พ่อรับศพนักศึกษากระโดดสะพานภูมิพล เผยลูกชายป่วยซึมเศร้า

พ่อรับศพนักศึกษากระโดดสะพานภูมิพล เผยลูกชายป่วยซึมเศร้า

พ่อรับศพนักศึกษากระโดดสะพานภูมิพล เผยลูกชายป่วยซึมเศร้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ วานนี้ (17 ต.ค.) นายอนันนต์ หรือ อ๊อฟ อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กระโดดสะพานภูมิพล ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ที่เกิดเหตุพบรถจยย. ยี่ห้อสกู๊ปปี้ ไอ สีฟ้าขาว จอดอยู่ที่กลางสะพานภูมิพล 1 ซึ่งล่าสุดวันนี้ (18 ต.ค.) พบศพแล้ว

>> แม่ใจสลาย พบแล้วศพนักศึกษาหนุ่มกระโดดสะพานภูมิพล

นายอนุตร์ พ่อของนายอนันต์ หรือ อ๊อฟ นักศึกษากระโดดสะพานภูมิพลเสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวอีจัน หลังพบศพลูกชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า อ๊อฟคนเป็นมีโลกส่วนตัวสูงตั้งแต่เด็ก จนเริ่มมาพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อตอนที่อ๊อฟกำลังเรียนอยู่ปี 3 มีความเครียดสะสมจากการเรียน และอ๊อฟพูดอยู่เสมอว่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อและแม่ให้ได้ เพื่อดูแลน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ ป.5

ความเครียดกำเริบมากขึ้นเมื่อทำงานส่งอาจารย์ไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ พ่อและแม่ของอ๊อฟจึงพาไปพบหมอที่โรงพยาบาลราชวิถี หมอบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า หมอให้คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าว่าไม่ควรให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว จึงให้อ๊อฟย้ายออกจากหอพักและมาอยู่ที่บ้านเช่าด้วยกันในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

ที่ผ่านมาพ่อและแม่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะสังเกตจากยาที่หมอให้มาเริ่มมีปริมาณมากขึ้นกว่าเมื่อ 1 ปีที่แล้ว

พ่อน้องอ๊อฟ บอกกับทีมข่าวจันต่อว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ชวนลูกชายกลับบ้านจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยกัน เพื่อไปทำบุวันออกพรรษา เพราะไม่อยากให้อ๊อฟอยู่บ้านคนเดียว แต่ลูกไปด้วยไม่ได้เพราะติดเรียนและทำงาน

ก่อนเกิดเหตุ 1 วันอ๊อฟโทรมาบอกแม่ให้โอนเงินไปให้ 1,000 บาท และบอกว่าทำงานส่งอาจารย์ไม่ทัน คาดว่าความเครียดที่สะสมอาจทำให้อ๊อฟคิดฆ่าตัวตาย จนมากระโดดสะพานภูมิพล

ในวันพรุ่งนี้ครอบครัวจะเดินทางไปรับศพจากสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และจะนำศพของอ๊อฟกลับไปทำพิธีตามศาสนาที่บ้านเกิดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งทางครอบครัวได้ติดตามข่าวสารในโลกโซเชียล พบว่ามีคนจำนวนมากให้กำลังใจกับครอบครัว

พ่อของอ๊อฟพูดทิ้งท้ายกับเราว่า ผมเสียลูกชายคนเดียวไปแล้ว แต่ยังเหลือแก้วตาดวงใจอีก 1 ดวง นั่นคือน้องสาวของอ๊อฟ เราจะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้กับครอบครัวอีกครั้ง วันนี้เราได้พบลูกของเราแล้ว เราจะพาเค้ากลับบ้านเกิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook