ต.อ.จีรัฐติกุล เปิดเผยต่อไปว่า ในเดือน ธ.ค.2550 ตนได้นำตัวไปรักษาที่ร.พ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งแพทย์ก็รักษาอย่างเต็มที่ มีการตรวจเกล็ดเลือด ตรวจชีพจร และเอกซเรย์ทั้งตัวอย่างละเอียด ก็พบว่าทุกอย่างเป็นปกติ เมื่อรักษาได้ 7 วัน อาการเริ่มดีขึ้น ก็ออกจากร.พ. แพทย์ที่ช่วยรักษาหลายคนก็ลงความเห็นว่าเรื่องร่างกายที่ตรวจก็ปกติ จนเกิดความสงสัยจึงให้จิตแพทย์มาถามตนว่าเด็กอยู่ในภาวะกดดัน หรือเครียดหรือไม่ ซึ่งเด็กก็ร่าเริง ไม่เครียดไม่มีอะไรกดดัน จนสุดท้ายก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการป่วยได้ โดยแพทย์ก็ได้เข้าอินเตอร์เน็ตตรวจสอบ พบว่าลักษณะอาการป่วยคล้ายๆ น้องแตมทั่วโลกมีเพียง 6 รายเท่านั้น

"หลังจากออกจากร.พ.ไม่นานอาการ ของลูกก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จะกำเริบสัปดาห์ละครั้ง ในช่วงประมาณ 20.00 น. เด็กจะรู้ตัว เข้ามากอดเรา แล้วบอกว่าพ่อ หนูปวดหัว ตามองไม่เห็น หลังจากนั้นเขาก็สลบ แล้วเลือดก็จะไหลออกทุกช่อง ผมก็นำส่งโรงพยาบาล เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ช่วงไหนที่อาการกำเริบเลือดจะไหล และตาจะบอดประมาณ 1 คืน ตื่นเช้าเมื่อฟื้น อาการจะเหมือนกับคนเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ ต้องช่วยนวดตัวให้สักพักก็จะเป็นปกติ" พ.ต.อ.จีรัฐติกุล กล่าว

พ.ต.อ.จีรัฐติกุล เล่าว่า ตนเคยนำบุตรสาวไปอยู่ด้วยที่ จ.เลย แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ทั้งวันลูกก็ยังมีอาการปวดหัว และสังเกตพบว่าอาการเลือดไหล ตาบอด และสลบ จะเกิดขึ้นในช่วงวันโกนและวันพระ จนมีผู้แนะนำว่าลองให้ลูกเข้าวัดอาจจะดีขึ้น ก็นำลูกไปอยู่ในวัดภูคำ จ.เลย เมื่ออยู่ในวัดก็มีอาการสดชื่น อาการปวดหัวก็ทุเลา อาการป่วยก็ไม่กำเริบบ่อย อยู่สักระยะหนึ่งก็พากลับมาที่สกลนคร เพื่อกลับมาเรียนซ้ำชั้น ป.4 แต่ไปโรงเรียนแทบนับวันได้ และอาการช่วงนี้ป่วยเริ่มถี่ขึ้น ซึ่งตนก็ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาไว้แล้วว่าจะขอย้ายมาที่ จ.สกลนคร เพื่อจะได้มีเวลาดูแลลูก และเคยตัดสินใจว่าจะหาวัดที่มีแม่ชี แล้วให้ลูกอยู่ที่วัดถ้าอยู่แล้วอาการดีขึ้น เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร

พ. ต.อ.จีรัฐติกุล กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการติดต่อจากแพทย์แผนจีน โทรศัพท์มาถามถึง อาการน้องแตม และอธิบายว่าโรคลักษณะนี้ส่วนใหญ่แพทย์ทั่วไปจะไม่พบอาการ เพราะเป็นภาวะการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง เมื่อเส้นเลือดอุดตันการไหลเวียนไม่สะดวกก็จะต้องหาทางออก จนต้องออกตามช่องต่างๆ และสลบ จากการสังเกตบางครั้งก็พบว่า แม้กระทั่งปลายเล็บของน้องแตมก็ยังมีเลือดไหลออกมา ซึ่งตนก็เชื่อในหลักการนี้ และแพทย์จีนจะส่งยามาให้ แต่มีข้อแม้ว่าน้องแตมจะต้องกินเฉพาะปลาต้มกับปลานึ่งเท่านั้น

ด.ญ. มันธนัน เล่าถึงอาการว่า ปกติก็ปวดหัวทั้งวัน เหมือนกับเอาเข็มหลายๆ เล่มมาทิ่มที่หัวจนชา ก่อนเลือดจะไหลจะปวดหัวหนัก หลังจากนั้นตาก็เริ่มมองไม่เห็น เหมือนมีหมาดำตัวใหญ่ๆ วิ่งเข้ามาหาแล้วก็ทับเราไว้แล้วก็สลบ ทุกวันนี้ปวดหัวตลอดจนชินแล้ว อยากจะหายป่วย อยากไปโรงเรียน สงสารพ่อที่ต้องคอยดูแล

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook