ตำรวจตามจับ "โจรอุทกภัย" ขโมยแบตเตอรี่เรือกู้ภัย อุตส่าห์มาช่วยน้ำท่วมอุบล

ตำรวจตามจับ "โจรอุทกภัย" ขโมยแบตเตอรี่เรือกู้ภัย อุตส่าห์มาช่วยน้ำท่วมอุบล

ตำรวจตามจับ "โจรอุทกภัย" ขโมยแบตเตอรี่เรือกู้ภัย อุตส่าห์มาช่วยน้ำท่วมอุบล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจบุกรวบหนุ่มใหญ่ มือขโมยแบตเตอรี่เรือกู้ภัยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม อยู่ในเขตอภัยทานก็ไม่ละเว้น สารภาพทำไปเพราะเมา จ่อโดนโทษหนักทวีคูณ เพราะก่อเหตุในพื้นที่อุทกภัย

เมื่อคืนวานนี้ (15 ก.ย.) พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษีสว.กก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จ.อุบลราชธานีร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง จ.อุบลราชธานีจับกุมตัว นายศักดา อายุ 47 ปี พร้อมของกลางแบตเตอรี่เรือทองแบนของเจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชร จังหวัดปทุมธานี ที่มาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ หลังนำเรือจอดไว้ท่าน้ำบริเวณวัดบูรพา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในวัดบูรพา

จากการสอบสวนนายศักดา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพพร้อมพาไปชี้จุดซ่อนของกลาง (แบตเตอรี่) 1 ลูก ที่ได้ทำการ ขโมยไป สาเหตุที่ขโมยแบตเตอรี่เพราะเมาและเอาแบ็ตเตอรี่มาเก็บซ่อนเอาไว้ในวัด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก. สืบสวน ภ.จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า การลักทรัพย์ในพื้นที่น้ำท่วมต้องรับโทษหนักกว่าปกติ เพราะถือเป็นการไปซ้ำเติมผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน โดยต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี โทษปรับสูงสุด 140,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335

ขณะที่ นายสมเกียรติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชร จังหวัดปทุมธานีเล่าว่า เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งเเต่วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ โดยเมื่อคืนวันที่ 14 กันยายน หลังจากปฏิบัติภารกิจ และเกิดความเหนื่อยล้า จึงได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าอาวาสวัดบูรพา ในการให้ที่พักอาศัยเเละจอดเรือทองแบนในบริเวณวัด

หลังจากนั้น ตนกับทีมงานก็ได้นอนพักผ่อนกันที่วัดตามปกติ กระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมา ขณะกำลังจะออกปฏิบัติหน้าที่ ปรากฏพบว่าเเบตเตอรี่ของเรือได้ถูกขโมยหายไป จึงไม่สามารถออกไปช่วยเหลือประชาชนได้ โดยเรือลำดังกล่าวเป็นเรือท้องเเบนขนาดใหญ่ ซึ่งในพื้นที่ต้องการมาก เพราะกระแสน้ำในเเม่น้ำมูลไหลเชี่ยว ต้องใช้เรือรุ่นนี้เท่านั้น

ดังนั้นเรือลำนี้จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเดินทางมาไกลเพื่อตั้งใจมาช่วยเหลือ เเต่กลับมาเจอเหตุการณ์เเบบนี้ ดังนั้นจึงอยากจะฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าอย่าไปทำเเบบนี้ที่ไหนอีกเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook