คดีพลิก! สาวถูกกระชากกระเป๋าใส่เงินบริษัท 1.5 แสน ที่แท้ให้พี่ปลอมเป็นโจร

คดีพลิก! สาวถูกกระชากกระเป๋าใส่เงินบริษัท 1.5 แสน ที่แท้ให้พี่ปลอมเป็นโจร

คดีพลิก! สาวถูกกระชากกระเป๋าใส่เงินบริษัท 1.5 แสน ที่แท้ให้พี่ปลอมเป็นโจร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวอ้างถูกโจรกระชากกระเป๋าใส่เงินบริษัท 150,000 บาท ที่แท้ให้พี่ชายปลอมเป็นโจร สารภาพหาเงินไปใช้หนี้จนหมดจึงกุเรื่องเพื่อไม่ให้บริษัททวงเงิน ตำรวจฟัน 2 ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ และแจ้งความเท็จ

ความคืบหน้าจากกรณีที่ นางสาวพัชราภรณ์ อายุ 29 ปี หัวหน้าพนักงานส่งสินค้าบริษัทแห่งหนึ่ง สาขาหนองชาก เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านบึง ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 09.40 น. หลังจากเดินไปซื้อกล้วยทอดริมถนนวัฒนานุกิจใกล้ซอยราษฎรอุทิศ 3 เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง ตำบลบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

และกำลังคุยโทรศัพท์โดยที่มือข้างขวาหิ้วกระเป๋าสีดำที่มีเงินสดจำนวน 180,000 บาท แหวนทอง 1 สลึง มูลค่า 5,700 บาท และเอกสารต่างๆ จู่ๆ มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มากระชากกระเป๋าหลบหนีไปด้วยความรวดเร็ว

ต่อมาหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีชมพู – ขาว ทะเบียนชลบุรี โดยมี นายประดิษฐ์ อายุ 37 ปี เป็นคนก่อเหตุ จึงได้ติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายของนางสาวพัชราภรณ์ ที่แจ้งความไว้  

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) เวลา 23.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อไปยังนางสาวพัชราภรณ์ ผู้เสียหาย ให้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรบ้านบึงหลังทราบว่าจับคนร้ายได้แล้ว ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายเข้าสอบสวน

โดยทางด้าน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก. สภ.บ้านบึง เผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุทางตำรวจก็ได้เร่งรัดลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งนำมาสู่การจับตัวคนร้ายได้ และได้แจ้งไปยังผู้เสียหายให้มาดูตัวผู้ก่อเหตุปรากฏว่าเป็นคนละเรื่องหนังคนละม้วน  

หลังจากการสอบสวนทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า เป็นพี่น้องต่างบิดากันแต่มารดาคนเดียวกัน ยอมรับว่าได้นำเงินจำนวน 150,000 บาท ของบริษัท ที่ได้มาเมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.ย.ไปใช้จ่าย จนกระทั่งมาถึงวันจันทร์ที่ 15 ก.ย. ต้องนำเงินทั้งหมดมาฝากเข้าบัญชีของบริษัท

แต่ด้วยความที่นำเงินไปใช้จ่ายหนี้สินจนหมดไม่มีเงินมาฝาก จึงได้วางแผนกันทำทีว่าขณะที่นำเงินมาฝากธนาคารแล้วมีคนร้ายมากระชากกระเป๋า เพื่อหลบหนีความผิดที่นำเงินของบริษัทไปใช้จ่าย

ทั้งนี้ จากที่เคยทำสำนวนคดีเป็นการวิ่งราวทรัพย์ต้องเปลี่ยนมาเป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์เงินของบริษัท ส่วนนางสาวพัชราภรณ์ ต้องถูกเพิ่มอีก 1 ข้อหาแจ้งความเท็จ ก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook