มทภ.2ชี้ชายแดนไทย-เขมรยังปกติ ย้ำยังไม่ถอนกำลัง

มทภ.2ชี้ชายแดนไทย-เขมรยังปกติ ย้ำยังไม่ถอนกำลัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม เวลา12.30 น. ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลโทวิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงผลการหารือกับร่วมกับพลโทเจีย มอญ ผบช.ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ในการปรับลดกำลังทหารของทั้ง2ประเทศ ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อรับทราบนโยบายและรายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้รับทราบว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ยังคงปกติ ทหารทั้ง2ประเทศสามารถพูดคุยกันได้ ส่วนผลการหารือร่วมกันระหว่างทหารฝ่ายไทยกับพลโทเจีย มอญ ผบช.ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ถึงการปรับลดกำลังทหารของทั้ง2ประเทศเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับรายละเอียดในการหารือได้มีการนำข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชามาหารือกับผู้บังคับบัญชาถึงแนวทางในการปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนของทั้ง2ประเทศให้เท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังทหารของทั้ง2ประเทศยังอยู่ในฐานที่ตั้ง แต่การดูแลรักษาความสงบตามแนวชายแดนนั้นได้กำชมความระมัดระวังในการดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีข้อพิพาท เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในระดับพื้นที่ได้มีการหารือร่วมกันมาโดยตลอด โดยมีข้อตกลงว่าทหารทั้ง2ประเทศตามแนวชายแดนจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะใช้สันติวิธีในการเจรจาในการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา ในส่วนกำลังทหารของฝ่ายกัมพูชาที่มีการเสริมกำลังมากขึ้นนั้น เรื่องนี้ได้มีการเจรจาหารือในการปรับลดกำลังทหารแล้ว

พลโทวิบูลย์ศักดิ์กล่าวถึง กระแสข่าวที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ข้อพิพาทว่า ตนยืนยันว่าทหารไทยจะไม่มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ข้อพิพาทหรือพื้นที่ใดๆก่อนแน่นอน หากจะมีการถอนกำลังต้องมีการถอนกำลังออกพร้อมกันทั้ง2ประเทศ ถ้าไม่มีการตกลงถอนกำลังทหารซึ่งกันและกัน ทหารคงจะต้องเฝ้าอธิปไตยต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อ้างสิทธิ์บริเวณเขาพระวิหารนั้น จำเป็นต้องรอคณะกรรมการปักปั่นเขตแดนมาชี้ชัดว่าเป็นพื้นที่ของฝ่ายใด ทหารเองไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นพื้นที่ของฝ่ายใด ในส่ว่าวหรือการแถลงข่าวของสมเด็จฮุนเซน ตนเองเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบในระดับพื้นที่ เนื่องจากทหารยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่ในระดับนโยบายก็ขึ้นอยู่กับการตกลงหารือ ซึ่งในระดับพื้นที่พร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ในขณะที่ ผบ.ทบ.ก็กำชับให้ทหารในพื้นที่ใช้ความอดทนอดกลั้นในการดูแลรักษาอธิปไตยและใช้การเจรจา สันติวิธี เป็นแนวทางหลักในการแก้ไขปัญหา ส่วนกำลังทหารจะต้องมีความพร้อมและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น สำหรับประชาชนในพื้นที่เองทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการจัดหน่วยทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะ บริเวณ อ.กันทรลักษณ์ และตลอดแนวชายแดน เพื่อดูแลความปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ประชาชนยังสามารถอยู่ในพื้นที่ได้และไม่จำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่แต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook