ออมสินระดม5หมื่นล้านครึ่งปีหลัง ออกสลากฯรูปแบบใหม่อายุ5ปีขายพ.ย.นี้ เล็งปล่อยดอกเบี้ยต่ำให้กู้ซื้อบ้
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินเปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า ธนาคารมีแนวคิดที่จะพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนระยะยาว และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ สงเคราะห์ชีวิต หรือ Gsb Life โดยเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าแต่ละช่วงอายุ จากปัจจุบันที่ฐานลูกค้าของธนาคารอยู่ในวัยเด็กลงมาและกลุ่มผู้ใหญ่วัยกลางคน
เบื้องต้นอาจกำหนดระยะเวลากรมธรรม์ให้สอดคล้องกับสินเชื่อเคหะ ไม่ว่าจะเป็นระยะ 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง เพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อเคหะสิ้นปี 2552 ให้ขยับเป็น 150,000 ล้านบาทจากปัจจุบันอยู่ที่ 120,000ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้เตรียมศึกษาโปรดักต์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนในระดับชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
ขณะเดียวกันธนาคารอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบและผลตอบแทน ในการออกสลากออมสินรูปแบบใหม่สนองความต้องการของลูกค้า กำหนดอายุ 5 ปี ออกเป็นงวดๆ ละ 10,000 ล้านบาท สามารถลุ้นรางวัลได้ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็นอัตราเท่าตัวจากสลากออมสินปัจจุบันอายุ 3 ปีที่ลงทุน 50 บาท จ่ายดอกเบี้ย 1 บาทและมีรางวัลและสิทธิประโยชน์อีกมาก ทั้งนี้หากเป็นไปได้คาดว่าภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการ โดยครึ่งปีหลังธนาคารยังระดมเงินฝากอีกประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาทจากครึ่งปีแรกทะลุเป้าเป็น 50,000 ล้านบาทจากเป้าที่กำหนดไว้ 35,000 ล้านบาท
ในส่วนของแนวโน้มการขยายสินเชื่อ ต้องให้สอดคล้องกับเงินฝากที่ระดมเข้ามา ซึ่งคาดว่าปีนี้จะปล่อยสินเชื่อทั้งปีได้ตามเป้าหมาย 80,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกปล่อย (ม.ค.-มิ.ย.) สินเชื่อทะลุเป้าที่กำหนดไว้ 30,000 ล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันจากแนวทางการดำเนินงานของธนาคารที่เน้นพัฒนาภูมิภาค ท้องถิ่นและชุมชนให้เข้มแข็ง
ในครึ่งหลังของปีนี้จะเห็นทีมงานของธนาคารออมสินเดินตลาดมากขึ้น เพื่อสานต่อนโยบาย 1สาขา 5ตลาดเพื่อให้สาขาทั้ง 800 สาขาทั่วประเทศช่วยกันขยายฐานอย่างทั่วถึง โดยคาดหวังให้มีลูกค้าเข้ามาประมาณ 400,000-50,000 รายจาก 800 สาขา ด้วยวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100,000บาทต่อราย
ขณะเดียวกันธนาคารจะขยายสินเชื่อ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)สินเชื่อเทศบาลที่ต้องการจำนวนเพียง 800 แห่ง จากทั้งหมด 1,696 แห่ง วงเงินสินเชื่อแห่งละ 50 ล้านบาท หรือรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท สินเชื่อต่อยอดกองทุนหมู่บ้าน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 20,000 กอง วงเงินสินเชื่อต่อยอดอย่างน้อย 1 ล้านบาทต่อกอง คิดดอกเบี้ย 5% จากที่ปล่อยไปแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีกองทุนหมู่บ้านจำนวนกว่า 60,000 แห่งที่โอนเงินผ่านธนาคารออมสิน ส่วนสินเชื่อธนาคารประชาชนมียอดจนถึงเดือนพฤษภาคม 2552 ปล่อยกู้แล้ว 80,000ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้ ธนาคารจะยังรักษาระดับรายได้สินเชื่อจากรายย่อยในสัดส่วน 80% ที่เหลือเป็นสินเชื่อรายใหญ่หรือธุรกิจ โดยตั้งเป้าหารายได้จำนวน 40,000 ล้านบาท จากที่ธนาคารมีรายจ่ายประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่กำไรในปี 2552 คาดว่าจะทำได้สูงกว่า 13,500 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่มีกำไร 7,300 ล้านบาท
ปัจจุบันธนาคารมีฐานสินเชื่อประมาณ 570,000ล้านบาท และเงินฝากรวมประมาณ 750,000 ล้านบาท พอร์ตเงินลงทุนอีกประมาณ 200,000 ล้านบาทเศษ นอกจากนี้มีหนี้ตามคำพิพากษาที่ค้างประมูลกับกรมบังคับคดีประมาณ 8,000 ล้านบาท จากหนี้เอ็นพีแอลที่มีอยู่ 3.51%หรือมูลหนี้ 20,000 ล้านบาทคาดว่าสิ้นปีหนี้เอ็นพีแอลจะลดเหลือ 3%
