"พุทธะอิสระ" เปิดใจประกาศชัด ไม่ได้อาบัติร้ายแรง ครองไตรจีวรใหม่ได้

อดีตพระพุทธะอิสระ ย้ำชัดสามารถครองไตรจีวรใหม่ได้ ถาม ‘วิษณุ’ใช้อะไรมองกรณีขาดความเป็นพระ ปูดอดีตพระต้องโทษคดีเงินทอนวัด กลับมาห่มผ้าเหลืองกันแล้ว

ความคืบหน้ากรณี อดีตพระพุทธะอิสระ หรือ อดีตพระสุวิทย์ ธีรธัมโม ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) และอดีตแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ เตรียมกลับมาครองผ้าไตรจีวรในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเรื่องนี้ว่า จะกลับมาบวชอีกครั้งในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ สำหรับเหตุผลในการกลับมาครองผ้ากาสาวพักตร์อีกครั้งนั้น เพราะว่า สิ้นสุดการคุมประพฤติ และได้รับการประกันตัวจากศาล ในคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะชุมนุม และเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9

และไมได้ละเมิดต่ออาบัติร้ายแรงจนทำให้ขาดความเป็นพระ จึงไม่ยินดีที่จะกล่าวคำลาสิกขา เพราะตามหลักพระธรรมวินัย การที่พระภิกษุสงฆ์จะพ้นจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์มีเหตุอยู่แค่ 3 ประการ คือ มรณภาพ(ตาย), อาบัติปาราชิก เรียกว่าอาบัติ ร้ายแรง ไม่สามารถกลับเข้ามาเป็นพระได้อีกตลอดชีวิต เช่น ฆ่าคน อวดอุตริมนุสธรรม อันไม่มีอยู่จริง และเสพเมถุน

อย่างไรก็ดี อดีตพระพุทธะอิสระ กล่าวต่อไปอีกว่า ในวันที่ 27 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมคณะสงฆ์ ภิกษุที่ชอบพอกันจากที่ต่างๆ รวมทั้งกรรมการวัดและญาติธรรม เพื่อขอมติว่า จะให้อดีตพระพุทธะอิสระ กลับมาครองไตรจีวรอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพ้นจากความเป็นพระแล้ว เพราะต้องคดี อดีตพระพุทธะอิสระ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าคุณวิษณุใช้อะไรมอง แต่ถ้าใช้หลักธรรมวินัยมองก็ไม่น่าใช่ แต่หลักกฎหมายบ้านเมืองไม่สอดคล้องกับธรรมวินัยจึงเกิดกรณีแบบนี้ ถ้ามหาเถระสมาคมออกมาชี้ให้ชัดก็จะดีมาก

ก่อนหน้านั้น อดีตพระพุทธะอิสระ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ อินไซต์ไทยแลนด์ ทางช่อง MCOT HD 30 ถึงการกลับมาครองไตรจีวรว่า ส่วนหนึ่งเพราะคุณแม่ที่สูงอายุ และเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยากเห็นลูกชายกลับมาเป็นพระอีกครั้ง และได้เปิดประเด็นต่อไปว่า การที่จะกลับมาครองไตรจีวรอีกครั้งนั้น เพราะเห็นอดีตพระที่ต้องโทษคดีเงินทอนวัดนั้น ต่างกลับมาห่มผ้าเหลืองกันแล้ว แต่เวลาไปขึ้นศาลก็จะเปลี่ยนเป็นผ้าขาวไป เมื่อเห็นตัวอย่าง จึงคิดว่าตนควรถึงเวลากลับมาครองผ้าไตรจีวรอีกครั้ง

>> "พุทธะอิสระ" โพสต์แจงกลับมาครองผ้าเหลือง ยันไม่เคยกล่าวลาสิกขา-ไม่ได้อาบัติร้ายแรง