ยอดซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นลด
เอเอฟพีรายงานว่า บรรดาบริษัทญี่ปุ่นกำลังลดการลงทุนด้านโรงงานและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ที่ทำให้หลายบริษัทขาดทุนมหาศาล โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า คำสั่งซื้อหลักลดลง 3.0% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน เหลือ 668.2 พันล้านเยน หรือ 7.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2530 โดยคำสั่งซื้อลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่เคยมีการคาดการณ์ตลาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนพฤภาคม หลังจากที่ยอดลดลง 5.4% ในเดือนเมษายน
นาโคกิ มุราคามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโมเน็ก เซคเคียวริตี้ ข้อมูลดังกล่าวเตือนเราถึงความเสี่ยงที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะช้ามาก อันเป็นผลจากการลดการใช้จ่ายด้านทุนภายในประเทศ ของบริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตและบริษัทอื่นๆ
ทั้งนี้คาดว่าคำสั่งซื้อหลัก ซึ่งไม่นับรวมความต้องการที่ไม่แน่นอนจากบริษัทพลังงานและเรือ จะลดลง 5.0% ในรอบ 3 เดือนนับถึงเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยในช่วงมกราคม-มีนาคม ยอดคำสั่งซื้อหลักลดลง 9.9%
ด้านซาโตรุ โอกาซาวาระ นักเศรษฐศาสตร์ของเครดิต สวิส ชี้ว่า การลงทุนด้านทุนจะยังคงอ่อนแออีกช่วงหนึ่ง
ก่อนหน้าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ภาคองค์กรของญี่ปุ่นคือแรงขับเคลื่อนหลักของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย แต่ล่าสุดผลการสำรวจ ทันกัน ของธนาคารกลางญี่ปุ่น ระบุว่า บริษัทสำคัญๆ ของญี่ปุ่น มีแผนลดการลงทุนด้านโรงงานและอุปกรณ์เครื่องมือลงเฉลี่ย 9.4% ในรอบปีบัญชีปัจจุบัน
ขณะที่รายงานอีกฉบับชี้ถึงบรรยากาศการค้าที่ยากลำบาก ในภาวะที่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นหดตัวแรงกว่าที่คาดไว้ที่ 34.3% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีกลาย เหลือ 1.30 ล้านล้านเยน