หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นรอบ5เดือน

หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นรอบ5เดือน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยวันที่ 9 กรกฎาคมว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 65.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่อยู่ในระดับ 64.3 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 64.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.4

ดัชนีฯ ในเดือนมิถุนายนทุกรายการปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายกู้เงินทั้งสองแบบ

ทั้งนี้ ดัชนีฯ ทั้ง 3 ตัวปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยมีปัจจัยบวก คือ สภาผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายกู้เงิน 8 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 1 สนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่(SP2)ส่งผลจิตวิทยาเชิงบวกกับผู้บริโภค และการแข็งค่าของเงินบาทสะท้อนให้เห็นว่ายังมีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในประเทศ

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น, ผู้บริโภคกังวลเสถียรภาพทางการเมือง, การส่งออกในเดือน พ.ค.ติดลบถึง 26.5% , ประชาชนยังกังวลค่าครองชีพและราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ถึงแม้ดัชนีฯ จะปรับตัวดีขึ้นในรอบ 5 เดือน แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าดัชนีฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ยังมีอยู่ และปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงได้หากปัจจัยลบรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนั้น ยังคาดว่าการบริโภคภายในประเทศในขณะนี้จนถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะขยายตัวได้ไม่มากนัก เนื่องจากดัชนีฯ ทุกรายการยังทรงตัวต่ำกว่าระดับปกติที่ 100 แสดงว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจโลก และปัญหาการว่างงาน ซึ่งส่งผลทางจิตวิทยาเชิงลบ ดังนั้น รัฐบาลควรเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook