บันทึกลับหน่วยข่าวรับมือสารพัดม็อบบุกรับมาร์ค เตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หวั่น2ฝ่ายปะทะกัน หมายเหตุ

บันทึกลับหน่วยข่าวรับมือสารพัดม็อบบุกรับมาร์ค เตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หวั่น2ฝ่ายปะทะกัน หมายเหตุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
... ในการชุมนุม ไม่ให้นำมวลชนไปชุมนุมบริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อป้องกันการปะทะกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ควบคุมพื้นที่ไม่ให้ทั้งสองกลุ่มเข้าใกล้กัน และถ้ามีเหตุปะทะกันรุนแรง จะมีชุดปราบจลาจลเคลื่อนที่เร็ว จากกองร้อย อส.เข้าระงับเหตุทันที ... หน่วยงานด้านการข่าวและหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ประเมินสถานการณ์ด้านมวลชน พร้อมจัดทำรายงาน ลับเกี่ยวกับการจัดตั้งมวลชนเตรียมเคลื่อนไหวที่ จ.บุรีรัมย์ และอาจมีผลต่อการปฏิบัติภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 กรกฎาคม ให้นายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องรับทราบ

----------------------------------

จากการตรวจสอบข่าวสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารกลุ่มมวลชนที่จะเคลื่อนไหวกรณีนายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2552 ดังนี้

1.1 กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ อ.ปะคำ อ.นางรอง อ.หนองกี่ อ.โนนสุวรรณ และ อ.โนนดินแดง มีนายสุพร อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน), นายวุฒิพงษ์ เหลืองอุดมชัย, นายแสวง เพ็งศรี และนายสุรศักดิ์ เพชรสว่าง เป็นแกนนำ มีมวลชนประมาณ 1,000 คน โดยกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมและเปิดตัวในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2552 โดยจัดกิจกรรม หัวใจรักประชาธิปไตย ณ บริเวณศาลาประชาคมบ้านไทยเจริญ หมู่ 1 ต.ไทยเจริญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ และเปิดตัวนายสากล ศรีวันทา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนี้ แกนนำได้เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ให้เข้าร่วมอุดมการณ์กับกลุ่มคนเสื้อแดง

1.2 กลุ่มมวลชนจากนอกพื้นที่ แบ่งเป็น

-กลุ่ม ช้างแดงสุรินทร์ จากพื้นที่ อ.รัตนบุรี และ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ มีนายพรเทพ พูนศรีธนากูล และนายชาญชัย สิงห์นุช เป็นแกนนำ โดยมีอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยเดิมให้การสนับสนุน มีมวลชนประมาณ 300 คน ความเคลื่อนไหวสำคัญที่ผ่านมา เคยชุมนุมต่อต้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในการเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดอาคารเรียนเทศบาลท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2552

-กลุ่ม หนองน้ำใสรักประชาธิปไตย (เครือข่ายกลุ่ม นปช. จ.นครราชสีมา) นำโดยนายเขื่อนเพชร โพนรัมย์ จะนำมวลชนประมาณ 20 คน ไปชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ และ อ.ลำปลายมาศ พบอีกว่า จะมีการประสานงานไปยังกลุ่ม นปช.จากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.ยโสธร จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น และได้จัดเตรียมไข่ต้มไปแจกจ่ายสมาชิกเพื่อใช้รับประทานและข่มขู่นายกรัฐมนตรีด้วย

-กลุ่มคนเสื้อแดงเครือข่าย ชมรมคนรักอุดร นำโดยนายชวัญชัย สาราคำ (ไพรพนา) จากพื้นที่ จ.อุดรธานี ได้ประกาศจะเป็นแกนนำมวลชนเสื้อแดงไปต่อต้านนายกรัฐมนตรี จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวล่าสุด พบว่า กำลังรอการตัดสินใจจากนายขวัญชัย ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร และจะนำมวลชนเดินทางไปเคลื่อนไหวจำนวนเท่าใด

-กลุ่ม นปช.ร้อยเอ็ด (กลุ่มร้อยเอ็ด 24) นำโดยนายวรวิทย์ ตั้งกิจเจริญพงษ์ จะนำมวลชนจากเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.ธวัชบุรี จำนวนประมาณ 100 คน ไปชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทางไว้แล้ว 2 คัน

-กลุ่มคนเสื้อแดง จ.ศรีสะเกษ นำโดย นางดวงใจ จำปาพันธุ์ ผู้ใกล้ชิด ส.ส.ในพื้นที่ จะนำมวลชนจากพื้นที่ อ.ราษีไศล อ.เมืองศรีสะเกษ อ.วังหิน และ อ.ขุนหาญ จำนวนประมาณ 150 คน เดินทางไปชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเตรียมเช่ารถบัสปรับอากาศไว้แล้ว 2 คัน

2.1 กลุ่มเรียกร้องที่ทำกิน ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ มีนายสมนึก ปัดชา และนายสุรินทร์ ท่าซ้าย เป็นแกนนำ มีมวลชนประมาณ 1,000 คน (กว่า 4,000) ครัวเรือน เคลื่อนไหวเรียกร้องขอให้ทางราชการนำพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.ดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 8 แปลง เนื้อที่ 8,415 ไร่ ที่หมดอายุการอนุญาตเข้าทำประโยชน์ของบริษัทปลูกป่าเอกชนมาจัดสรรให้ราษฎรทำกิน

2.2 กลุ่มกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ / สภาเกษตรกรไทย ประมาณ 20 คน มีนางวาสนา ชาลี เป็นแกนนำ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้สิน (ยังไม่กำหนดสถานที่)

2.3 กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 5-10 คน มีนายอัครวัฒน์ กิติพงษ์ภากร เป็นแกนนำ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหากรณีเพลี้ยทำลายมันสำปะหลัง และโครงการสนับสนุนไฟฟ้าในแปลงการเกษตร (ยังไม่กำหนดสถานที่)

2.4 กลุ่มปัญหาที่ทำกินในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มราษฎร ต.นางรอง ประมาณ 500 คน

2.5 กลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินทำกินภาคอีสาน จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 120 คน มีนายวันชัย ชะอ้อนศรี และนายไพฑูรย์ สร้อยสด เป็นแกนนำ เรียกร้องให้ทางราชการออกโฉนดชุมชนในที่ดินบริษัทเอกชนที่หมดสัญญาสัมปทานปลูกป่าในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และขอความเป็นธรรมกรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอนุรักษ์ฯ

อนึ่ง ประเมินว่า หากทางจังหวัดบุรีรัมย์มารับหนังสือหรือเจรจา คาดว่ากลุ่มเหล่านี้จะสลายการชุมนุม

---------------

1.จ.บุรีรัมย์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและตำรวจ ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด และจัดเตรียมกำลังพลเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กำลังทหาร รวมจำนวนประมาณ 3,000 นาย และมีกำลังจากสมาชิก อส. จำนวน 300 นาย สมาชิก อปพร.จ.บุรีรัมย์ จำนวน 50 นาย โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็วจากกองร้อย อส.จังหวัด และหน่วยพยาบาล หน่วยกู้ภัย จากโรงพยาบาล จ.บุรีรัมย์ คอยให้การช่วยเหลือในกรณีมีเหตุรุนแรง จะตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเข้มงวดทุกอำเภอ รวมกำลังปฏิบัติการในภารกิจทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 4,000 นาย

2.จ.บุรีรัมย์และ ส.ส.ในพื้นที่ ได้พยายามทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มมวลชนจัดตั้งของฝ่ายการเมืองแล้วว่า ในการชุมนุมไม่ให้นำมวลชนไปชุมนุมบริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อป้องกันการปะทะกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ควบคุมพื้นที่ไม่ให้ทั้งสองกลุ่มเข้าใกล้กัน และถ้ามีเหตุปะทะกันรุนแรงจะมีชุดปราบจลาจลเคลื่อนที่เร็วจากกองร้อย อส.เข้าระงับเหตุทันที

3.กรณีกลุ่มมวลชนอื่นๆ เช่น กลุ่มที่ดินทำกิน ฯลฯ จะไปยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีนั้น จังหวัดได้ประสานให้ทุกพื้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด หากพบความเคลื่อนไหวให้รายงานทันที จากนั้นจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจาและรับหนังสือข้อเรียกร้องไว้ โดยจะไม่ให้นำไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจอย่างเด็ดขาด

4.การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่และเป็นงานแรกสำหรับฝ่ายการเมืองที่เป็นเจ้าของพื้นที่ (นายเนวิน ชิดชอบ) ที่จะต้องต้อนรับและป้องกันไม่ให้มีเหตุชุมนุมต่อต้านรุนแรงใดๆ จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการชุมนุมอย่างเข้มงวด และ ส.ส.ในพื้นที่ได้ขอความร่วมมือทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงแล้ว จึงเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดชุมนุมต่อต้านรุนแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook