อุดมคติและความเป็นจริงการเดินทางคู่ขนานของหนังเกาหลี

อุดมคติและความเป็นจริงการเดินทางคู่ขนานของหนังเกาหลี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คนเกาหลีโดยมากต่างมองเห็นว่าวัฒนธรรมของตนเองเก่าแก่กว่าญี่ปุ่น (ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่ไม่ถูกกันมาช้านาน) หลายคนไม่ชอบคนญี่ปุ่นเข้าขั้นเกลียด เห็นได้จากที่วง ทงบังชิกิไปเปิดตัวอัลบั้มที่ญี่ปุ่นช่วงแรกๆแฟนคลับของทงบังแอนตี้พวกเขาโดยการไม่สนในกิจกรรมทุกอย่างที่เขาเข้าร่วม แม้จะเกลียดขนาดไหน แต่น่าแปลกที่หลายอย่างของญี่ปุ่นกับ เกาหลี ต่างคล้ายกันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สภาพบ้านเรือนเก่าๆ แม้แต่เรื่องเซ็กส์ของคน เกาหลี ก็ถูกปิดกั้น (เหมือนญี่ปุ่นไม่มีผิด) คน เกาหลี ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่าประเทศของเขามีเกย์ และเมื่อ ฮงซุกชอน นักแสดงตลกกล้ามาเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ (นับว่าเป็นดาราคนแรกของ เกาหลี เลยที่เดียวที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์) ก็ส่งผลให้เขาถูกวงการ (สังคม) หันหลังให้นานถึง 3 ปี และเมื่อปี2006 วงการบันเทิง ก็ต้องสะเทือนอีกครั้ง เมื่อนักแสดงหญิง อ๊กโซรีถูกปาร์กชูล (สามี) ฟ้องศาลโทษฐานคบชู้ กับ จอง นักร้องเพลงคลาสสิก ซึ่ง อ๊กโซรี ออกมายอมรับว่าเป็นความจริง และสาเหตุที่คบชู้เพื่อความสะใจ เพราะสามีไม่เคยสนใจ ไม่เคยให้ความเอาใจใส่ตลอด 11 ปีที่อยู่ด้วยกัน แถมก่อนหน้านี้เธอเคยขอหย่าแล้วแต่ไม่สำเร็จปัญหาชู้สาวในสังคมบันเทิงเกิดขึ้นอยู่เสมอจนเป็นเรื่องปกติ แต่สําหรับ เกาหลี ใต้แล้วเรื่องนี้ถือเป็นความผิดทางอาญาซึ่งถือว่าผิดกฎหมายอาญาเก่าแก่ของประเทศทำให้ดาราสาวถูกจําคุกเป็นเวลา 1 ปี6 เดือนส่วน จอง ถูกจําคุกเป็นเวลา6 เดือนแม้จะได้รับความเห็นใจจากสังคม แต่ทงต้องดําเนินไปตามกฎหมายนี่ยังไม่นับข่าวการฆ่าตัวตายของ จางจายอน นักแสดงสาวจากละครดัง ''Boys Over Flowers'' เมื่อเดือนมีนาคม (ตาย 7 มี.ค. 2009) โดยเขียนอธิบายสาเหตุของการฆ่าตัวตายว่าเพราะถูกต้นสังกัดบังคับให้มีเซ็กส์ กับผู้บริหารในแวดวงบันเทิง... ทุกสิ่งที่กล่าวมาต่างสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติเรื่องเซ็กส์ของคนในสังคม เกาหลี แต่น่าแปลกที่ในภาพยนตร์ของ เกาหลี กลับทำให้เราเห็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม ในโลกความเป็นจริง เซ็กส์อาจยังถูกซ่อนเร้น แต่ในโลกภาพยนตร์ เซ็กส์ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ ชีวิตรักในหนัง เกาหลี ถูกนำเสนอหลายรูปแบบ ทั้งเจ็บปวด เร่าร้อน และขำขัน และในหลายๆ เรื่องได้สร้างความตะลึง เพราะช่างแตกต่างจากสิ่งที่เรารับรู้ เอ๊ะ!...หรือภาพที่เราเห็นในภาพยนตร์นั่นแหละ คือสังคมของ เกาหลี ในปัจจุบันกันแน่ หนังอย่าง Marriage Is a crazy Thing หนุ่มในฝันหัวใจยุกยิก (2001) A Good Lawyers Wife รักแลก ปรารถนา (2003) และGreen chair กรีนแชร์ คว้ารักมาแนบเท้า (2005) ช่วยปลดปล่อยผู้หญิงจากกรงขังทางเพศทั้งเรื่องการมีเซ็กส์ของคนรุ่นใหม่ที่มีอิสระมากขึ้น หรือแม้แต่การมีชู้ ขณะที่หนังอย่าง Sex Is Zero ขบวนการปิ๊ดปี้ปิ๊ด (2002) และ Wet Dreams 4 ฝันขยันเปียก (2002) ก็ล้อเล่นกับความหมกมุ่นในเรื่องเซ็กส์ของวัยแตกหนุ่ม ส่วน Bungee Jumping of Their Own รักแรก...ครั้งสุดท้าย (2001) The King and the Clown กบฏรักจอมแผ่นดิน (2005) ที่สร้างชื่อให้ อีจุนกิ ได้โด่งดัง และ No Regret (2006) ก็เป็นหนังที่ลองหยั่งเสียงคนรักเพศเดียวกันและถางทางให้คนกลุ่มนี้ทีละนิด...แถมดูท่าจะสำเร็จเสียด้วยสิ แต่ในปี2008-2009 กลับเป็นหนังที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างเมือต้นปีที่ผ่านมา A Frozen Flower อำนาจราคะ ใครจะหยุดได้ (2008) หนังฉาวสะเทือนบัลลังก์ ความรักระหว่างกษัตริย์และราชองค์รักษ์หนุ่มที่มอบความรักให้ราชินีของตนเอง ที่เพิ่งลาโรงบ้านเราไม่นาน แต่อาจจะติดใจใครหลายคนกับบทเลิฟซีนที่มากมาย (ยาวนาน) และที่สำคัญเรื่องนี้ได้ใช้ดาราดังอย่าง จูจินโม โจอินซอง ซองจิฮโย 3 นักแสดงนำที่เล่นได้เปลืองตัวสุดๆ และ Portrait of Beauty (2008) หนังย้อนยุคที่ตั้งโจทย์ท้าทายประวัติศาสตร์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจิตรกรหนุ่มชื่อดังแห่งยุคแท้จริงแล้วเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาแล้วก็มีผู้ชายมาตกหลุ่มรักเธอที่เป็นชายอีกทีหนึ่ง ในภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง ความร้อนแรงของมันไม่ได้มีแค่ฉากเซ็กส์ แต่ยังมีอะไรที่มากกว่านั้น... ใครสนใจก็ลองไปหาดูกันได้แล้วมาคิดกันเล่นๆ ว่าหนังได้เดินสวนทางเป็นคู่ขนานกับสังคม เกาหลี หรือเปล่า...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง โอบามาบินถกสุดยอดเมดเวเดฟ กระแสเกาหลี 2 โค้ชเชฉุนเตะไทยน้ำหนักเกินศึกเทควันโดม.โลก ศิลปินกับแฟนคลับที่ต้องขับเคลื่อนไปคู่กัน ลูกคิม จอง อิลยังไม่ได้เป็นทายาทอย่างที่คิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook