ทุ่ม5พันล.ยกเครื่องระบบเน็ตศธ. สกอ.แม่ข่ายพัฒนา-สพฐ.ขอคลุม3หมื่นร.ร.

ทุ่ม5พันล.ยกเครื่องระบบเน็ตศธ. สกอ.แม่ข่ายพัฒนา-สพฐ.ขอคลุม3หมื่นร.ร.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการเตรียมงบประมาณ 5,177 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อพัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือยูนิเน็ต อยู่แล้ว แต่ศักยภาพยังอยู่ในระดับต่ำ จึงมีแนวคิดจะนำระบบท่อใยแก้วนำแสงมาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ใช้อยู่ให้เร็วมากยิ่งขึ้นเป็น 1 กิ๊กกะไบต์ และตั้งเป้าหมายว่าให้แล้วเสร็จภายในปี 2555 เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาทุกระดับเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ด้าน นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า หากคิดในแง่ความคุ้มทุนแล้ว เมื่อ ศธ.ลงทุนในโครงการดังกล่าวก็จะประหยัดงบประมาณที่จะต้องไปเช่าสัญญาณในแต่ละปี และคืนทุนได้ภายใน 4 ปี โดยในวงเงินดังกล่าวคาดว่าจะครอบคลุมสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด สกอ. โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ในสังกัด สพฐ.ได้ราว 3,000 โรง สถานศึกษาสังกัด สอศ.ประมาณ 415 โรง นำร่องก่อนโดยมีสกอ.เป็นแม่ข่าย ในอนาคตจะพยายามขยายครอบคลุมโรงเรียนทั้งหมด

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในส่วนของ สพฐ. มีงบประมาณที่เป็นงบฯรายจ่ายประจำปีสำหรับจ่ายเป็นค่าเช่าในการเชื่อมโครงข่ายไปยังโรงเรียนต่างๆ ให้กับองค์การโทรศัพท์ฯอยู่แล้วปีละเกือบ 1,000 ล้านบาท หาก สกอ.เข้ามาจัดทำระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้ใยแก้วนำแสงจะทำให้ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะนำงบฯส่วนนี้ของ สพฐ.ไปสมทบได้ แต่ต้องทำให้ครอบคลุมทั้ง 30,000 กว่าโรง ไม่ใช่แค่ 3,000 โรงตามแผนของ สกอ.เท่านั้น เพราะโรงเรียนขนาดใหญ่ของ สพฐ.ทั้ง 3,000 โรงก็มีโครงข่ายที่เชื่อมต่ออยู่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook