''ปู่ชัย''ชี้ถวายฎีกาช่วย''แม้ว''ต้องเข้าซังเตก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าควรมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างในการยื่นถวายฎีกา นายชัย กล่าวว่า ต้องทำตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าคนที่จะถวายฏีกานั้น คำพิพาษาต้องสิ้นสุดกระบวนการตามกฎหมาย และต้องเข้าไปในคุกเสียก่อน เหมือนกับกรณีของนายวีระ มุกสิกพงษ์ แกนนนำนปช. ที่เคยมีกรณีหาเสียงและถูกพิพากษาจำคุก และติดคุกอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ จากนั้นไม่นาน นายวีระก็ได้ทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ใช้หลักการตามกฎหมาย ก็เป็นการขอพระราชทานอภัยที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่ากรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ นั้นยังไม่มีการเดินทางมารับโทษ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบกระบวนการนี้ คงต้องมีการพิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นการทำนอกตัวบทกฎหมายือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ความเหมาะสมในการดำเนินการนั้น ตนไม่ทราบ อยู่ที่จิตสำนึกของตัวผู้กระทำเอง ตนมิอาจกล่าวเรื่องนี้เพราะถือว่านอกเหนืออำนาจหน้าที่
ต่อข้อถามว่า การยื่นถวายฏีกาในครั้งนี้จะเป็ต้นเหตุให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า คงเป็นส่วนน้อย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในชาติ ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน เริ่มมีความรู้เรื่องกฎหมาย ก็จะทราบดีว่าควรปฏิบัติอย่างไร จึงเข้าใจว่า ใครกระทำอย่างไรกันไว้บ้าง
ส่วนกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เคยมีข้อเสนอว่าวิธีการถวายฎีกาจะเป็นทางออกของปัญหา นายชัย กล่าวว่า เขารู้กฎหมาย พวกที่มีพิจารณาส่วนใหญ่เป็นผู้รู้กฎหมาย อัยการ อดีตผู้พิพากษา ก็ย่อมรู้ดีว่าการขอพระราชทานอภัยโทษต้องปฏิบัติอย่างไร เมื่อถามว่าการล่ารายชื่อจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ตนคิดว่าการล่ารายชื่อให้ครบ 1 ล้านรายชื่อนั้น อาจกระทำได้สำเร็จและไม่สำเร็จทั้งนี้อยู่ที่การประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมในอนาคตนั้น ตนยังไม่เห็นการยื่นเรื่องเสนอมา ซึ่งการดำเนินการเป็นเรื่องของการวินิจฉัยของสภา ว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น จะดำเนินการเช่นไร.
ก.ต่างประเทศไม่พบชื่อ''ทักษิณ''อยู่ดูไบ
วันนี้ (4 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังมีกระแสข่าวว่าบุคคลใกล้ชิดเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ว่า ก.ต่างประเทศไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะจากการสอบถามไปยังทางการยูเออีก็ไม่พบชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศ โดยอาจเป็นไปได้ว่า อดีตนายกฯ อาจใช้ชื่ออื่น แต่การเชิญผู้เดินทางมาพบเพื่อยืนยันที่พักอาศัยคงจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศไม่มีหน้าที่ในส่วนดังกล่าว เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการเดินทาง
สำหรับพยานหลักฐานที่จะนำไปยืนยันการพักอาศัยในยูเออีของพ.ต.ท.ทักษิณ ทางก.ต่างประเทศ จะต้องรอข้อมูลจากประชาชนทั่วไป โดยอาจจะอยู่ในรูปแบบคลิปวิดีโอหรืออื่น ๆ แต่จะไม่ใช่การดำเนินการของจนท.ก.ต่างประเทศอย่างแน่นอน.