''กษิต''ย่องมอบตัวสู้คดีปฏิเสธข้อหาก่อการร้าย

''กษิต''ย่องมอบตัวสู้คดีปฏิเสธข้อหาก่อการร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ยังไม่คิดถอดใจกษิตขอสู้คดีในศาล ปฏิเสธก่อการร้ายส่วนปฐมพงษ์สับตั้งข้อหาหนักเกินไป ฝ่ายเพื่อไทยเขย่าความจำนายกฯ ใช้ 9 กฎเหล็กจัดการ กษิต ฝ่าย ปชป. มั่นใจไม่ลามถึงสถานะรัฐบาล ขณะที่ เกียรติกร แหกคอกสับตั้ง กษิต ไม่เหมาะสม ย้ำเตือนนายกฯ แล้วไม่ยอมฟัง ถาวร ปูด ทักษิณ โผล่แวบมาเลเซีย ก่อนไหวตัวเตลิดไปฟิจิ โวเตรียมประสานงานตะครุบจับ นพดล ชี้เป็นเรื่องยากนายใหญ่บินเข้ามาเลย์เพราะไม่มีธุรกิจที่นั่น ประชา ตอกปั้นเรื่องคนหน้าเหมือน พท.เดินหน้าระดมตั้งโต๊ะล่าชื่อถวายฎีกาทั่วกรุง ปชป. ค้านใช้สนามหลวงจัดแซยิดทักษิณ เทพเทือก พอใจผลงานอีสาน ส่วน อลงกรณ์ ตีกันท่า ภท.รุกเข้าภาคกลาง สยามสามัคคีแจงไม่ใช่ สันติสุข พรหมศิริ แต่เป็นสามีรสนา สันติสุข โสภณศิริ ที่เข้าร่วมอุดมการณ์

กษิต ปฏิเสธข้อหาก่อการร้าย

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 07.24 น. นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้เดินทางกลับจากการเยือนประเทศกาตาร์อย่างเป็นทางการ ด้วยสายการบินกาตาร์ เที่ยวบินที่ คิวอาร์ 0612 ปรากฏ ว่าผู้สื่อข่าวที่เดินทางรอสัมภาษณ์กลับไม่พบนายกษิต ตามที่แจ้งไว้ว่าได้มีการจองห้องรับรองพิเศษ (วีไอพี) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกนายกษิต เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีร่วมกับกลุ่มพันธ มิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน พ.ย. 2551

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า ในเวลา 12.30 น. นายกษิต เดินทางพร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยมี พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมสอบปากคำ ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ภายหลังการสอบปากคำ พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากนายกษิตเมื่อช่วงเช้า และดำเนินการขั้นตอนเหมือนคนปกติทั่วไป เบื้องต้นนายกษิตให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนคำให้การอย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษร จะส่งมาให้พนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน ส่วนแกนนำรายอื่นขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา แต่คาดว่าทั้งหมดจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 ก.ค. ตามกำหนดนัด

ชี้ยังไม่จำเป็นต้องลาออก

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขา นุการ รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า นาย กษิตต้องการไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด ไม่จำเป็นต้องรอถึงวันที่ 16 ก.ค. นี้ อีกทั้งช่วงนั้นยังติดราชการ โดยมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้สบาย ๆ ทั้งนี้ ส่วนตัวตนมองว่าข้อกล่าวหาการก่อการร้ายเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้นายกษิตลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบแสดงจรรยาบรรณทางการเมืองนั้น ตนยังไม่ได้หารือเรื่องนี้กับนายกษิต แต่เห็นว่านายกษิตไม่จำเป็นต้องออกจากตำแหน่ง

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตามกฎหมายนายกษิต ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งก็จะเข้ามอบตัว ไม่เหมือน ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่พยายามพูดตลอดเวลาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บริสุทธิ์ ทั้ง ๆ ที่มีคดีสั่งฟ้อง 13 คดี และโดนตัดสินไปแล้วในกรณีที่ดินรัชดา ยังไม่มารับโทษ ที่ผ่านมารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ก็มีรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาในหลายคดียังดำรงตำแหน่งและยังทำหน้าที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นคดีกล้ายาง และคดีเขาพระวิหาร ซึ่งก็เหมือนกันกับคดีของนายกษิต แต่ถ้านายกฯจะมีมาตรฐานสูงก็สุดแท้จะพิจารณา

ปฐมพงษ์ จวกตั้งข้อหาเกินไป

พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธาน ที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด และที่ปรึกษา แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาก่อการร้ายต่อกลุ่มพันธมิตรฯ กรณีที่บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองว่า ต้องว่าไปตามข้อกล่าวหา เขามีสิทธิกล่าวหาได้ แต่ความจริงเป็นอย่างไรเรารู้อยู่ว่า เราไปทำอะไร ไม่มีใครก่อการร้ายและรูปแบบไหนเรียกว่าก่อการร้าย การกล่าวหาเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าสังคมของผู้รักษากฎหมายเป็นเรื่องที่จะต้องมีการทบทวนบทบาทผู้รักษาสันติราษฎร์ คุณเอากฎหมาย มากล่าวอ้างดูแล้วมันรุนแรงมันเลวร้ายทำให้เกิดปัญหาความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชน หรือไม่ ไม่น่ามากล่าวหาเยี่ยงนี้

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ใส่ใจ แม้จะติดคุกหรือประหารชีวิตเป็นเรื่องเล็กกับสิ่งที่ทำเพื่อชาติ เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง ทั้งนี้กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาได้มีการนัดหารือในวันที่ 9 ก.ค. นี้ ที่บ้านพระอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ส่วนหมายเรียกยังไม่ได้รับ ตนทราบข่าวจากสื่อเท่านั้น สำหรับเรื่องนี้ทนายกลุ่มพันธมิตรฯจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ทั้งหมด

ชวน เงียบไม่วิจารณ์ พธม.

ที่บ้านวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกษิตถูกออกหมายเรียกกรณีบุกยึดสนามบินว่า เรื่องนี้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ต้องไปถามรัฐบาล นอกจากนี้ นายชวน ยังให้สัมภาษณ์หลังมีกระแสข่าวว่านายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรค และแกนนำภาคอีสาน จะย้ายไปอยู่พรรคอื่นว่า ได้พูดคุยกับนายสุทัศน์แล้วก็ทราบว่าเป็นเพียงเรื่องสมมุติว่าถ้ายกภาคอีสานให้พรรคอื่นดูแลก็จะไม่อยู่ โดยเรื่องนี้หัวหน้าพรรคก็ยืนยันแล้วว่าไม่มีให้ใครดูแล

ปชป.เชื่อไม่ลามถึงรัฐบาล

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกระแสกดดันนายกษิต ภายหลังถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลาออกจากตำแหน่งว่า กรณีของนายกษิตยังไม่เริ่มขึ้นเพราะต้องเข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกหมายเรียกเสียก่อน แต่กลับมีคนตีปลาหน้าไซ เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลใช้มาตรฐานเดียวและเปิดกว้าง หากรัฐบาลชุดนี้ใช้มาตรฐานเดียวกับรัฐบาลทักษิณ เชื่อว่านายกษิตจะไม่ถูกออกหมายเรียกแน่นอน

นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทย จี้นาย กษิต ลาออกเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกในข้อหาก่อการร้ายว่า นายกษิตไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะเรื่องของนายกษิตเกิดมานานแล้ว และทุกอย่างก็ต่อสู้ได้ตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อรัฐบาล

เกียรติกร สับแหลก กษิต

นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาก่อการร้ายกับนายกษิตว่า นายกษิต ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะการตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายถือว่าร้ายแรง และเจ้าหน้าที่ตำรวจคงมีหลักฐานเพียบพร้อมแล้ว แม้จะยังไม่มีการสอบปากคำ แต่การออกหมายเรียกก็เหมือนกับคนมีความผิด มีข้อหาแล้ว ดังนั้นนายกษิตควรแสดงสปิริต เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรอบคอบแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นอาจถูกนายกษิตฟ้องกลับได้

เมื่อถามว่า ออกมาพูดอย่างนี้ไม่กลัวถูกขับออกจากพรรคหรือ นายเกียรติกร กล่าวสวนทันควันว่า กล้าหรือ ถ้าเขาจะขับออกจาก พรรคก็ทำไปตั้งนานแล้ว และที่ตนพูดก็ถือว่าทำงานเพื่อชาติ ทั้งนี้ในช่วงแรกตนได้เตือนนายกรัฐมนตรีแล้วว่า นายกษิตไม่มีความชอบธรรม แต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่สนใจ

พท.ทวงใช้ 9 กฎเหล็กนายกฯ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อว่าความรับผิดชอบทางการเมืองและจริยธรรมสูงกว่ากฎหมาย ด้วยการพิจารณาปรับนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน เพื่อรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประเทศ อีกทั้งขอให้นายกษิตพิจารณาตัวเองด้วยการลาออก หลังถูกแจ้งข้อหาร้ายแรงเป็นผู้ก่อการร้ายยึดสนามบินสร้างความเสียหายให้ประเทศนับแสนล้านบาทต่างชาติก็รับทราบข่าวโดยทั่ว แล้วนายกษิตจะสู้หน้า ต่างชาติได้อย่างไร

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าสำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เชิญนายเนวินเข้าหารือที่บ้านพิษณุ โลกเพื่อรักษาเสถียรภาพรัฐบาล มาจนถึงการปะทะฝีปากระหว่างนายอภิสิทธิ์และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวินที่สุดท้ายก็ไกล่เกลี่ยกันได้ แสดงให้เห็นว่านายเนวินมีอำนาจบารมีเทียบเท่านายกฯ ซึ่งตนขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ออกมารักษาศักดิ์ศรีและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ปล่อยผลประโยชน์ประเทศขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนเพียงสองคน

ค้านเสื้อแดงใช้สนามหลวง

นายเทพไท ส.ส.นครศรีธรรมราช และ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว กรณีกลุ่มเสื้อแดงจะใช้พื้นที่ท้องสนามหลวง จัดงานครบรอบวันเกิด 60 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมทั้งตะแบงว่าท้องสนามหลวงเป็นที่สาธารณะใครจะจัดงานก็ได้ว่า ข้อเท็จจริงแล้วสนามหลวงเป็นสถานที่ประกอบรัฐพิธีและหน่วยงานราชการ และงานของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ไม่ควรใช้สนามหลวงในการจัดงานวันเกิด โดยเฉพาะ พ.ต.ท. ทักษิณ ในฐานะนักโทษที่หนีคดีไปอยู่ในต่าง ประเทศ

นายเทพไท กล่าวอีกว่า เชื่อว่าในวันที่ 26 ก.ค. กลุ่มเสื้อแดงจะจัดงานวันเกิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลายเป็นวัน ทักษิณาธิบดี ถือเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง โดยในวันดังกล่าว จะมีการจัดงานของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดและเปิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจึงอยากให้มีการยุติกระบวนการดังกล่าว และเรียกร้องให้กทม. ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ ดูแลไม่ให้ใช้สถานที่ดังกล่าวในการจัดงานวันเกิดอันจะนำไปสู่ ความหมิ่นเหม่ และทำให้ประชาชนไม่สบายใจ

โต้ 111 วิจารณ์รัฐบาลหัดขับ

นายเทพไท ยังกล่าวตอบโต้นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่วิจารณ์ความล้มเหลวการบริหารงานของรัฐบาลว่า การกล่าวหาว่ารัฐบาลประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจนั้นต้องถือว่ายังไม่ล้มเหลวเพราะการแก้ปัญหาเป็นเรื่องยาก สั่งสมมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล ชุดก่อน ระยะเวลาเพียง 6 เดือน คงไม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทันตาเห็น แต่หากรัฐบาลใช้เงินตามแผนโครงการไทยเข้มแข็งก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ส่วนการแก้ไขความขัดแย้งในสังคม และ สร้างความสมานฉันท์นั้น นายกฯ ได้เปิดให้ฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่โดยการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่พรรคพวกของนายจาตุรนต์เองกลับปลุกปั่นไม่ให้เกิดความสมานฉันท์ในสังคม

ผมกำลังหาช่องทางในการส่งเสื้อ ฉันรักประเทศไทย เพื่อมอบให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่เมืองดูไบ แต่อยากฝากไปยังสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่จะเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท. ทักษิณ ก็จะฝากไปด้วย แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับ มาเข้าคุกที่เมืองไทย ตนก็คงจะใช้ช่องทางสิทธิการเยี่ยมผู้ต้องหาในการมอบเสื้อให้นายเทพไท กล่าว

ถาวร ปูด ทักษิณแวบมาเลย์

นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้ามายังประเทศมาเลเซีย และได้เดินทาง ออกไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ทราบว่าเข้าพักที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศฟิจิ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางเข้ามายังประเทศมาเลเซียเพราะสาเหตุใดนั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้

เมื่อถามว่าได้มีการประสานให้ทางตำรวจไปติดตามจับกุมตัวหรือไม่ นายถาวร กล่าว ว่า ยังไม่ได้จับกุมตัว เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณออกจากประเทศไปก่อน อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการรายงานข่าวเข้ามาแบบไม่เป็นทางการเท่านั้น ซึ่งกำลังสั่งให้มีการตรวจสอบความชัดเจนอยู่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อถามว่า รัฐบาลกังวลหรือไม่ที่มีข่าวเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าใกล้ประเทศไทยเต็มที รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ให้รีบเข้ามายิ่งดี จะได้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคกัน

นพดล ไม่เชื่อชี้เป็นเรื่องยาก

นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.การต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท. ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายถาวรเปิดเผย ระหว่างการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่าได้รับรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมานอนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียจึงได้มีการประสานเพื่อจับกุมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณไหวตัวทันและขึ้นเครื่องบินไปยังฟิจิว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าประเทศมาเล เซีย จริงหรือไม่เพราะไม่ได้ติดต่อกันหลายวันมาแล้ว แต่เท่าที่ทราบ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ค่อยเดินทางเข้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะไม่มีธุรกิจและไม่มีบ้านพักที่นี่ อีกทั้งไม่ทราบว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ประเทศใด

นายนพดล กล่าวว่า สำหรับเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและมาเลเซียนั้น คิดว่าน่าจะมีแต่วิธีการปฏิบัติต้องมีขั้นตอน ไม่ใช่อยู่ ๆ ใช้วิธีไล่จับเหมือนผู้กระทำความผิด ทั่วไป เรื่องนี้ต้องให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงเพราะกระทรวงการต่างประเทศต้องเป็นผู้ประสานงาน และปกตินาย กษิตก็ให้ความสำคัญไล่จับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นงานหลักอยู่แล้ว

ประชา ตอกแค่คนหน้าเหมือน

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังมีข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ามาเลเซียและเกือบถูกคุมตัวส่งไทย ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อน

ส.ส.อีสาน 2-3 ราย ซึ่งอยู่ที่ดูไบกับ พ.ต.ท. ทักษิณได้รับคำยืนยันว่าระหว่างที่มีข่าว พ.ต.ท. ทักษิณ ยังอยู่ที่ดูไบ แต่โดยมารยาทไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้และส่วนตัววางแผนว่าจะเดินทางไปอวยพรวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.ค. เช่นกัน ทั้งนี้คิดว่าอาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดหรือคนหน้าเหมือนก็ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรเอาเวลาไล่จับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแก้ ไขปัญหาไข้หวัด 2009 ปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า

ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาตามกระบวนการปกติ หรือโดยความสมัครใจแม้จะต้องเผชิญชะตากรรมด้านกฎหมายจะดีกว่าไปบังคับขืนใจ ฉุดกระชากเอาตัวมา เพราะจะสร้างความแตกแยกรุนแรงหนักขึ้นอีก การที่บอกว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่หยุดโฟนอิน หยุดเคลื่อนไหวนั้นต้อง ถามว่าแล้วทำไมรัฐบาลไม่หยุดจองล้าง พ.ต.ท. ทักษิณ และผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าสักวันหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจกลับประเทศด้วยตัวเองแน่นอน นายประชา กล่าว

โฟนอิน แม้ว เจาะเมืองละโว้

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทยและรองโฆษกของพรรค กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมาตนได้โทรศัพท์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอให้โฟนอินในวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งตนจะจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเนื่องในวันคล้ายวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รับปาก

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพูดเรื่องกลับบ้านว่ารอได้ รัฐบาลนี้อีก 3 เดือนข้างหน้าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร รัฐบาลก็เหมือนมะม่วง สุกจนงอม รอร่วงเท่านั้น ซึ่งระหว่างนี้จะคิดหาวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจและอัดเป็นซีดีส่งมาให้พรรคโดยไม่ห่วงว่าจะถูกก๊อบปี้เพราะอย่างไรก็ลอกไม่ทัน นายสุชาติ กล่าว

พท.ระดมตั้งโต๊ะล่าชื่อทั่วกรุง

นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่ 20 กว่าวัน ก่อนสิ้นเดือน ก.ค. จะได้รายชื่อประชาชนทั่วประเทศเกิน 1 ล้านคนอย่างแน่นอน โดยในกทม.จะมีการจัดตั้งจุดรณรงค์เข้าชื่อถวายฎีกา ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค. นี้ ที่หน้าวัดดอนเมือง ทั้งนี้ ตนได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนบางกลุ่มเข้าไปในพื้นที่เขตดอนเมือง เพื่อล่ารายชื่อจากประชาชนโดยอ้างว่าเมื่อลงชื่อแล้วจะให้เงินตอบแทนด้วย ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับพวกเราแน่นอนและเป็นไปไม่ได้ ถือเป็นการทำลายพวกเรา เพราะตนมั่นใจทุกคนที่มาร่วมลงชื่อต่างทำด้วยความตั้งใจเพื่อแก้ปัญหา คงไม่มีใครจะไปจ้างให้คนมาลงอย่างแน่นอน

ชี้แจง สันติสุข โสภณศิริ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะสมาชิกกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวถึงกรณีที่นายสันติสุข พรหมศิริ หรือ หนุ่ม ดาราและพิธีกร ชื่อดัง ออกมาแถลงข่าวว่าไม่ได้อยู่ในสยามสามัคคีที่นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ซึ่งได้คัดค้าน กรณีกลุ่มเสื้อแดงล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาว่า เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ธุรการของกลุ่มที่พิมพ์ชื่อนามสกุลผิด ความจริงแล้วคือ นายสันติสุข โสภณศิริ นักเขียน และเป็นสามี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ

ทั้งนี้อยากฝากผ่านสื่อขอโทษนายสันติสุข ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและยืนยันกลุ่มสยามสามัคคีไม่ได้ออกมาทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของการปกป้องสถาบัน พระมหากษัตริย์

เทพเทือก พอใจผลงานอีสาน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคอีสานว่า ตนอยู่พรรคประชาธิปัตย์มา 31 ปีแล้ว เห็นว่าพรรคมี ส.ส.ในพื้นที่อีสานไม่มาก โดยครั้งที่มี ส.ส.อีสานมากที่สุดก็ประมาณ 17-18 คน และตอนนี้มี 8 คน ตนก็พอใจ

เมื่อถามว่า รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงพื้นที่ภาคอีสานจำนวนมาก จะสามารถซื้อใจประชาชนชาวอีสานได้หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การนำงบประมาณลงไปช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่ได้เพื่อแลกกับคะแนนเสียง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลของคนทุกภาคทุกจังหวัด แต่เห็นว่าชาวอีสานมีปัญหาเรื่องน้ำที่จะใช้ทำการเกษตร ซึ่งถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ต้องใช้งบประมาณถึง 2 แสนกว่าล้านบาท รัฐบาลจึงได้ทุ่มงบประมาณในส่วนนี้เพื่อให้ชาวอีสานได้มีน้ำใช้ในการทำนา ทำเกษตรต่าง ๆ เพื่อให้มีรายได้ดีขึ้น ส่วนทำไปแล้วประชาชนจะลงคะแนนเสียงให้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

จ้อน ตีกัน ภท.ขยับภาคกลาง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคกลางของพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเตรียมตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้งว่า การพิจารณาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคนั้นไม่ใช่สัญญาณว่าจะมีการยุบสภาหรือมีการเลือกตั้งใหม่ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการทำงานของ ส.ส.ในพื้นที่ สาขาพรรค และอดีตผู้สมัครของพรรค เพื่อให้การสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะ นโยบายสำคัญที่เป็นประโยชน์ของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชนพื้นที่ภาคกลางในลักษณะจัดรายการเรียลิตี้ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาของช่วงปิดสมัยประชุมสภาที่ทุกพรรคต้องลงพื้นที่ และเป็นเรื่องของ ความขยันที่ควรทำ โดยเฉพาะในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องขยันทำงาน ซึ่งตนไม่ได้มองว่าเป็นพรรคคู่แข่งที่จะมาแย่งพื้นที่ แต่ถือว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องช่วยกันลงพื้นที่ให้มาก และพรรคภูมิใจไทยมีฐานอยู่ในภาคอีสาน ไม่ใช่ภาคกลาง ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะไปลงพื้น ที่อีสานด้วย

โวรัฐบาลอยู่ได้ยาวถึง 3 ปี

เมื่อถามถึงการวิจารณ์ว่ารัฐบาลอาจอยู่ได้ไม่นาน แต่ตอนนี้อยู่เพื่อเฉพาะกิจเพื่อรองบประมาณเท่านั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ถ้าคิดอย่างนั้นอยู่กัน 3 ปีแน่นอน เพราะงบประมาณนั้นมีแผนการลงทุน 8 แสนล้าน ช่วงปี 2553-2555 จึงต้องอยู่ช่วยกันสร้างความสำเร็จในการต่อสู้วิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วยการลงทุนขนาดใหญ่และการปรับโครงสร้างการเกษตรที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกของประเทศ ดังนั้นยังอยู่กันอีกนาน และยังไม่มีปัจจัยใด ๆ ที่จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น เว้นแต่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น

ต่อข้อถามว่ากระแสความไม่พอใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน จะทำให้พรรคร่วมแตกหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้เราสมานฉันท์กันอยู่แล้ว แต่อย่าไปฉันเท่านั้น และต้องช่วยกันทำงาน ส่วนเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้างในการบริหารงานนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา และสามารถพูดคุยกันได้ ไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง ทั้งนี้ ตนเห็นว่านายกฯ และนายสุเทพ ก็ให้เกียรติและความใกล้ชิดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอดเวลา

เผย ปชป. ตีปี๊บอีสานไม่ดัง

นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้งในภาคอีสานตอนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่พรรคภูมิใจไทยมีฐานเสียงเข้มแข็ง กล่าวถึงการทำพื้นที่ในภาคอีสานว่า จากการแบ่งพื้นที่ภาคอีสาน พรรคได้มอบให้นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน ดูแลอีสานตอนบน และให้ตนและนายอิสสระ สมชัย รมว. การพัฒนาสังคมฯ ดูแลพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งในพื้นที่อีสานใต้ ถือว่าไม่หนักเท่าที่คิด แต่อาจจะมีการต่อสู้ที่เข้มข้นหน่อย แต่ตนมั่นใจว่าจะ รักษาพื้นที่ ส.ส.เดิมได้

นอกจากการรักษาพื้นที่เดิมแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ออกไปยังเขตเทศบาล และ อ.เมือง ใน 19 จังหวัด เพราะในการเลือกตั้ง ครั้งที่แล้วพื้นที่ดังกล่าวมีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ส่วนการคัดผู้สมัครจะเลี่ยงไม่ส่งคนลงซ้ำกับพรรคภูมิใจไทย เพราะในพื้นที่จะพอรู้กันอยู่ว่าพรรคไหนเสียงดี ซึ่งจะเป็นการหลีกกันโดยอัตโนมัติ แต่พรรคประชาธิปัตย์จะส่งคนลงทุกเขต เพื่อรักษาคะแนน ส.ส.สัดส่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับพรรคภูมิใจไทย แต่จะมีการประสานกันกว้าง ๆ เป็นการภายในก่อน อีกทั้งกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่จะใช้หาเสียงในพื้นที่อีสาน โดยที่การทำงานของรัฐบาล ก็ถูกใจคนอีสานอยู่แล้ว เพียงแต่ในภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ตีปี๊บไม่ค่อยดังเท่านั้น

พรรคการเมืองใหม่รับสมาชิก

นายพิชิต ไชยมงคล รองเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) เปิดเผยว่า ได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ เป็นวันแรก ที่บ้านพักของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค ซึ่งใช้เป็นที่ทำการชั่วคราว โดยวันแรกมีผู้มาสมัครแล้วกว่า 1 พันคน โดยเป็นตัวแทนมาจากจังหวัดต่าง ๆ แต่ยังขาดพันธมิตรฯ ภาคใต้ที่ยังเดินทางมาไม่ถึง ทั้งนี้ การเปิดรับสมัคร รอบแรกนี้จะเปิดให้แกนนำแต่ละจังหวัดได้สมัครก่อน จากนั้นเมื่อเป็นสมาชิกพรรคแล้ว คนเหล่านี้ก็จะกลับไปเปิดสาขาพรรคตามจังหวัดต่าง ๆ เป็นการนำร่อง หลังจากนั้นผู้ที่ประสงค์จะสมัครสมาชิกพรรคก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาสมัครในส่วนกลางโดยสามารถสมัครตามสาขาต่าง ๆ ได้

นายพิชิต กล่าวอีกว่า ซึ่งเราได้วาง แผนไว้ว่าในอนาคตจะต้องมีสาขาพรรคทุกจังหวัด อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนหลังจากจัดตั้งสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาคแล้ว ก็จะรับสมัครให้ถึง 5 พันคนตามกฎหมาย จากนั้นจะสามารถเปิดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ในช่วงเดือน ก.ย. หรือ ต.ค. ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลนี้ยุบสภาในปลายปีนี้ พรรคก็พร้อมจะส่ง ส.ส. ลงเลือกตั้งได้ทันที แต่อาจจะส่งเฉพาะใน กทม. และจังหวัดใหญ่ ๆ ที่พรรคมีสาขาพรรคเท่านั้น

กษิตเย็บปากเงียบถูกซัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. นายกษิต ได้เดินทางมาถึงสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เพื่อออกอากาศสดในรายการ คุยนอกทำเนียบ เวลา 20.30 น. โดยมีนายวีระ ธีรภัทร เป็นพิธีกร ซึ่งเป็นการออกอากาศครั้งแรกของรายการนี้ เมื่อนายกษิตมาถึง สทท.11 เมื่อเห็นสื่อมวลชนดักรอสัมภาษณ์ ปรากฏว่ารถได้รีบขับวนไปขึ้นทางด้านหลัง ผู้สื่อข่าวรีบกรูไปดักรอ แต่นายกษิตไม่ยอมปริปากตอบคำถามแม้แต่คำเดียว พร้อมรีบเดินเข้าห้องออกอากาศทันที

อย่างไรก็ดี ระหว่างช่วงที่เดินเข้าห้อง ออกอากาศ เลขาฯรมว.การต่างประเทศ ได้ตะโกนบอกว่า นายกษิตไม่ลาออกเป็นระยะ ๆ พร้อมระบุว่า ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้โทรฯมาสอบถามนายกษิตโดยตรงหลังโทรทัศน์อัลจาซีราห์เสนอข่าวว่านายกษิตจะลาออก โดยนายกษิตได้ยืนยันไปว่าไม่ออก และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรต่อการประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน ที่ภูเก็ต

ตัดสินใจออกเมื่อศาลรับฟ้อง

สำหรับเนื้อหาในรายการ นายกษิตได้ชี้แจงเหตุและผลการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ และยืนยันเรื่องการปฏิเสธข้อกล่าวหาข้อหาก่อการร้ายบุกยึดสนามบิน รวมทั้งยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศในช่วงนี้ แต่จะตัดสินใจอีกครั้งเมื่อถึงชั้นอัยการไปถึงศาลแล้วศาลประทับรับฟ้อง เมื่อพิธีกรถามว่า การมีคดีติดตัวจะมีอุปสรรคหรือไม่ นายกษิต ตอบว่า ไม่เป็นปัญหา ไม่มีอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะยังไม่ถึงที่สุด และยืนยันว่าการกระทำของตัวเป็นสิ่งที่เปิดเผย และใช้สิทธิเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญและต่อต้านระบอบทักษิณ และไม่อยากจะเทียบตัวเองกับ รมต.คนอื่น

ส่วนกระแสข่าวการรายงานว่าอัลจาซีราห์ รายงานว่าตนจะลาออก รมว.การต่างประเทศ ชี้แจงว่า เป็นการไปออกรายการของตนที่สำนักงานใหญ่ ขณะไปปฏิบัติราชการที่กาตาร์ โดยได้ตอบคำถามที่ถูกถามถึงการลาออกในขณะที่มีคดีเรื่องยึดสนามบิน โดยตนตอบว่าบอกเป็นแนวทางว่าเมื่อถึงเวลาเหมาะสมถึงจะพิจารณา ไม่ได้หมายความว่าจะตัดสินใจในช่วงนี้.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook