สสส.พบละครไทย 80%รุนแรงมีแต่เรื่องเพศ

สสส.พบละครไทย 80%รุนแรงมีแต่เรื่องเพศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สสส.พบ ละครไทย 80% รุนแรง มีแต่เรื่องเพศ ภาษาหยาบคาย เผยมีเนื้อหา 10 สูตรยอดนิยมวนเวียนไม่เคยเปลี่ยน ประเภทเข้าใจผิดแก้แค้น ทาสสวาทแล้วเราก็รักกัน พ่อแม่เธอทำชั้นเจ็บ ต้องเจ็บกว่า 10 เท่า ผู้ปกครองวอนจัดตั้งองค์กรประเมินโทรทัศน์ และ องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคด้านสื่อ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม และเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ จัดเสวนา ความรุนแรงใน ละคร โทรทัศน์ทางฟรีทีวี โดย นายธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อฯ กล่าวว่า จากการศึกษา ความรุนแรงใน ละคร โทรทัศน์ทางฟรีทีวี พบในรอบปี 2551 มี ละคร แพร่ภาพ 113 เรื่อง โดย ละคร ไทย 80% อยู่ในเรตติ้ง น.13 และ18 คือ มีความรุนแรง เพศ ภาษาหยาบคาย และมี ละคร เรต ท. เพียง 20% เท่านั้น ละคร ส่วนใหญ่ 110 เรื่อง มีปมขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรง และบางเรื่องมีมากกว่า 1 รูปแบบ โดยเฉพาะ ละคร ของช่องหนึ่ง จะมีปมความขัดแย้งใน ละคร ทุกเรื่อง ปมขัดแย้งเรื่องความรักมากที่สุด 36% โดยชิงรักหักสวาทนำไปสู่ความรุนแรง เช่น ฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย ดูถูก กักขัง และข่มขืน ทั้งนี้ยังพบการสร้างปมอาฆาต แก้แค้น อิจฉาริษยา มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การวางแผนฆ่า ซึ่งเป็นการทำความรุนแรงทั้งต่อร่างกาย จิตใจ เพศ ด้วยวิธีต่างๆ ละคร 113 เรื่อง มี 10 เรื่อง ที่มีแก่นของเรื่องที่ดี ที่น่าเสียดายคือแก่นเรื่องดี แต่วิธีนำเสนอใช้ความรุนแรงมากไป โดยมี 10 สูตรยอดนิยมวนเวียนไม่เคยเปลี่ยน เช่น เข้าใจผิดแก้แค้น ทาสสวาท แล้วเราก็รักกัน พ่อแม่ เธอทำชั้นเจ็บ ต้องเจ็บกว่า 10 เท่า ทั้งนี้ ละคร ที่มีความรุนแรงจะออกอากาศมากที่สุดช่วงหลังข่าว 20.00 " 24.00 น. แต่ ละคร ช่วง 16.00 " 20.00 น. หรือ ละคร ก่อนข่าวค่ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาครอบครัว ก็การกระทำความรุนแรงที่ใกล้เคียงกัน และที่น่าข้อสังเกตคือ ละคร ช่วง 12.00 " 16.00 น.หรือ ละคร กลางวัน ที่เป็น ละคร ที่นำกลับมาออกอากาศซ้ำ ซึ่งมีการทำความรุนแรงทางตรงนายธาม กล่าว นางอัญญาอร พานิชพึ่งรัถ เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ กล่าวว่า การศึกษา การประเมินการจัดระดับความเหมาะสมของ ละคร โทรทัศน์ ที่ได้ประเมิน ละคร ทางโทรทัศน์ทั้งก่อนและหลังข่าว เวลา 16.00-22.30 น. วันที่ 9 มี.ค.-22 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามคู่มือการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์ ของกรมประชาสัมพันธ์ จากทั้งหมด 20 รายการ โดยเฉลี่ยทุกสถานีโทรทัศน์พบว่า มีรายการที่ใช้เรต ท.อยู่ที่ 30% เรต น.13 อยู่ที่ 40% และเรต น.18 อยู่ที่ 30% ซึ่งช่วงดังกล่าวไม่พบเรต ด.เลย จึงอยากจัดตั้งองค์กรที่มีหน้าที่ประเมินรายการโทรทัศน์อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม และมีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคด้านสื่อด้วย นพ.สุริยเดว ทรีปาตี หัวหน้าคลินิกวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ผลกระทบจากสื่อไปถึงเยาวชน จากพฤติกรรมต่างๆที่เด็กแสดงออกมาทั้งความก้าวร้าว การแสดงออกเรื่องเพศ เห็นได้ชัดจากการท้องก่อนวัยอันควร การเป็นแม่ในวัยรุ่น ซึ่งมีผลการวิจัยว่า หากมีฉากความรุนแรง เพศ 4 ฉากต่อชั่วโมงจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมได้อย่างชัดเจน จึงควรกำหนดฉากความรุนแรงโดยจัดให้อยู่ในเรต ฉ. และใช้มติครม.ในการกำหนดช่วงเวลาในการออกอากาศที่เหมาะสมกับเรตติ้ง น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า แม้จะมีการทำงานอย่างต่อเนื่องเรื่องการจัดระบบเรตติ้ง แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ทำให้จำเป็นต้องหากฎหมายอื่นที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น พ.ร.บ.การศึกษา พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่จะนำมาคุ้มครองเด็กและเยาวชน นอกจาก ละคร แล้วสื่ออินเตอร์เน็ต ก็มีเนื้อหาความรุนแรง เรื่องเพศที่รุนแรงกว่าเพราะไม่มีการควบคุม นายต่อพงศ์ เสลานนท์ อนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการยกร่างกฎหมายประกาศเพื่อควบคุมสื่อต่างๆ เช่น การกำหนดเวลาออกอากาศ โดยจำเป็นต้องนำข้อมูล การศึกษาวิเคราะห์ต่างๆ มานำเสนอ เพื่อให้การแก้ปัญหาเกิดขึ้นร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา เกิดเรื่องช่องว่างทางกฎหมายเมื่อกฎหมายเดิมถูกยกเลิกไป ประกอบกับสื่อปัจจุบันถูกนำไปใช้ในการบริโภค มากกว่าให้ความรู้ ทำให้เกิดผลต่อสังคม เช่น การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ความเห็นแก่ตัว ขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ติ๊กสสละโสดแล้วกับพีชนางฟ้าไฮโซ แน็ค ชนมือ1พ้ง ชนมือ 177 โลกผลประกบคู่เดวิสคัพไทย-คาซัค ขอรถเมล์ดีๆ ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สู่สายตาชาวต่างชาติ ปลุกชาวสวนมะพร้าว ผลิตน้ำตาลแม่กลอง สู้ของปลอมในตลาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook