2 ตลาด
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลระบบอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทแยกออกเป็น 2 ตลาด คือ ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับผู้ส่งออกที่มีการกำหนดให้ค่าเงินอ่อนกว่าราคาตลาด
และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวที่เป็นไปตามกลไกตลาดสำหรับธุรกรรมอื่น เพื่อไม่ให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นและส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก
แต่สำหรับประเทศไทย มีประเด็นที่น่าพิจารณาถึงความจำเป็น เหมาะสมของการนำระบบอัตราแลกเปลี่ยน 2 ตลาดมาใช้
นายอัครพล จับจิตรใจดล เศรษฐกรอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท.อธิบายว่า การใช้อัตราแลกเปลี่ยน 2 ระบบอาจเป็นอุปสรรคการกีดกันทางการค้า เพราะขัดกับกระแสที่ประเทศในโลกส่วนใหญ่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนอิงกับกลไกตลาดมากขึ้น
อีกทั้ง การทำให้ภาคส่งออกสามารถส่งออกในราคาที่ถูกกว่าตลาดเสรี อาจกระทบความสมดุลของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ประเทศคู่ค้าและคู่แข่งของไทยที่ล้วนต้องการปรับลดค่าเงินของตนเองให้อ่อนลง อาจเกิดการแข่งกันปรับลดค่าเงินจนไม่เกิดผลดีต่อประเทศไหนเลย
ที่สำคัญอาจเป็นช่องโหว่ให้เอกชนเข้ามาเก็งกำไรส่วนต่างระหว่างค่าเงิน 2 ตลาด ทำให้ธนาคารกลางต้องเป็นแบกรับผลขาดทุนจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนไว้เอง
จนในที่สุดภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเพิ่มทุนให้ธนาคารกลาง เปรียบเสมือนการที่รัฐอุดหนุนผู้ส่งออกด้วยเงินภาษีประชาชน ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อภาคธุรกิจอื่น
ตอนนี้ยังมีเวลาให้ชั่งน้ำหนักผลดี-ผลเสียอย่างรอบคอบ