เด็กสาธิตมมส.ติดหวัดดับหลังดูทงบังชินกิ

เด็กสาธิตมมส.ติดหวัดดับหลังดูทงบังชินกิ

เด็กสาธิตมมส.ติดหวัดดับหลังดูทงบังชินกิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผยเด็กนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ป่วยหลายโรค และก่อนตายไปดูคอนเสริต์ทงบังชินกิ และสอบวัดผล ที่กรุงเทพฯ แล้วติดเชื้อกลับมาเสียชีวิต นายกฯ กำชับ สธ.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไขหวัดรายวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (สาธิต มมส.) ได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ หลังจากที่มีเด็กนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.52 จากนั้นเสียชีวิตในวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยทางโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้สั่งปิดเรียนไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 52 มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่และได้ตรวจคัดกรองเด็กนักเรียน โดยขณะนี้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังจำนวน 35 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 10 รายที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ได้มีการผลตรวจยืนยันจากทางห้องปฏิบัติการแล้วว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในจังหวัดมหาสารคามแล้วจำนวน 7 ราย

ในวันนี้ได้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับโรงพยาบาลกันทรวิชัย คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ลงพื้นที่ร่วมประชุมครู เจ้าหน้าที่และภารโรง ให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก่อนรณรงค์ทำความสะอาดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมใช้พื้นที่เป็นสนามสอบ Gattpat ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ซึ่งจะทำการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ และให้นักเรียนและผู้ปกครองที่มาสอบมั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค

ด้าน ผศ.จินตนา จิตต์จำนง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตชื่อนางสาวลักษมน สัจจพงษ์ เรียนอยู่ชั้น ม.6/4 อายุ 19 ปี ได้เดินทางไปสอบความถนัดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เมืองทองธานี จากนั้นได้ไปดูคอนเสริต์ดงบังชินกิ ก่อนที่จะติดเชื้อกลับมาที่บ้าน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งนางสาวลักษมน มีโรคประจำตัวมาก ทั้งเบาหวาน ภูมิแพ้ โรคหนังแข็ง และยังมีภาวะโรคอ้วน น้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม ต้องเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลทุกเดือน ซึ่งพอได้รับเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 มาแล้วมีอาการแทรกซ้อนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนฯ ได้มีการรณรงค์ทำความสะอาดไปแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 มีการระดมเจ้าหน้าที่ ครู และภารโรง ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกันทรวิชัย และแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาประชุมให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และทำความสะอาดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ผ้าชุบน้ำผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดกระจก โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู เพื่อฆ่าเชื้อโรค และเพื่อเตรียมใช้พื้นที่เป็นสนามสอบ Gattpat ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ซึ่งจะทำการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ และให้นักเรียนและผู้ปกครองที่มาสอบมั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค โดยทางโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2552

ด้าน ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงหยุดยาว 5 วัน มีนิสิต เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ต้องมีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังคณะต่าง ๆ หากพบการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้รีบรายงานมายังมหาวิทยาลัยฯ เพื่อที่จะได้ดำเนินการประกาศงดการเรียนการสอน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ต่อไป

ขณะที่รายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามแจ้งว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยเฝ้าระวังโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบเชื้อชนิด A (H1N1) จำนวน 7 ราย

นายกฯกำชับสธ.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อหวัด2009รายวัน

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ครม.นายกรัฐมนตรีได้สอบถามกระทรวงสาธารณสุขถึงตัวเลขที่แท้จริง ของประชาชนที่ติดไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ โดยกระทรวงสาธารณะสุขยืนยันว่าได้รายงานตัวเลขที่แท้จริงและได้มาตรฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อ ควรมีการประกาศตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการรายงานสถานการณ์ระบาดของไขหวัดสายพันธ์ใหม่ขององค์การอนามัยโลกทุกวัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับ ครม.ทุกคนว่า ประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดไข้หวัดดังกล่าวนี้ไปจนถึงสิ้นปี จึงอยากให้ครม.ทุกคน ได้ทำความเข้าใจกับประชนชนได้ป้องกันตัวเอง

ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยพบตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนมากนั้น องค์การอนามัยโลกยังชื่นชมมาตรการในการตรวจรักษาของประเทศไทย ที่ได้มาตรฐาน จนทำให้พบผู้ติดเชื้อและสามารถรักษาได้ทัน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น อย่าไปตกใจกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพราะอัตราการเสียชีวิตในประเทศไทยมีน้อยมากเพียง 0.4 % เท่านั้น

นายวัชระ กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.ที่ประชุมยังได้มีการหารือว่า มีกฎหมายฉบับใดบ้างที่จะสามารถปิดร้านเกมหรือร้านอินเตอร์เน็ตได้ แต่ปรากฏว่า ไม่มีข้อกฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงได้ขอความร่วมมือให้ ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ตเหล่านี้ รักษาความสะอาดอยู่เป็นประจำ เพราะขณะนี้ กลุ่มเสียงในการติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่เป็นกลุ่มนักเรียน และวัยรุ่นเป็นหลัก

ส่วนโรงเรียนที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ที่ประชุมครม.เห็นว่า ควรให้เป็นอำนาจของผู้บริหารโรงเรียน ตัดสินใจว่าจะปิดหรือไม่

ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมครม. นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมครม.ว่า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขทำงานอย่างเข้มข้นมากขึ้น พร้อมให้ทุกกระทรวงให้ความร่วมมือในการป้องกัน เนื่องจากไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นโรคที่ติดได้ง่ายจากการหายใจ หากผู้ติดเชื้อจามคนที่อยู่ในระยะห่าง 1-2 เมตรก็มีโอกาสติดได้

อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวอันตรายน้อยกว่าโรคซาร์สและไข้หวัดนก เนื่องจากมีอัตราการป่วยและเสียชีวิตต่ำกว่า โดยไข้หวัดใหญ่ 2009 มีอัตราผู้เสียชีวิตไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ โดยยอดผู้ติดเชื้อของไทยขณะนี้อยู่ที่ 3 พันกว่าราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากการสุ่มตรวจในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นคน จึงอยากขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ว่า ใครที่สงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อให้พักอยู่ที่บ้านอย่าออกมาข้างนอก และให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกเช่น ผับ บาร์ ร้านเกมส์ ฯลฯ

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อประมาณ 9.9 หมื่นราย จาก 135 ประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง เพราะเป็นตัวเลขทีได้จากห้องแล็ปเท่านั้น แต่ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ เช่นที่สหรัฐอเมริกาต้อง 48 โดยขณะนี้มียอดผู้ติดเชื่อประมาณ 4 หมื่นราย ตัวเลขที่แท้จริงอาจจะอยู่ประมาณ 2 ล้านคน สำหรับประเทศไทย ต้องเอาจำนวนผู้ป่วยในขณะนี้ คูณด้วย 62 ตัวเลขที่ได้อาจจะอยู่ที่ประมาณ 2 -3 หมื่นราย

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องตกใจ แม้อัตราการแพร่ระบาดจะรวดเร็ว แต่อัตราการตายไม่ถึง 1 % และโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นในรอบ 40 ปี ขณะเดียวกันขอความร่วมมือประชาชนให้รักษาตัวเองอยู่อยู่เสมอ ใครมีอาการก็รีบไปรักษา และพักผ่อน นอนอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาด

สธ.ยืนยันผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดพันธ์ใหม่ 14 ราย

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย กระทรวงได้ยืนยัน ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด2009เพิ่มอีก 3 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสะสม 14 ราย โดยรายแรกเป็นชาย อายุ 52 ปี รักษาตัวที่รพ.ตำรวจ เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เข้ารักษาที่ รพ. วันที่ 29 มิ.ย. และเสียชีวิตวันที่ 8 ก.ค.ด้วยอาการไข้หวัด แต่พบ ภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบเสียชีวิตด้วยอาการไตวาย

รายที่ 2 ชายอายุ 45 ปี เข้ารับรักษาเมื่อวันที่ 6 ก.ค. โดยผู้ป่วยรายนี้มีอาการไข้มาแล้ว 5วันก่อนเข้ารพ. ซึ่งเมื่อถูกนำตัวส่งเข้า รพ.เสียชีวิตในวันเดียวกัน ตรวจพบมีภาวะปอดบวม ไม่ได้รับรายงานว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ส่วนราย ที่ 3 เป็นผู้หญิงอายุ 17 ปี เข้ารักษาตัวที่ รพ. ศรีนครินทร์ จ. ขอนแก่น โดย ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยประจำของ รพ. ศรีนคริทร์ รักษาด้วยโรคผิวหนังแข็งมาตลอดแต่เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผลตรวงจยืนยันมีเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่

ร้านเน็ตกรุงเก่าตื่นตัวล้างเครื่องมือแจกผ้ากันเชื้อ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 กค ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจบรรดาร้านอินเตอร์เน็ตในเขตเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พบว่าที่ ร้านน้องเพชรอินเตอร์เน็ต ริมถนนนเรศวร ในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นร้านให้บริการอินเตอร์เน็ทและเกมส์ เป็นร้านหนึ่งในจำนวนหลายร้านที่เริ่มตื่นตัวมีการทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ร่วมกัน เน้นเม้าท์และแป้มสำหรับควบคุมคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงสิ่งของและบริเวณสถานที่ภายในร้าน เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ 2009

นายณัฐพงษ์ แพร่ชาย เจ้าของร้านเปิดเผยว่า ตนได้ทำความสะอาดและใส่น้ำยาฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ พร้อมทั้งจัดเตรียมหน้ากากป้องกันไว้แจกสำหรับคนที่ไอ หรือที่ต้องการจะใส่ ซึ่งเชื่อว่าได้ทำตามคำแนะนำแล้ว ส่วนเรื่องที่จะปิดร้านอินเตอร์เน็ทนั้นไม่เห็นด้วย เพราะหลายร้านมีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวัน และเห็นว่ามีสถานบริการอีกมากมายที่มีผู้คนใช้บริการ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 15.00 น.วันที่ 9 กค นพ.ธานินทร์ สิวราภรณ์สกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยว่าจากการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ มีความรุนแรงมากขึ้น และมีโอกาสที่จะแพร่กระจายสู่พื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวกในการให้ความรวดเร็ว จึงได้เปิดทางด่วนเพื่อคัดกรองผู้ที่ต้องสงสัยว่ามีโอกาสสุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 ที่บริเวณชั้นล่าง ซึ่งแยกจากผู้ป่วยทั่วไป โดยหากผู้ป่วยมีอาการเป็นไข้หรือสงสัยว่าจะเป็นหวัด ก็ให้ใช้บริเวณที่จัดไว้ให้ ซึ่งจะมีการตรวจอย่างละเอียดและรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดได้ทางหนึ่ง

สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ทำการตรวจสอบและยืนยันแล้วติดเชื้อจำนวน 5 ราย แต่มีเพียงรายเดียวที่ยังต้องดูแลใกล้ชิดเนื่องจากมีอาการรุนแรง ส่วนรายอื่นๆมีไข้เท่านั้น เชื่อว่าจะสามารถรักษาได้

ร้านเกมส์-ร.ร.กวดวิชาพร้อมใจปิดบริการ

เมื่อเวลา 15.10 น.วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ผู้อำนวยการ รพ.หลังสวน และ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (ผช.สสจ.) ชุมพร เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จังหวัดชุมพร ได้สรุปตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่ จ.ชุมพรว่า มีผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 20 ราย เพิ่มขึ้นจากวันที่ 8 กรกฎาคม 2552 ที่มีเพียง 10 รายเป็น 20 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเขต อ.เมืองชุมพร อ.ปะทิว และ อ.สวี
ปัจจุบันมีผู้ป่วย 5 รายที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนอีก 15 ราย อาการดีขึ้นจนแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว

นพ.ยงยศ กล่าวว่า ส่วนการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนั้น สสจ.ชุมพร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเข้าไปตรวจสอบโรงเรียน 2 โรงเรียนซึ่งพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อคือ โรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา และ โรงเรียนอนุบาลชุมพร จากนั้นได้ร่วมกันจัดกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อทำความสะอาดโรงเรียนครั้งใหญ่ไปแล้ว และยังได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนกวดวิชาและร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์ออนไลน์ทุกแห่งในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ในการปิดการเรียนการสอนและปิดการให้บริการ เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

" ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนตามปกติของโรงเรียนหลายแห่ง ทาง สสจ.ชุมพร ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทั้ง 8 อำเภอ เข้าไปเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และแนวทางในการป้องกันตนเองแก่นักเรียนทุกโรงเรียนทั่วทั้งจังหวัดหลังเคารพธงชาติในช่วงเช้าด้วย" นพ.ยงยศ กล่าว

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook