วิศวะดิ่งตึกปริศนา ตร.มีนสอบไร้เหตุจูงใจ!
ตำรวจยังมึนคดีวิศวกร กฟน.ดึ่งอาคารจอดรถคอนโดฯหรู ย่านพระราม 3 ดับปริศนา ตั้งปมเหตุฆ่าตัวตายแต่ไม่ทิ้งประเด็นอื่น เพราะเมียยันไม่มีปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องเงิน อีกรายหนุ่มใหญ่ชาวเติร์กเครียดจัด ลูกสาวตายในสงครามปาเลสไตน์ แถมธุรกิจส่งออกฟุบ ดิ่งคอนโดฯ หรูย่านสุขุมวิทดับอนาถ แฟนสาวร่ำไห้เผยมีลางร้ายมานาน ผู้ตายมักบ่นคิดถึงครอบครัวที่ประเทศบ้านเกิดจนหันไปพึ่งเหล้าย้อมใจ แถมยังพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะขอตัวไปเดินเล่นบนดาดฟ้ามารู้อีกทีเป็นศพไปแล้ว
จากกรณีพบศพนายมนตรี จิตต์หมวด อายุ 31 ปี วิศวกรระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวง สาขาประชาชื่น ตกจากที่สูงลงมาเสียชีวิตบนอาคารจอดรถชั้น 2 ของอาคารพระราม 3 เรส ซิเดนท์ ถนนพระรามที่ 3 แขวงและเขตบาง คอแหลม จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พ.ต.ท. ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน. วัดพระยาไกร เจ้าของคดีเปิดเผยว่า จากการตรวจ สอบสถานที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะถอดทิ้งไว้บนชั้น 11 เป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ ส่วนที่ชั้น 10 พบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 ณ 7424 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ ทรัพย์สินในรถและในตัวผู้ตายยังอยู่ครบ
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ รปภ.ของอาคารฯ ทราบว่าผู้ตายไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าว แต่ไม่ผิดปกติอะไร เพราะมักจะมีคนภายนอกนำรถยนต์เข้ามาจอดอยู่แล้ว แต่ต้องเสียค่าจอดรถเท่านั้น ส่วนญาติ ๆ และภรรยาของผู้ตายให้การว่า ไม่มีเหตุจูงใจในการฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีปัญหาทั้งการงานและการเงิน นอกจากเป็นวิศวกรแล้ว ผู้ตายยังเป็นอาจารย์พิเศษสอนตามสถานที่กวดวิชาต่างๆ ด้วย แต่ไม่ทราบว่าทำไมผู้ตายจึงมาที่คอนโดฯ ดังกล่าว ภรรยาของผู้ตายบอกว่าก่อนเกิดเหตุได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ผู้ตายบอกว่าจะไปสอนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน และจะค้างคืนที่นั่น 2 คืน ก่อนพบศพผู้ตายยังพูดคุยกับภรรยาตามปกติ ไม่ได้บอกกล่าวอะไรที่เป็นสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะฆ่าตัวตายเอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ ซึ่งจะได้สอบสวนต่อไป
อีกรายเช้าตรู่วันเดียวกัน ร.ต.ต.ธีร วัฒน์ อำนาจเจริญยิ่ง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในรื่นฤดีคอนโดมิเนียม เลขที่ 19/11 ซอยสุขุมวิท 1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลอง เตยเหนือ เขตวัฒนา ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดฯ หรู สูง 16 ชั้น ที่ลานจอดรถชั้น 2 พบศพ นายอาบู ซาดา อายุ 47 ปี ถือหนังสือเดินทางสหราชอาณาจักร เชื้อชาติเดิมเติร์กเมนิสถาน สภาพศพนอนคว่ำหน้า ศีรษะแตกสมองกระจาย ข้างศพมี น.ส.กัลชาร์ท โฮกาเนียโซว่า อายุ 24 ปี ชาวเติร์ก แฟนสาวของผู้ตายนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ
สอบสวน น.ส.กัลชาร์ท ให้การว่าตนกับผู้ตายเพิ่งรู้จักคบหากันเป็นแฟนได้ประมาณ 6 เดือน พักอาศัยอยู่ด้วยกันที่ห้อง 19/4 ชั้น 3 ของคอนโดฯ ดังกล่าว ผู้ตายร่วมหุ้นกับเพื่อนประกอบธุรกิจส่งออกกางเกงยีนจากเมืองไทยไปขายต่าง ประเทศ แต่ระยะหลังกิจการไม่ค่อยดี อีกทั้งผู้ตายมักเครียดเพราะคิดถึงครอบครัวและลูกสาว ที่เสียชีวิตจากสงครามในปาเลสไตน์จนต้องหันไปดื่มสุราย้อมใจเสมอ ก่อนหน้านี้เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงตี 1 ยังอยู่ด้วยกันภายในห้อง ผู้ตายบ่นเครียด ขอตัวไปเดินเล่นลำพังบนดาดฟ้าคอนโดฯ ซึ่งเป็นปกติเมื่อหายไปนาน ตนโทรฯ ไปถามผู้ตายบอกว่าขอเดินเล่นอีกสักพัก ตนได้แต่ย้ำไปว่าอย่าดื่มสุราหรือทำอะไรรุนแรง กระทั่งมีรปภ.คอนโดฯ มาแจ้งว่าผู้ตายกระโดดตึกแล้ว ตนตกใจมาก เพราะไม่คิดว่านายอาบูจะฆ่าตัวตายในที่สุด ด้าน ร.ต.ต. ธีรวัฒน์ กล่าวว่าจากการสอบปากคำแฟนสาวของผู้ตาย เชื่อว่านายอาบูฆ่าตัวตายเองเพราะเครียด รื่องการสูญเสียครอบครัวจากภาวะสงครามและปมธุรกิจไม่ราบรื่น
