เมียเล่านาที ผัวดิ้นตาย ซดยาดองกว่า 5 กั๊ก ยันไม่ผสมคางคก หมอลั่นถึงรอดก็มีสิทธิ์ตาบอด

เมียเล่านาที ผัวดิ้นตาย ซดยาดองกว่า 5 กั๊ก ยันไม่ผสมคางคก หมอลั่นถึงรอดก็มีสิทธิ์ตาบอด

เมียเล่านาที ผัวดิ้นตาย ซดยาดองกว่า 5 กั๊ก ยันไม่ผสมคางคก หมอลั่นถึงรอดก็มีสิทธิ์ตาบอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีมีชาวบ้าน 13 คน มีอาการแน่นหน้าอก อาเจียน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งต่อมาทราบว่ามีอาการสาหัส 5 คน และเสียชีวิต 2 คน คือ "นางจู" อายุ 62 ปี เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา และ "นายประหยัด พันธุ์ขาว" อายุ 37 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้า

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหากผู้ป่วยมีอาการสายตาพล่ามัว ผู้ป่วยมีสิทธิ์ตาบอดตลอดชีวิตเนื่องจากสารพิษได้เข้าไปทำลายประสาทกระจกตาแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งหมดซดยาดองสูตรใหม่ผสมคางคกจากร้าน "นัท" จนทำให้เกิดอาการดังกล่าว

>> ยาดองสูตรใหม่ทำพิษ ลูกค้าซดแล้วกระอักเลือด เจ็บระนาว-ตาย 1 ศพ

ล่าสุดรายการโหนกระแสวันนี้ (22 ต.ค.) โดย "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "สุดารัตน์" ภรรยา "ประหยัด" ผู้เสียชีวิต มาพร้อม "สันติ" เพื่อนที่กินยาดองด้วยกันแต่รอดชีวิต และ "สมหวัง" อีกคนที่ดื่มแล้วได้รับพิษจนเข้าโรงพยาบาล

สามีชื่ออะไร?

สุดารัตน์ : "ประหยัดค่ะ"

พี่สันติ ดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนกัน?

สันติ : "ครับ"

พี่สมหวังเป็นเพื่อนด้วยมั้ย?

สมหวัง : "ไม่ครับ อยู่คนละซอย คนละเขตกับคนขาย แต่ดื่มเหมือนกัน ไม่ถึงกับเกือบตายแต่ปวดหัว ต้องไปเจาะเลือด"

พี่สุดารัตน์เล่าก่อน?

สุดารัตน์ : "นายนัทเขาเอายาดองมาให้ 5 กั๊ก เขาก็ช่วยทำของ ทำไปเรื่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ ก็หมด แล้วนายนัทก็เอามาให้อีก 5 กั๊ก นัทดองเอง"

มีคางคกมั้ย?

สุดารัตน์ : "ไม่มีคางคก เวลาเขาดื่มจะถามว่าไหนเอามาชิมหน่อยสิ สักฝา ว่ารสชาติเป็นยังไง พอชิมดูมันมีรสชาติขม หวาน เฝื่อน กัดลิ้นมาก"

ประหยัดที่เสียชีวิต เขาดื่มยาดองตั้งแต่วันไหน?

สุดารัตน์ : "ตั้งแต่วันที่ 15 ดื่มมาเรื่อยๆ ทีละ 5 กั๊ก จนมาวันที่เขาเสียชีวิต 10 กั๊ก เขาเอามาให้ 10 กั๊ก แต่ดื่มแค่ 5 กั๊กครึ่ง เขาเริ่มยืนไม่ติด มือหยิบของแล้วหล่น"

เขาดื่มวันที่ 15 อาการหยิบของแล้วหล่นเมื่อไหร่?

สุดารัตน์ : "วันที่ 19 เวลาลุกไปไหนจะล้ม พยายามลุกใหม่ก็ล้ม ก็ให้เขาไปอาบน้ำขายของ เขาเข้าห้องน้ำนาน พอขับรถไป เขาหลับคาไหล่ ถามว่าไหวมั้ยเขาบอกว่าไหว แต่เขาบอกว่าเขากลับบ้านนอนดีกว่า ก็ให้เขาเดินกลับบ้านมานอน พี่ไปขายของ กลับบ้านมาเขานอนอยู่ข้างบ้าน ก็แหย่ไปว่าสบายเลยนะ เมาอย่างเดียว งานการไม่ทำ"

เขาจิบตลอด?

สุดารัตน์ : "จิบตลอดค่ะ เขาเป็นคนติดเหล้า เขาเหน็บยาดองไว้กระเป๋าหลัง พอเดินไปก็จิบ พอหมดฤทธิ์ก็เติมหน่อย"

อาการขั้นสุด ตอนดึกตีสามตื่นมาร้อน?

สุดารัตน์ : "ร้อนค่ะ ลุกขึ้นมาอาบน้ำทั้งชุด ไม่ได้ถอดเสื้อผ้า เขาอาบน้ำราดหัวเลยค่ะ ตีสี่ตีห้าวันอาทิตย์ เขาก็กลับมานอนที่เดิม ก็เลยถามว่าเข้าบ้านมั้ย เขาบอกไม่เข้า เขาร้อน พี่เลยเข้าห้องไปนอน พอสักพักได้ยินเสียงเขาร้องเอิ๊กๆ ก็วิ่งออกมาดู จะหกโมงแล้ว เห็นตัวเกร็ง ตาดำหายหมด เหลือแต่ตาขาว น้ำลายฟูมปาก"

ตาเหลือกไปข้างบน เสียงเหมือนจะขาดใจเหรอ?

สุดารัตน์ : "ใช่ค่ะ หายใจระรวย น้ำลายฟูมปาก สุดท้ายก็เสียชีวิต"

เพื่อน หลังจากนั้น?

สันติ : "เจ๊โทรตามผมตอนหกโมงครึ่งว่าเพื่อนชัก ก็เลยมา รถโรงพยาบาลมารับหน้าบ้าน ผมก็ไปดู เขาบอกว่าไม่ตอบสนองแล้ว ก็ตามไปโรงพยาบาลด้วย ผมกะจะมาช่วยเจ๊ทำของ พอดีมีเหล้าเหลือ ก็เอาเหล้านั่นแหละ"

คุณกลับมาบ้านประหยัด?

สันติ : "ใช่ มาช่วยเขาทำกับข้าว ตอนนั้นประหยัดอยู่โรงพยาบาล ไม่รู้เสียชีวิตหรือยัง กลับมาช่วยทำกับข้าว แล้วเห็นยาดองประหยัด ก็เอามานั่งกิน"

คุณไม่รู้เหรอที่เขาเอิ๊กๆ ไปเพราะยาดองขวดนั้น?

สันติ : "ไม่รู้เลย ก็จัดซะหน่อย แกมีเหลืออยู่ 2 กั๊กก็เสียดาย ก็เอามาถอน 2 กั๊กครึ่ง พอตกดึกลิ้นแข็ง ลิ้นชา กินตอนเที่ยงวันอาทิตย์ ตกดึกสามทุ่มลิ้นแข็ง ไม่ไหวแล้วเลยเรียกรถรับไปส่งโรงพยาบาล"

หมอว่าไง?

สันติ : "หมอบอกว่าเมา ก็ให้กินยาแล้วก็กลับบ้านได้ แต่จนถึงตอนนี้ลิ้นยังแข็งๆ อยู่ ตอนนี้ไม่ได้กินเติมเลย นอนก็นอนไม่ได้ ขาไม่มีแรง แน่นตลอด"

ไปรู้ได้ยังไงว่าประหยัดเสียชีวิต?

สุดารัตน์ : "ขายของกลับมา ก็วิ่งดูเขาไม่ได้ ต้องไปขายของเป็นค่าน้ำมัน วิ่งไปดูเขาตอนสองทุ่มครึ่ง ก็ให้นี่ไปถาม"

สันติ : "ผมไปถามโรงพยาบาล เขาบอกว่าย้ายไปส่ง รพ.ชลบุรี เลยไปดูที่นั่น ก็ถามหาประหยัด เขาก็บอกว่าใจเย็นนะ เสียชีวิตแล้ว ผมกลับมาจากโรงพยาบาล ก็เลยเป็น"

สรุปมีคางคกในยาดองมั้ย?

สันติ : "ผมไม่เห็น"

สุดารัตน์ : "ข่าวมาจากทางโน้นค่ะ (สมหวัง)" 

นัทเปิดเป็นร้านเหรอ?

สมหวัง : "เขาไม่ได้เปิดเป็นร้าน แต่เอามาตั้ง 2-3 ขวด แต่ก่อนไม่ได้ขายยาดอง ขายโรตีสายไหม เขามาอยู่ซอยเดียวกับผม 2 เดือน เขาเอาโต๊ะมาตั้งไม่ได้เปิดเป็นร้าน เอามาตั้งแค่กรมสองกรม แบนสองแบน แค่รู้ว่าขายยาดอง"

คุณก็โดนจากนัทเหมือนกัน?

สมหวัง : "โดนเหมือนกัน"

พี่สมหวัง คางคกมาจากไหน?

สมหวัง :  มาจากตอนที่นักข่าวถ่ายรูปจากห้องนัท แล้วออกข่าว ผสมกับที่เขาเล่าให้เพื่อนฟังว่ามีเหล้าสูตรใหม่ สูตรคางคก หลังจากนั้นก็เป็นข่าวเลย ผู้สื่อข่าวเข้าไปมีรูปคางคกเป็นๆ อยู่ในบ้านนัท"

เข้าใจผิด ปรากฏว่าผู้สื่อข่าวไปถ่ายรูปคางคกในบ้านนัท แล้วมาออกข่าว?

สมหวัง : "ครับ"

ตัวพี่เคยดื่ม?

สมหวัง : "ดื่มครับ ผมดื่มวันพฤหัสกับกลุ่มเพื่อนไม่เยอะ แค่แก้วสองแก้ว แต่วันศุกร์ผมไปดื่มกับเขาแบนนึงสามคน ผมถือมาอีกแบนนึงมากินที่บ้าน กินได้ครึ่งแบน พี่สาวทักว่าทำไมสีเหล้าเหลืองจังก็เลยหยุดกิน ก็เอามาให้พี่ข้างบ้านกินด้วยกัน เขาก็กินกับผมครึ่งแบน พอได้สักชั่วโมง ผมรู้สึกปวดหัว แฟนผมเลยเอาว่านรางจืดมาต้มให้ดื่ม อาการปวดหัวก็หาย ผมก็ไม่เป็นไร พอตื่นเช้ามาไปขายของตามปกติ เพื่อนบ้านโทรบอกว่าแม่ลูกช็อกเพราะกินเหล้ายาดองร้านนี้เหมือนกัน"

เขาดองยังไง?

สมหวัง : "ตอนแรกเขารับมาขาย พอขายได้ อีก 15 วัน เขาจะเอามาทำเอง แต่เขาทำยังไงผมไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้บอก"

คุณหมอตรวจแล้ว?

สมหวัง : "ตรวจเลือด คุณหมอบอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีสารปนเปื้อนในเลือด วันนี้ให้ไปตรวจอีกหนนึง"

โฟนอิน "นพ.อนุพงษ์ สุธรรมนิรันด์" รองผู้อำนวยการ รพ.ชลบุรี สรุปยังไง?

นพ.อนุพงษ์ : "เราได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยทั้งหมด 11 ราย ทั้งหมดมีประวัติใช้ยาดองเหล้าที่ใส่คางคกเข้าไป ในคำว่ายาดองเหล้าทางการแพทย์ไม่อยากคิดว่าเป็นยา คิดว่าเป็นเหล้าและใส่คางคกเข้าไป ทั้งหมด 11 ราย หนึ่งรายเสียชีวิตที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน 3 รายมีอาการหนักมาก รับเข้าหอผู้ป่วยวิกฤต และอีก 4 รายมีอาการต้องเฝ้าสังเกตอาการ เลยรับเข้านอนโรงพยาบาล ในหอผู้ป่วยสามัญ อีก 3 รายไม่พบอาการรุนแรงก็ให้กลับบ้านไป"

ตกลงมาจากคางคกหรือจากสารตัวอื่น?

นพ.อนุพงษ์ : "ตอนที่เรารับเข้ามา เราซักประวัติว่าคนไข้กินเหล้าที่ใส่คางคกเข้าไป ทางการแพทย์ เราเช็กประวัติ ตรวจร่างกาย พบว่าความเป็นกรดในเลือดสูงมาก คนไข้ซึมไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เราก็ปรึกษาศูนย์พิษวิทยา ที่ รพ.รามาธิบดี ซึ่งเป็นศูนย์ใหญ่ระดับประเทศให้คำปรีกษา ตอนนั้นเขาบอกว่าอาการแบบนี้นึกถึงสาร 2 ตัว สารตัวแรกแอลกอฮอล์ที่เรียกว่าเมทานอล สองไซยาไนด์ ทีนี้จากประวัติคนไข้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับไซยาไนด์ แต่กินเหล้าที่ใส่คางคกเข้ามา อาการทั้งหมดก็เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ที่ใส่เมทานอล ซึ่่งไม่สามารถกินได้เพราะเป็นสารพิษ ส่วนคางคก ถ้ามีอาการพิษจากคางคก จะมีปัญหาเรื่องการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ ช้าลง ตอนแรกที่เข้ามาทีมแพทย์ตรวจคลื่นหัวใจไม่พบความผิดปกติ แต่พบว่าซึม ไม่รู้สึกตัว การหายใจ และเป็นกรดในเลือดสูง การรักษาของเขาก็คือคนไข้ได้รับสารพิษที่ชื่อว่าเมทานอล"

ไม่ใช่คางคก?

นพ.อนุพงษ์ : "ทั้งหมดเป็นสารที่บ่งบอกว่าเมทานอลครับ อันตรายมาก จะไม่มีขายตามร้านทั่วไป ไม่สามารถเอามากินได้เป็นสารพิษครับ ถ้าสุดท้ายรอดก็อาจตาบอดครับ"

ทางสันติ หลังจากนี้จะไปโรงพยาบาลอีก?

สันติ : "ซึมๆ ครับ ชาๆ เดินขาไม่มีแรง"

สมหวัง : "ก็เท่ากับแบนนึง"

ตอนนี้นัทอยู่มั้ย?

สมหวัง : "ไม่อยู่ครับ หนีไปแล้วตั้งแต่วันเป็นเรื่อง"

สุดารัตน์ : "วันที่สามีเสียชีวิตเขายังไม่รู้ ยังโทรเข้ามาทวงเงินว่าจะจ่ายเงินเฮียมั้ยที่กู้ไป ก็บอกว่าแหม ยังมีหน้ามาทวงเงิน เอาชีวิตผัวหนูมาสิ เขาก็ปิดเครื่องหนีไปเลย"

เข็ดมั้ย?

สันติ : "เข็ดแล้ว เมื่อเช้าเพื่อนที่รู้จักซื้อเหล้ามา ก็หยุดก่อน หยุดยาดอง อย่างอื่นเอาอยู่ (หัวเราะ)"

สมหวัง : "หยุดครับ ไม่เอาแล้ว เจอแบบนี้เข็ดเลยครับ"

กินยาดองมากี่ปี?

สันติ : "เกือบ 6 ปี ไม่เคยเจอมาก่อน สองกั๊กนี่ไปเลย"

เพื่อนที่เสียชีวิตและพวกคุณ มาจากร้านของนัทคนเดียว?

สมหวัง : "ใช่ครับ ซอยผมเข้าโรงพยาบาลเยอะกว่าเพื่อน เป็นซอยเดียวกับที่เขาขาย อาการเดียวกัน ทุรนทุราย ตาถลนออกมาเลย แม่กับลูกครับ กินยาดองทั้งคู่ ลูกชายกินได้สามวัน"

มีอะไรอยากฝากมั้ย?

สุดารัตน์ : "ให้ระวังค่ะ จะดื่มอะไรก็ให้มี อย."

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook