กรีฑาปรับโฉมนักวิ่งทีมชาติลงแข่งกีฬายช.

กรีฑาปรับโฉมนักวิ่งทีมชาติลงแข่งกีฬายช.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แฝดใหญ่ พล.ต.ต.สุรพงษ์ อริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อให้การแข่งขันกรีฑามีการพัฒนามากยิ่งขึ้น จึงได้เปลี่ยนแปลงกฎการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 26 มะขามหวานเกมส์ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 19-30 มี.ค.53 ให้สอดคล้องกับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 19-29 พ.ย.53 โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้า ร่วมแข่งขันใหม่ คือ 1. ให้นักกรีฑาทีมชาติลงแข่งขันได้ โดยไม่จำกัดประเภท, 2. นักกีฬาที่เข้าแข่งจะต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี (เกิดในปี 2535หรือหลังจากนั้น), 3. ห้ามนักกีฬาที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีลงมา ( เกิดในปี 2541 หรือหลังจากนั้น) เข้าแข่งขันทุกประเภท, 4. ห้ามนักกีฬาที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีลงมา (เกิดปี 2539 หรือหลังจากนั้น) เข้าแข่งประเภท วิ่ง 800 เมตร, วิ่ง 1,500 เมตร, วิ่ง 3,000 เมตร, วิ่งวิบาก 2,000 เมตร, เดิน 5,000 เมตร, ประเภทอัฎฐกรีฑา และ สัตตกรีฑา, 5. ห้ามนักกีฬาที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ลงมา (เกิดปี 2537 หรือหลังจากนั้น) เข้าแข่งขันวิ่ง 5,000 เมตร, เดิน 10,000 เมตร เนื่องจากต้องการได้คนที่เก่งจริงๆไปวัดฝีมือกันในรอบสุดท้าย

นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้แต่ละจังหวัดส่งนักกีฬา (ชาย-หญิง) เข้าแข่งได้ไม่เกิน 60 คน, ประเภทบุคคล ให้ส่งแข่งได้ประเภทละ 2 คน , ประเภททีมส่งได้ 1 ทีม (สำรอง 2 คน) โดยมอบหมายให้จัดหวัดเจ้าภาพระดับภาค ทำการคัดเลือกนักกีฬาให้แล้วเสร็จ ก่อนพิธีเปิดจะเริ่มไม่น้อยกว่า 90 วัน ซึ่งสนามแข่งขันต้องเป็นพื้นยางใยสังเคราะห์ อุปกรณ์แข่งขันต้องมีมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (ไอเอเอเอฟ) หรือสมาคมกรีฑาฯให้การรับรอง และต้องมีอุปกรณ์ตัดสินการเข้าเส้นชัย (กล้องโฟโต้ฟินนิช) ด้วย

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับ การคัดเลือกนักกีฬาที่ผ่านเข้าไปแข่งขันรอบสุดท้าย ที่จังหวัดเพชรบูรณ์นั้น จะกำหนดจำนวนตามนี้ คือ ประเภทลู่ (ทุกประเภท) คัดอันดับ 1-2 ของทั้ง 5 ภาค (10 คน) และ คนที่ทำสถิติได้ดีที่สุดจากทุกภาค 14 คน รวมเป็น 24 คนเข้ารอบสุดท้าย, วิ่งวิบาก 2,000 เมตร คัดอันดับ 1-2 ของทั้ง 5 ภาค (10 คน) และคนที่ทำสถิติได้ดีที่สุดจากทุกภาค 6 คน รวมเป็น 16 คนเข้ารอบสุดท้าย, ประเภททีม คัดอันดับ 1-2 ขอแต่ละภาค (10 ทีม) และทีมที่ทำสถิติได้ดีที่สุดจากทุกภาค 6 ทีม รวมเป็น 16 ทีมเข้ารอบสุดท้าย, ประเภทลาน คัดอันดับ 1 ของแต่ละภาค (5 คน) และ คนที่ทำสถิติดีที่สุดจากทุกภาค 7 คน รวมเป็น 12 คน เข้ารอบสุดท้าย, เดิน 5 กม.และ 10 กม. คัดอันดับ 1-2 ของแต่ละภาค (10 คน) และคนที่ทำสถิติได้ดีที่สุดจากทุกภาค 14 คน รวมเป็น 24 คนเข้ารอบสุดท้าย, ประเภทผสม (อัฎฐกรีฑา และ สัตตกรีฑา) คัดอันดับ 1-2 ของแต่ละภาค (10 คน) และคนที่ทำสถิติดีที่สุดจากทุกภาค 6 คน รวมเป็น 16 คนเข้ารอบสุดท้าย

ส่วนประเภทที่จะทำการแข่งขัน ได้กำหนดออกมาแล้ว คือ 1. ประเภทลู่ (ชาย-หญิง) วิ่ง 100-200-400-800-1,500-5,000 เมตร รวมทั้ง วิ่ง 3,000 เมตรหญิง และ วิ่ง 10,000 เมตรชาย, วิ่งข้ามรั้ว 110 เมตร (ชาย), วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร (หญิง), วิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร, วิ่งวิบาก 2,000 เมตร, วิ่งผลัด 4x100 เมตร, วิ่งผลัด 4x400 เมตร, วิ่งผลัด 3x800 เมตร, เดิน 10,000 เมตร, 2. ประเภทลาน คือ กระโดดไกล, กระโดดค้ำ, กระโดดสูง, เขย่งก้าวกระโดด, ขว้างจักร, ขว้างค้อน, ทุ่มน้ำหนัก, พุ่งแหลน, อัฎฐกรีฑา (ชาย), สัตตกรีฑา (หญิง).

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook