สาวใหญ่ถูกหลอกหมดตัว อ้าง ตม.จ้องจับ ปมแอบหิ้วของมาจากเกาหลี

สาวใหญ่ถูกหลอกหมดตัว อ้าง ตม.จ้องจับ ปมแอบหิ้วของมาจากเกาหลี

สาวใหญ่ถูกหลอกหมดตัว อ้าง ตม.จ้องจับ ปมแอบหิ้วของมาจากเกาหลี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักธุรกิจสาวแทบหมดตัว สาวแสบอ้างตำรวจ ตม.จะมาจับ ฐานแอบซื้อของจากเกาหลีไม่ผ่านศุลกากร โดยหลอกให้โอนเงินปิดคดีกว่า 2 ล้านบาท สุดท้ายโป๊ะแตกมารู้ทีหลังว่าเป็นไม่ใช่เรื่องจริง

นางอัจฉรา อายุ 43 ปี ชาว อ.พล จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูเบศ ศรีเบี้ย สว.(สอบสวน) สภ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อให้จับกุม น.ส.มล อายุ 31 ปี หลังถูกหลอกให้โอนเงินไปทั้งหมด 2,500,000 บาท

นางอัจฉรา กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำหม่ำขาย แต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ ขากลับได้แวะซื้ออุปกรณ์ทำชาบูกลับมาด้วย และกลับมาทำหม่ำขายที่บ้านเช่นเดิม น.ส.มล ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน เคยมีสามีอยู่ที่พัทยา ได้กลับมาที่บ้านที่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับบอกว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพัทยาที่รู้จักกับอดีตสามี ชื่อว่า นายแจ้ จะมาจับกุมตน ในข้อหาลอบนำเข้าสินค้า โดยไม่เสียภาษีศุลกากร

พร้อมทั้งระบุว่า ตำรวจ ตม.ดังกล่าว ได้มีภาพจากกล้อวงจรปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลักฐาน ถ้าไม่อยากถูกจับ ก็ต้องจ่ายเงินมาปิดคดี โดยอดีตสามีจะเคลียร์คดีนี้ให้ ทำให้ครอบครัวหวาดกลัวมาก จึงยอมจ่ายเงินให้ น.ส.มล รวมเป็นเงินทั้งหมด 2,500,000 บาท ที่เข้าใจว่าปิดคดีให้เรียบร้อยแล้ว

โดยทุกครั้งที่จ่ายเงินจะมีพยานเห็นทุกครั้ง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา น.ส.มล ได้มาหาที่บ้านและบอกว่า ตำรวจ ตม.และอีกหลายหน่วยไม่ยอมจบคดีให้ เพราะต้องมีเงินนอนบัญชี 200,000 บาท ทั้งยังบอกว่าน้องสาวกับน้องเขยก็เคลียร์คดีจบไปแล้ว เพราะจ่ายคนละ 6,500,000 บาท หากต้องการจบคดีก็จำเป็นต้องจ่ายเหมือนกัน พร้อมขีดเส้นตายต้องมีเงินเข้าบัญชีภายใน 1-2 วัน

นางอัจฉรา กล่าวต่อว่า ครอบครัวได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มหนักใจ เพราะไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากให้ น.ส.มล ไปจ่ายตำรวจทั้งหมดแล้ว เมื่อหาทางออกไม่ได้ และกลัวถูกตำรวจจับ ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหน จึงออกไปปรึกษาน้องสาวกับน้องเขย

เมื่อได้เจอน้องๆ ก็ขอยืมเงินและเล่าเรื่องที่ต้องใช้เงินให้น้องฟัง กระทั่งโป๊ะแตกและทราบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง เพราะน้องสาวและน้องเขยไม่เคยจ่ายเงินใดๆ ให้กับตำรวจและไม่เคยมีคดีติดตัวที่ต้องจ่ายเงิน เมื่อรู้ว่าถูกหลอกจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ตำรวจติดตามจับกุม น.ส.มล รวมทั้งเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ คนในครอบครัวต้องเอารถยนต์ ที่ดิน ไปขายไปจำนอง เพื่อเอาเงินมาให้ปิดคดีนี้ ตลอดปีที่ผ่านมาแทบหมดเนื้อหมดตัว ธุรกิจร้านขายหม่ำ ขายชาบู ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะไม่มีเงินมาลงทุน จึงต้องการให้ตำรวจตัวจริงทำการจับกุม น.ส.มล และพรรคพวก ไม่อยากให้ไปหลอกลวงใครได้อีก พร้อมกับฝากเตือนทุกคนที่รู้จักกับ น.ส.มล อย่าหลงเชื่อคำพูดผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด เพราะอาจจะหมดตัวแบบครอบครัวตนก็ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook