ยธ.สั่งสอบเส้นทางเงินค้ายาเสพติ10 ล้านซุกในรถยนต์

ยธ.สั่งสอบเส้นทางเงินค้ายาเสพติ10 ล้านซุกในรถยนต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พีระพันธุ์สั่งสอบเส้นทางเงินค้ายาเสพติด 10 ล้านบาท ด้านอธิบดีดีเอสเผยศาลยกฟ้องเจ้าของเงินในท่อพีวีซีไม่กระทบคดีพิเศษ ด้านป.ป.ส.เร่งตามล่าตัวอุสมานเชื่อหลบหนีไปต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขยายผลสอบสวนจนสามารถยึดเงินสด 10 ล้านบาทของเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของกลาง ว่าได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของเงินสด 10 ล้านบาทดังกล่าวร่วมกับดีเอสไอ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้ทุกหน่วยงานเอาจริงเอาจังและมีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยวันละหลายราย ส่วนการย้ายนายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหาการซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ และเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญๆ อยู่ที่เรือนจำใดนานเกินไปจนรากงอก ซึ่งจะทำให้สร้างอิทธิพลและยังค้ายาเสพติดได้

ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงควาการตรวจสอบเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมาน สะแลแมง หลังพบเงินสดซุกไว้ในรถของกลาง ว่า วันนี้ ดีเอสไอ ได้นำรถฟอร์จูนเนอร์สีเทา ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลางในคดีดังกล่าว ไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ายังมีสิ่งใดซุกซ่อนในตัวรถอีกหรือไม่ จากนั้นจะส่งรถยนต์ให้บริษัทโตโยต้าทำการตรวจสอบซ้ำให้ด้วย นอกจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามรถยนต์อีกหลายคัน ที่ยึดมาได้จากเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมานทั้งหมด ซึ่งบางคันได้ขายทอดตลาดไปแล้ว เพื่อนำมาตรวจสอบหาสิ่งซุกซ่อนเพื่อขยายผลต่อไป

ส่วนกรณีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของเงินของกลางกว่า 30 ล้านบาท พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คดีที่ยกฟ้องเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งอาจยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีของดีเอสไอเป็นการขยายผลการจับกุมนักค้ายาเสพติด 2.7 แสนเม็ด โดยผู้ต้องหาคือนางสุภาภรณ์ คำศรีภาพ ภรรยาของนายอุสมาน ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 40 ปี ส่วนยาเสพติดและเงินสดเป็นของนายอุสมาน ซึ่งเป็นยาเสพติดและเงินสดคนละส่วนกับที่ยึดได้จากท่อพีวีซี จึงต้องตรวจสอบว่ามีการฟอกเงินหรือไม่ และมีเส้นทางโยงใยกับขบวนการในต่างประเทศหรือไม่ เพราะเครือข่ายขยอุสมานกระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังถือพาสปอร์ตถึง 2 เล่ม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เชือกที่ใช้มัดธนบัตร 10 ล้านบาทนั้น ปนเปื้อนคราบยาเสพติด ซึ่งดีเอสไอจะส่งหลักฐานให้สำนักงานวิทยาการตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทางด้านนายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า นายอุสมานถูกออกหมายจับและหลบหนีไป ทำให้เครือข่ายของนายอุสมาน ที่มีมากกว่า 10-20 คน แตกกระจาย ส่วนใหญ่ก็ยังยึดอาชีพค้ายาเสพติดอยู่ บางรายก็ไปสร้างเครือข่ายใหม่ซื้อขายยาเสพติดเอง แต่ก็ยังมีการเชื่อมโยงกับนายอุสมานอยู่ และขณะนี้ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งติดตามตัวนายอุสมานและกับพวก คาดว่านายอุสมานหลบหนีไปนอกประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของทรัพย์สินของนายอุสมาน ที่ทาง ป.ป.ส.ได้ยึดไว้ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท มีทั้งรถยนต์ ที่ดิน และรถยนต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook