ทนายดังวิเคราะห์คดี "ลันลาเบล" จ่อโทษหนัก-เอี่ยวหลายคน ชวนนึกถึงคดีพรหมพิราม

ทนายอานนท์ วิเคราะห์คดีการเสียชีวิตของ "ลันลาเบล" เชื่อจะยืดเยื้อและมีบุคคลเกี่ยวข้องอีกหลายคน ชี้โทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต และทำให้นึกถึงคดีฉาวในอดีตที่พรหมพิราม

(21 ก.ย.) นายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช หรือ ทนายอานนท์ ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิเคราะห์คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา หรือ "ลันลาเบล" พริตตี้สาววัย 25 ปี โดยมองว่าอาจจะเป็นคดีที่ความบานปลาย และมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน อีกทั้งยังเปรียบเทียบคดีนี้เหมือนกับที่ "พรหมพิราม" คดีฉาวเมื่อ 42 ปีก่อน

"คดีฆ่าลัลลาเบล ส่อเค้าวุ่น แถมบานปลายแน่นอน และจะต้องมีอีกหลายคนต้องร่วมรับผิดเรื่องนี้ คดีนี้แม้ตำรวจจะยังไม่สรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหากับใครบ้าง แต่จากพยานหลักฐานการสนทนาทั้งในโทรศัพท์ ในแชท ผลตรวจชันสูตร พยานบุคคล เริ่มชี้ไปทางการกระทำผิดฐานร่วมกัน หรือสนับสนุนการกระทำผิดฐานข่มขืนผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตาม ปอ.83 ประกอบ 276 และ ปอ.277 ทวิ ซึ่งโทษก็คือประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ผู้ร่วมกระทำรับโทษเท่ากัน ผู้สนับสนุนรับโทษ 2 ใน 3 แล้วใครจะโดนบ้าง มาวิเคราะห์กันเล่นๆ

เริ่มกันที่เจ้าของบ้าน ได้ชักชวนน้องลัลลาเบลมา และบ้านหลังนี้เคยเกิดเหตุอุ้มข่มขืนมาแล้วจากพยานบุคคล บอดี้การ์ด พนักงานในบ้าน โดยเฉพาะที่มีคลิปหลุดออกมาว่า มีชายสองคนช่วยกันอุ้มผู้ตายไปส่งรถดังกล่าว คนกลุ่มนี้น่าจะเข้าข่ายรู้เรื่องในการกระทำผิด เสี่ยงที่จะโดนแจ้งข้อหาว่าร่วมกระทำผิดตาม ปอ.83 หรือให้การสนับสนุน ตาม ปอ.86

ส่วนกลุ่มที่ 2 คือบรรดาคนที่อยู่ในงาน จะเป็นพริตตี้ด้วยกัน หรือแขกที่มาก็ตามที่มีส่วนชวนคนตายมา ชวนกิน ชวนดื่ม และในขณะที่จะมีการอุ้มผู้ตายไป เห็นเหตุการณ์แต่ไม่โต้แย้งคัดค้าน หรือท้วงติง หรือแกล้งหลับ หากมีหลักฐานสนับสนุนว่าสนิทสนมกับคนกลุ่มแรกเป็นพิเศษ จะมีความผิดเข้าข่ายร่วมรู้เห็นเป็นใจ หรือให้การสนับสนุนทันที

>> อ่านทุกประเด็นข่าว "ลันลาเบล" 

ส่วนพ่อหนุ่มรูปหล่อผู้ลงมือทำ น่าที่จะต้องรับผิดทุกกระทง และเพิ่มอีกกระทงฐานซ่อนเร้นศพ ปกปิดการตาย เพราะไม่ปกปิดไม่ยอมบอกญาติผู้ตายว่าเกิดอะไรขึ้น ตาม ปอ.199 เคสนี้มหากาฬจริงๆ เพราะมีคนเกี่ยวข้องเยอะขึ้นทุกที ทำให้ผมนึกถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับคดีที่พรหมพิราม ไม่น่าเชื่อจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ

เมื่อมาดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ พบว่า ผิดในมาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ผิดในมาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น

ผิดในมาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท

ผิดในมาตรา 277 ทวิ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 276 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 277 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

ผิดใจมาตรา 199 ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผิดในมาตรา 366/1 ผู้ใดกระทำชำเราศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของศพ หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของศพ

คำพิพากษาฎีกาที่ 250/2510 ความผิดในเรื่องข่มขืนกระทำชำเราเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำผิดได้ โดยผู้ร่วมกระทำความผิดไม่ต้องเป็นผู้ลงมือกระทำชำเราด้วยทุกคน เพียงแต่คนใดคนหนึ่งกระทำชำเราผู้ที่ร่วมกระทำก็ผิดฐานเป็นตัวการ ตามมาตรา 83 แม้จำเลยที่ 2 จะเป็นหญิงเมื่อสมคบกับจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำ ศาลก็ลงโทษจำเลยเป็นตัวการ"