พิซซ่า ฮัท ปรับโฉมใหม่ถอดด้าม เปลี่ยนโลโกสะท้อนความหลากหลายของเมนู

พิซซ่า ฮัท ปรับโฉมใหม่ถอดด้าม เปลี่ยนโลโกสะท้อนความหลากหลายของเมนู

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ร้านสาขาใหม่ของพิซซ่า ฮัท ในเมืองแจ๊กสันวิลล์ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา คือโฉมหน้าของร้านพิซซ่า ฮัท แบบใหม่ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไปจากรูปแบบเดิมที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมานาน กล่าวกันว่านี่คือรูป โฉมแห่งอนาคตของร้านพิซซ่า ฮัท ที่จะเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับร้านสาขาเปิดใหม่

แถลงข่าวของพิซซ่า ฮัท ในสหรัฐ อเมริกา ระบุว่า รูปลักษณ์ใหม่ซึ่งครอบคลุมถึงโลโกใหม่ สีสัน และการตกแต่งภายนอกตัวอาคาร จะมีความร่วมสมัยมาก ขึ้นและให้บรรยากาศที่ดียิ่งไปกว่าเดิม ทั้งนี้บริษัทตัดสินใจเลือกสาขาใหม่จำนวนหนึ่ง ในเมืองแจ๊กสันวิลล์ เป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในครั้งนี้ โดยมีการลงทุนไปทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านดอล-ลาร์สหรัฐฯ (170 ล้านบาท)

นายแพ็ท เมอร์ธา ประธานเจ้าหน้า ที่ฝ่ายปฏิบัติการของพิซซ่า ฮัท กล่าวว่า โฉมหน้าใหม่ของร้านมีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในเมนูอาหารที่นำเสนอภายในร้านด้วย

การเริ่มนำเสนอเมนูพาสต้า ทัสคานี (Tuscani Pasta) ในปีที่ผ่านมาและการเพิ่มเมนูปีกไก่วิงสตรีต (Wing Street) ในร้านพิซซ่า ฮัท จำนวนกว่าร้อยสาขา สะท้อนให้เห็นว่า ที่ร้านพิซซ่า ฮัท เรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะนำเสนอนอกเหนือไปจากเมนูพิซซ่า แน่นอนว่า ในฐานะบริษัท เราเป็นที่รู้จักกันดีในนาม พิซซ่า ฮัท แต่รูปโฉมใหม่ของร้านที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้นและสะท้อนความหลากหลายของเมนูอาหาร แสดงให้เห็นว่า เราพยายามทำให้บรร-ยากาศของร้านมีความสดใสใหม่เสมอ และร่วมสมัย

สำหรับสาขาใหม่ที่เป็นสาขาประเดิมรูปลักษณ์ใหม่ดังกล่าว ตั้งอยู่บนถนนเมอร์ริลในเมืองแจ๊กสันวิลล์ บริษัทกำลังทยอยปรับโฉมร้านพิซซ่า ฮัท ทุกสาขาในเมืองนี้ให้เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึงร้านขนาดใหญ่ที่ให้บริการได้เต็มรูปแบบ (dine-in restaurants) จำนวน 7 สาขา และร้านประเภทให้บริการ จัดส่งนอกสถานที่ (delivery) หรือให้ลูกค้านำไปรับประทานนอกร้าน (carryout-only restaurants) จำนวน 23 สาขา ร้านสาขาเหล่านี้เริ่มมีการทยอยปิดปรับปรุงมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะตกแต่ง-ปรับโฉมแล้วเสร็จทุกสาขาภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จากนั้นจึงจะทยอยปรับโฉมร้านสาขาในพื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคตการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือโลโกรูปหลังคาสีแดงและตัวอักษรแบบใหม่จะมีความเด่นชัดมากขึ้น การออกแบบภายนอกอาคารจะเห็นได้ว่าทรงหลังคาสีแดงแบบเดิมจะหาย ไป และมีการนำสีเทาและดำมาใช้มากขึ้น ส่วนที่เคยเป็นสีแดงสด จะเปลี่ยนสีลดโทนเจิดจ้ากลายเป็นสีแดงอมน้ำตาล นอก จากนี้ ยังมีป้ายโลโกแบบใหม่ที่ย่อชื่อเหลือ เพียงคำว่า เดอะ ฮัท (The Hut) ภายใต้รูปหลังคาสีแดง ส่วนเมนูอาหารมีความ หลากหลายมากขึ้น โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ได้แก่อาหารประเภทพาสต้าอบ เช่น ทัสคานี พาสต้า และปีกไก่วิงสตรีต

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า เสี่ยงต่อการทำลายอัตลักษณ์ของพิซซ่า ฮัทที่ผู้คนรู้สึกคุ้นชินมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนป้ายหน้าร้านจากคำว่า พิซซ่า ฮัท เหลือเพียง เดอะ ฮัท และเรียกขานตัวเองในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในบางเขตพื้นที่ว่า เดอะ ฮัท ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนคิดว่าพิซซ่า ฮัท เปลี่ยนชื่อแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้บริหารของพิซซ่า ฮัท แถลงว่า บริษัทไม่ได้เปลี่ยนชื่อ แต่จะใช้คำว่า เดอะ ฮัท สำหรับทำกลยุทธ์การตลาดในบางพื้นที่เท่านั้น จะเห็นได้ว่า บางสาขาที่ปรับโฉมใหม่เสร็จแล้ว มีป้ายโลโกทั้งคำว่า พิซซ่า ฮัท และ เดอะ ฮัท ติดอยู่ด้านหน้าหรือด้านข้างของตัวอาคาร นายคริส ฟูลเลอร์ โฆษกของบริษัท อธิบายโดยเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ชื่อ เดอะ ฮัท ของพิซซ่า ฮัท ก็เหมือนกับชื่อ โค้ก สำหรับบริษัท โคคา-โคลาฯ นั่นเอง

ดีน อดัมส์ นักกลยุทธ์ด้านแบรนด์สินค้า บริษัท เลเวล ในเมืองมินนิอาโปลิส ซึ่งอดีตเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการแบรนด์ของบริษัท 3เอ็มฯ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า พิซซ่า ฮัท ควรระมัด

ระวังเป็นพิเศษ เพราะแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงมากๆ จะทำให้ลูกค้าเกิดความ

รู้สึกติดยึดและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ฉะนั้นหากบริษัทปรับนั่นเปลี่ยนนี่มากเกินไป ลูกค้าจะเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจ และ

จะหาทางแสดงออกให้บริษัทรับรู้ (ว่าไม่ชอบ) พิซซ่า ฮัท เป็นแบรนด์ที่มีมูล

ค่ามาก การจะทำอะไรเกี่ยวกับแบรนด์ต้องทำด้วยความรอบคอบระมัดระวังอย่างยิ่ง

เกี่ยวกับตลาดพิซซ่าสหรัฐฯ

+ ในปีที่ผ่านมา (ปี 2551) พิซซ่า ฮัท ยังสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น 4% คิดเป็นมูลค่า 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่คู่แข่งรายใหญ่คือ โดมิโน พิซซ่า มียอดขายลดลง 5% เป็น 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการตลาด เทคโนมิค)

+ ตลาดฟาสต์ฟูดในประเภทพิซซ่าของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9.86 แสนล้านบาทในปี 2551 โดยมีพิซซ่า ฮัท เป็นเชนร้านพิซซ่าที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ1 ที่ 18% ตามมาด้วยโดมิโน พิซซ่า 10% ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ปาปาจอห์น มีส่วนแบ่งตลาด 7% (ปาปาจอห์นมียอดขายรวม 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า)

+ เศรษฐกิจซบเซาทำให้คนอเมริกันลดความถี่ในการเข้าร้านฟาสต์ฟูด แต่หันไปซื้อพิซซ่าสำเร็จรูปตามซูเปอร์ มาร์เก็ตมากขึ้น ทำให้ยอดขายพิซซ่าแช่แข็ง (frozen pizza) ซึ่งสามารถซื้อไปอุ่น ไมโครเวฟรับประทานที่บ้าน ขยับสูงขึ้น ถึง 6% ในปี 2551 คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้นำในตลาด ได้แก่ พิซซ่าแช่แข็งยี่ห้อ ดิจิออร์โน (DiGiorno) ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 14% คิดเป็นมูลค่า 228 ดอลลาร์สหรัฐฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook