เนวิน เครียดหนักแกนนำหนี! ย่องกินข้าว มาร์ค บ้านพิษณุโลก

เนวิน เครียดหนักแกนนำหนี! ย่องกินข้าว มาร์ค บ้านพิษณุโลก

เนวิน เครียดหนักแกนนำหนี! ย่องกินข้าว มาร์ค บ้านพิษณุโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เนวิน"เครียดหนักแกนนำหนี ย่องกินข้าวกับ"มาร์ค"ที่บ้านพิษณุโลก คาดหารือการเมือง "ปู่จิ้น"งอนไม่รู้เรื่อง พท.ย้ำมี 2 กลุ่มพรรคร่วมขอเข้าสังกัด วิปรบ.ออกมาตรการ "รวมกันเราอยู่" กำหนด4แนวทางกอดคอไปด้วยกัน

"สุเทพ" ชี้ "แม้ว"พูดล้มรบ.ผิดกม.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เตรียมเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินจะล้มรัฐบาลภายใน 3 เดือน โดยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับคนหลายกลุ่ม ไม่รู้สึกเป็นห่วง พ.ต.ท.ทักษิณต้องทำอย่างนี้เป็นธรรมดา วันนี้มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นว่าการโฟนอินเพื่อวิจารณ์หรือแนะนำเรื่องเศรษฐกิจก็ว่ากันไป แต่อย่าทำให้เกิดความแตกแยก ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณคิดได้ตามนี้ทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนตัวรับฟังได้แต่ถ้าทำให้เกิดความแตกแยกก็ต้องแก้ไขปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า จะล้มรัฐบาลให้ได้ภายใน 3 เดือน รองนายกฯกล่าวว่า "ถ้าเขาพูดอย่างนั้นก็ผิดกฎหมายนะ คุณทักษิณผิดกฎหมาย ก็โดนอีกข้อหาหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องสั่งให้เขาดำเนินคดีไป"

นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าไปอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ถ้าตื่นเต้นตลอดเวลาว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะขยับไปนั่นไปนี่ก็เสียเวลา เราควรช่วยกันดูว่าปัญหาในประเทศมีอะไรต้องช่วยกันแก้ช่วยกันทำอย่างนี้จะดีกว่า

นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาบ่นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ความสำคัญกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบลงพื้นที่ต่างๆ นั้นว่า ขอยืนยันตามคำเดิมว่างบประมาณมีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่มีไว้เพื่อเอาไปแบ่งกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าใครตั้งต้นคิดอย่างนั้น มันไม่ได้ และการพิจารณางบประมาณต่างๆ ก็ต้องดูจากปัญหา ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเรื่องผิดใจกัน

ปชป.จับตาแม้วพูดส่อรุนแรง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษก ปชป.กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุในการโฟนอินครั้งล่าสุดว่า รัฐบาลจะพังภายใน 3 เดือน มีการพยากรณ์มาหลายครั้งแล้วโดยใช้กรอบเวลา 3 เดือน ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นการพูดเลื่อนลอยแบบหมอดู แต่ในการประกาศครั้งล่าสุดปรากฏว่า หลังประกาศได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายถึงขั้นเผาบ้านเผาเมืองในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจริง

"เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นการแสดงเจตนาที่อาจจะนำไปสู่ความไม่สงบในบ้านเมือง และนำไปสู่การใช้ความไม่สงบมากดดันและล้มรัฐบาลเหมือนต้นปีที่ผ่านมาได้"

เมื่อถามว่า เกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ดูจากข้อเท็จจริงเมื่อตอนต้นปืที่ผ่านมา ขณะประกาศคนไม่ได้ให้ความสนใจ แต่เมื่อผ่านไปในระยะเวลาที่ว่าได้มีการก่อการจลาจลครั้งใหญ่ขึ้น เรื่องนี้จึงประมาทไม่ได้ เพราะว่าในอดีตได้มีการดำเนินการตามคำประกาศจริงๆ โดยใช้วิธีการสร้างความไม่สงบในบ้านเมือง

ที่รัฐสภา นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า คนอีสานไม่ได้เกลียด ปชป. เพียงแต่การเลือกตั้งแต่ละครั้งจะตัดสินใจลงคะแนนให้พรรคใดตามโอกาส ที่ผ่านมาคนอีสานแนบแน่นกับ ปชป. แกนนำที่ร่วมตั้งพรรคก็มาจากอีสาน เลือกตั้งล่าสุดในอุบลราชธานี คะแนนระบบสัดส่วนก็ชนะพรรคอื่น มั่นใจว่าหลังจากงบประมาณรายจ่ายปี 2553 และ พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาท มีหลายโครงการลงไปในพื้นที่ มั่นใจว่าชาวอีสานจะเปิดใจรับ ปชป.อีกครั้ง และคาดว่าจะได้ ส.ส.เขตในภาคอีสานเพิ่ม 15 ที่นั่ง จากปัจจุบันมี 5 คน และมีแบบสัดส่วน 6 คน และต่อไปแกนนำ ปชป.จะลงพื้นที่มากขึ้นด้วย

วิปรบ.ออกมาตรการ"รวมกันเราอยู่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรียกประชุมวิปรัฐบาลนัดพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาล ใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นนายชินวรณ์แถลงว่า วิปรัฐบาลยังได้ออกยุทธศาสตร์ "รวมกันเราอยู่" เพื่อใช้ในการทำงานการเมืองร่วมกัน โดยกำหนดแนวทางให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนได้ปฏิบัติตาม
1.ทำงานร่วมกัน โดยให้สัมภาษณ์หรือพูดไปในทางเดียวกันเพื่อให้เกิดพลัง
2.แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ร่วมทำงานแก้ไขสินค้าเกษตร ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ลดภาพความขัดแย้งในการทำงาน
3.ใกล้ชิดประชาชน โดยจะให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่ตามความจำเป็น ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครสามารถขัดขวางการทำงานของประชาชนได้ และ
4.โชว์ผลงานทุกพื้นที่ โดยให้ ส.ส.พรรคร่วมประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกทั้งการพัฒนา การใช้งบประมาณ และการแก้ไขปัญหาทางการเมือง

เมื่อถามว่า สาเหตุที่ต้องออกยุทธศาสตร์รวมกันเราอยู่คืออะไร นายชินวรณ์กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เกิดจากการเลือกตั้งโดยตรง แต่เกิดจากการที่พรรคการเมืองถึง 3 พรรคถูกยุบ จึงต้องมาตอกย้ำเพื่อยืนยันการทำงานร่วมกัน ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการที่ ส.ส.ภท.ออกมาให้สัมภาษณ์ทวงงบประมาณจากรัฐบาล เพราะนายอภิสิทธิ์ได้จัดสรรงบประมาณให้กับทุกพรรคอย่างเป็นธรรม ซึ่ง ภท.ก็ยอมรับ โดยจากนี้ไปทุกพรรคจะให้สัมภาษณ์ไปในทางเดียวกัน แม้แต่ ส.ส.ภท.ซึ่งที่ผ่านมามักให้สัมภาษณ์เป็นตัวของตัวเองสูงก็ตาม

ยันขาดส.ส.ถือหุ้นยังทำงานได้

ส่วนจะจำเป็นต้องเช็คจำนวน ส.ส.หรือไม่ เนื่องจาก กกต.กำลังพิจารณาการถือหุ้นบริษัทสัมปทานและสื่อนั้น นายชินวรณ์กล่าวว่า วิปรัฐบาลก็ได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย ยืนยันว่าหากดูเจตนาการถือหุ้นของแต่ละคน กกต.และศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยกคำร้อง ส.ส.หลายคน ขณะนี้รัฐบาลมีจำนวน ส.ส.อยู่ 269 เสียง แม้จะสิ้นสภาพ ส.ส.ไปหลายสิบคน แต่ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าตราบใดที่ยังมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง

หลังการแถลงข่าว ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน นายชินวรณ์ได้กดไมค์คุยกับวิปจากพรรคร่วมว่า อย่างที่ตนพูดกับทุกคนนอกรอบไปแล้วว่าจากนี้ไปต้องช่วยพูดให้ไปในทางเดียวกัน เพราะยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรเพื่อตัวเอง ยืนยันกระแสข่าวที่ ปชป.จะไปจับมือกับ พท.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่าเป็นไปได้ยาก เพราะในทางการเมืองไม่มีทางเป็นไปได้ที่ 2 พรรคใหญ่จะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้นายชินวรณ์ยังได้กล่าวแซวนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น ภท. ผู้ที่ขู่ ปชป.ว่า หากไม่จัดสรรงบประมาณให้กับ ภท.อาจจะต้องกอดคอกันตายว่า "ตอนนี้เราต้องมาช่วยกันนะ เพราะสภาพตอนนี้เหมือนกอดคอกันตาย ใช่ไหมครับ คุณปัญญา"

"บุญจง"ยันภท.ปึ้กไม่มีรอยร้าว

ทั้งนี้ ส.ส.วิปรัฐบาลได้นัดรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ที่ร้านอาหารอิตาเลียน Calderazzo ซอยหลังสวน เวลา 18.00 น. เย็นวันเดียวกัน

ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเกิดรอยร้าวในพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่เป็นความจริง มีแต่ความรักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มีความแตกแยก ส่วนกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าจะมี ส.ส.ภท.ย้ายไปอยู่กับ พท. เป็นเรื่องโกหก ไม่มีเหตุผลรับฟังไม่ได้ เพราะคนในพรรคยังอยู่ร่วมกันอย่างเหนียวแน่น

"เนวิน"เครียดหนักแกนนำหนี

รายงานข่าวจากแกนนำพรรคภูมิใจไทยแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน มีอาการเครียดเป็นอย่างมากหลังมีกระแสข่าวว่าแกนนำในพรรคอาจจะย้ายกลับไปอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้งการแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้ทำให้นายเนวินยิ่งระแวงแกนนำในพรรคมากยิ่งขึ้น โดยที่นายเนวินต้องโทรศัพท์เคลียร์ใจกับแกนนำบางคน ให้ยืนยันว่าต้องการที่จะร่วมงานการเมืองกันต่อไป เพราะในขณะนี้นายเนวินอยู่ในลักษณะที่เสียศูนย์ ขาดความมั่นใจในตัวเอง หลังแพ้การเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร แต่การรับประทานอาหารค่ำ ที่ร้านนนทรีติดกับที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ส.ส.ในสังกัดพรรคได้ร่วมรับประทานอาหาร และยืนยันกับนายเนวินว่าจะไม่หนีไปไหนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างนายเนวิน และพรรคภูมิใจไทย

สะพัด"มาร์ค"นัด"เนวิน"หารือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. ที่บ้านพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายสุเทพ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า นายอภิสิทธิ์ได้เชิญนายเนวินร่วมรับประทานอาหารด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง แต่ผู้สื่อข่าวที่ตามไปสังเกตการณ์ไม่พบเห็นนายเนวิน กระทั่งเวลา 13.10 น. หลังรับประทานอาหารเสร็จทั้งหมดจึงทยอยกลับ โดยนายสุเทพออกมาเป็นคนแรก

รายงานข่าวใกล้ชิดนายเนวินแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ได้ชวนนายเนวินรับประทานอาหารจริง โดยเคยโทรศัพท์มาหานายเนวิน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนสิงคโปร์ และเป็นวันที่พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารจีน ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล โดยไม่มีแกนนำ ปชป.ร่วมด้วย โดยระบุว่าจะหาโอกาสรับประทานอาหารด้วยหลังกลับจากประเทศจีนแล้ว แต่การรับประทานอาหารที่บ้านพิษณุโลกครั้งนี้ นายเนวินไม่ได้บอกอะไรกับแกนนำพรรค เพียงแจ้งว่ามีนัดกินข้าวข้างนอก เสร็จแล้วจะนัดเจอกับแกนนำพรรคเพื่อหารือกันอีกทีในช่วงเวลา 15.00 น.

ทีมโฆษกรบ.ยันกินข้าวกันจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ออกจากบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ประเด็นการรับประทานอาหารที่บ้านพิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ได้ตัดบทว่า "ให้เสร็จงานก่อน" แล้วรีบขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที กระทั่งเวลา 16.30 น. นายอภิสิทธิ์ให้คนใกล้ชิดแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า งดการให้สัมภาษณ์ เนื่องจากติดภารกิจ

ต่อมา นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์นัดหมาย นายสุเทพและนายเนวิน รับประทานอาหารเที่ยง ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งเป็นการนัดหมายก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะไปประเทศสิงคโปร์

"ปู่จิ้น"งอน"เนวิน"ไม่ยอมบอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวินมาร่วมรับประทานอาหารที่บ้านพิษณุโลกก่อนเวลานัด โดยนั่งรถยนต์เล็กซัส ทะเบียน ณถ 17390 กทม. ทางประตูบ้านพิษณุโลก ที่ติดกับโรงพยาบาลมิชชั่น แทนการใช้ประตูกลาง
ขณะที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนายเนวิน รับประทานอาหารกับนายอภิสิทธิ์ที่บ้านพิษณุโลกว่า "ผมไม่ทราบเรื่องมาก่อน นายเนวินไม่ได้บอกเพราะเขาจะทำอะไรก็ไม่เคยบอกผมอยู่แล้ว และผมก็ไม่มีสิทธิที่จะถาม เพราะไม่ใช่สื่อ แต่หากไปจริงก็อาจจะไปเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค"

"บัญญัติ"นัดแกนอีสานคุยลุยเอง

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เวลา 15.00 น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วนและกรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป.ได้นัดแกนนำภาคอีสานของพรรค อาทิ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรค นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน และนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.สัดส่วน หารือกัน ณ ที่ทำการของพรรค เพื่อพูดคุยถึงการทำการเมืองในภาคอีสาน เป็นที่น่าสังเกตว่า นายบัญญัติไม่ได้เชิญคนจากสายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาทิ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน มาร่วมแต่อย่างใด ทั้งที่นายวิฑูรย์เป็นขุนพลภาคอีสานหัวหอกหาเสียงการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา

แหล่งข่าวกล่าวว่า การนัดหารือครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจาก พท.ชนะการเลือกตั้งซ่อมในถึง 2 จังหวัดซ้อน และต่อมา นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนก่อน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกมาทวงงบประมาณจากรัฐบาลอ้างข้อตกลงที่ ปชป.ทำไว้ว่าจะให้ ภท.ทำพื้นที่ภาคอีสานให้

นายสุทัศน์กล่าวยอมรับว่า ในวันพรุ่งนี้ (2 มิถุนายน) นายบัญญัติได้นัดตนและนายไกรศักดิ์จริง โดยจะพูดคุยกันถึงการเมืองในภาคอีสาน ทั้งนี้ ยืนยันมาตลอดว่า ภาคอีสานยกให้ใครไปทำแทนไม่ได้ ต้องทำด้วยตัวของเราเอง การประชุมครั้งนี้อาจมีการหารือถึงการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.อีสาน หากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย

"มาร์ค"เหยียบถิ่นอีสานกลางก.ค.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์จะลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) กลางเดือนกรกฎาคมนี้ ตามกำหนดเดิมต่อไป แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่นายสุเทพถูกคนเสื้อแดงขับไล่ที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้กำหนดการค่อนข้างลงตัวแล้ว ซึ่งในวันที่ 4-5 กรกฎาคมนี้ จะส่งทีมงานลงไปดูพื้นที่ก่อน จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะหาโอกาสไปพื้นที่ภาคเหนือ การรักษาความปลอดภัยก็สำคัญ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยอมรับว่ากังวลบ้างเรื่องคนเสื้อแดง แต่อยากขอร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงทำตามคำพูดด้วย เพราะบอกว่ารัฐบาลไม่ทำงาน แต่พอจะทำงานเพื่อประชาชนก็ไปขัดขวางอย่างนี้ก็ไม่ถูก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะค้างคืนหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า คงไปเช้าเย็นกลับ เนื่องจากคิวนายกฯแน่นมาก กำหนดการที่ภาคอีสาน ก็มีทั้งการพบมวลชน ประชาชน ดูแลความทุกข์ยาก เดือดร้อน งบประมาณ และปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไข โดยขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยว่า จะไปจังหวัดใดบ้าง เมื่อถึงเวลาจะบอก

ยันไม่ได้เลือกจังหวัดที่จะลงไป

เมื่อถามว่า จะลงไปแต่พื้นที่พรรคร่วม ไม่กล้าลงพื้นที่สีแดงหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ได้เลือกพื้นที่ตามพรรคการเมือง แต่ดูกิจกรรมที่ทำได้ ประเทศไทยมี 76 จังหวัด ก็ต้องเลือกกันไป ก็แล้วแต่จะสะดวกไปที่ไหน เพราะถ้าไปแล้วก็ต้องมีองค์ประกอบอื่นครบ เครื่องบินไปลงได้ง่าย และอีกหลายองค์ประกอบ แต่ความปลอดภัยไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะไปหรือไม่ไป เพราะถ้าไปจะพบชาวบ้านให้มากที่สุด และกิจกรรมมีเยอะมาก และก็กังวลเวลากลัวว่าจะไม่ทัน ก็ต้องปรับกำหนดการกันใหม่

"ภท."พ่วง"มาร์ค"จัดรมต.ไปด้วย

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้า ภท. กล่าวว่า ถ้านายกฯลงพื้นที่ภาคอีสาน รัฐมนตรีของ ภท. ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ก็มีหน้าที่ไปดูแล และจะร่วมคณะอย่างแน่นอน ไม่น่าจะเกิดปัญหา เพราะประชาชนต้องเปิดโอกาสให้นายกฯและรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาประชาชน ในส่วนของ ภท. จะนำคาราวานรัฐมนตรีและ ส.ส.ลงพื้นที่ภาคกลางเพื่อนำเสนอนโยบายของพรรค ซึ่งไม่ใช่การหยั่งเสียงในฐานใหม่ แต่ไปรับฟังความต้องการของประชาชน

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาฯ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธกระแสข่าวกลับไปร่วมทำงานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกล่าวแต่เพียงว่า "ในทางการเมืองผมเคยบอกแล้วว่า หากต้องการที่จะสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ เพราะไม่มีทางที่จะสู้ได้แน่นอน หากจะสู้ต้องสู้ทุกวิถีทาง ไม่ใช่ความร่วมมือจากพรรคการเมือง แต่หมายถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook