กัดฟันสู้เพื่อลูก หนูน้อย 2 ขวบ แพ้นมวัวถึงขั้นช็อก ต้องเจาะคอช่วยหายใจ

กัดฟันสู้เพื่อลูก หนูน้อย 2 ขวบ แพ้นมวัวถึงขั้นช็อก ต้องเจาะคอช่วยหายใจ

กัดฟันสู้เพื่อลูก หนูน้อย 2 ขวบ แพ้นมวัวถึงขั้นช็อก ต้องเจาะคอช่วยหายใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กหญิงวัย 2 ขวบ มีอาการแพ้นมวัวรุนแรงถึงขั้นช็อก ก่อนมีภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง ล่าสุดหายใจเองไม่ได้ หมอต้องเจาะคอช่วยหายใจ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือในการรักษา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นางสาวปาริชาติ อายุ 31 ปี และ นายวสันต์ อายุ 32 ปี พ่อแม่ของ น้องหนูหนา อายุ 2 ขวบ 7 เดือน ได้พักอาศัยอยู่ในตำบลแม่สุก อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวปาริชาติ และใช้เป็นสถานที่รักษาดูแลลูกสาว เนื่องจากมีอาการแพ้นมวัวและมีโรคแทรกซ้อน

นางสาวปาริชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่คลอดน้องหนูนาออกมาได้ 5 เดือน พบว่าน้องเริ่มก็มีอาการแพ้นมวัวอย่างรุนแรง ทำให้มีอาการช็อกหมดสติ ต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลถึง 3 เดือน ต่อมาเมื่ออายุได้ 8 เดือน หมอต้องทำการเจาะคอเพื่อให้หายใจแทนปากและจมูก

กระทั่งอายุได้ 2 ขวบ 7 เดือน เริ่มมีอาการแทรกซ้อนต่างๆ หลายโรค จนต้องเข้าออกโรงพยาบาลที่จังหวัดเชียงราย และโรงพยาบาลมหาราชจังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดูแลและการตรวจรักษาของน้องหนูนา ทำให้เกิดปัญหากับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากตายายมีอาชีพทำนาทำไร่ และพ่อแม่ของน้องหนูนาก็ไม่มีรายได้ เพราะไม่ได้ทำงาน เนื่องจากต้องคอยดูแลน้องอย่างใกล้ชิด และต้องพาไปตรวจรักษาตามหมอนัด ทำให้ขาดเงินในการดูแลรักษาและซื้อนมถั่วเหลืองให้น้องดื่มกิน

แม่ของน้องหนูนา กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกชาย ตอนนี้อายุ 12 ปีแล้ว กับน้องหนูนา ที่ป่วยด้วยโรคหลายโรค หลังจากแพ้นมวัวอย่างรุนแรง ทำให้ต้องเจาะคอช่วยหายใจแทนปากกับจมูก เพราะมีโรคหลอดลมตีบแทรกซ้อนเอามา ทำให้หายใจทางจมูกเองไม่ได้ รวมทั้งยังมีอาการปอดติดเชื้อและกรดไหลย้อน ทำให้น้องมีอาการเหนื่อยหอบ ต้องพ่นยาบ่อยๆ และยาที่น้องต้องทานทุกวัน วันละ 2เม็ด ราคาเม็ดละ 68 บาท

น้องป่วยมาตั้งแต่อายุได้ 5 เดือน ทุกวันนี้มีนัดตรวจที่โรงพยาบาล 2 แห่งทุกๆ เดือน แม้ว่าจะมีสิทธิ์บัตรทอง แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ค่อนข้างยิบย่อย แม่ก็ต้องดูแลน้องตลอด ทำให้ไม่สามารถไปทำงาน ส่วนพ่อของน้องพอจะรับจ้างทั่วไป แต่ก็ไม่ได้มีงานทุกวัน

ทุกวันนี้น้องหนูยังต้องการอุปกรณ์สายดูดสเลด เพราะน้องต้องดูดเสมหะออก ใช้ประมา 9-10 เส้นต่อวัน รวมทั้งจำเป็นต้องใช้ผ้าทำแผล อุปกรณ์ทำแผล ผ้าอ้อมเด็ก ปัจจุบันน้องพูดไม่ได้ กินข้าวก็ไม่ค่อยได้ ต้องดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัว

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีนายอำเภอและเหล่ากาชาดเข้ามาเยี่ยมน้อง และบอกว่าจะหาทางช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็เงียบไป หากมีผู้ใจบุญต้องการให้การช่วยเหลือสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาเทิง ชื่อ นางสาวปาริชาติ ไม้ขนุน เพื่อเด็กหญิง ณัฐฐานันท์ กิจแก้ว หมายเลขบัญชี 985 684 1240 หรือติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 063-6816033

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook