ประกันข้าวโพด7.1บาทต่อกก.

กอร์ปศักดิ์เสนอเข้าครม.เปิดไฟเขียว โยนข้าวโพดเน่าใส่ครม.ช่วยหาทางแก้

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติ มีมติให้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประจำปีการผลิต 52/53 ด้วยการรับประกันราคาที่ กก.ละ 7.10 บาท โดยคำนวณจากต้นทุนการผลิตของเกษตรกรหน้าฟาร์ม บวกกับค่าขนส่ง กก.ละ 0.25 บาท และบวกกำไรให้กับเกษตรกรในอัตรา 25% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะกำหนดราคาอ้างอิงทุก 15 วัน เพื่อให้เกษตรกรตัดสินใจว่าจะขายข้าวโพดในตลาดหรือนำเข้าโครงการรับประกันราคาของรัฐบาล หากเกษตรกรร่วมโครงการประกันราคาแล้วราคาข้าวโพดในตลาดสูงไม่เท่ากับราคารับประกัน รัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรโดยตรง หากราคาตลาดสูงกว่าเกษตรกรสามารถนำข้าวโพดไปขายในตลาดได้ทันที

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการรักษาเสถียร ภาพราคาข้าวโพด คณะกรรมการกำหนดให้มีมาตรการเสริมโดยรัฐบาลจะเข้าไปรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรโดยตรงในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อนำไปขายให้กับต่างประเทศด้วย ซึ่งมั่นใจว่าวิธีการดูแลและช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับประกันจะทำให้เกษตรกรกว่า 3 แสนรายที่มีอาชีพปลูกข้าวโพดได้รับการช่วยเออย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันรัฐบาลยังไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่า ค่าแปรสภาพและค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทั้งหมด แตกต่างจากนโยบายการรับจำนำที่เกษตรกรจะได้รับการช่วยเหลือที่แท้จริงเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ซึ่งจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 14 ก.ค.นี้พิจารณาเห็นชอบกรอบแนวทางพร้อมกับวิธีการรับประกันราคามันสำปะหลังที่ กก.ละ 1.70 บาท ที่ ครม.เห็นชอบไปก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้จากการหารือร่วมกับนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับข้าวโพดในสต๊อกเดิมที่พบว่าเสียหายเป็นจำนวนมากนั้น กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาว่าจะเร่งรัดจำหน่ายข้าวโพดได้อย่างไร เชื่อว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเพราะ ครม.ได้กำหนด ไว้ชัดเจนว่าต้องขายตามสภาพโกดังต่อโกดัง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโกดัง หากกระทรวงพาณิชย์ต้องการขายในประเทศก็ต้องอธิบายเหตุผลให้ชัดเจน

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯจะเร่งดำเนินการจดทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดให้เสร็จโดยเร็ว เพราะจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-31 พ.ย.นี้ คาดว่าผลผลิตข้าวโพดในปีนี้จะมีจำนวนใกล้เคียงกับปีก่อน ที่ 4.2 ล้านตัน จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดกว่า 6 ล้านไร่ จากจำนวนเกษตรกรทั้งหมดกว่า 3 แสนราย

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการรับประกันราคาข้าวโพดครั้งนี้กำหนดให้เกษตรกรเข้าโครงการได้ไม่เกินคนละ 12 ตัน และจะรับประกันเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่มีเอกสารสิทธิในการถือครองที่ดินหรือโซนนิ่งเท่านั้น ซึ่งมีเกษตรกรเพียง 40% ที่ปลูกข้าวโพดในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ ขณะที่อีก 60% ไม่มีเอกสารสิทธิ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และสระแก้ว ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักและเตรียมออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร่งด่วน

ส่วนการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดู 51/52 ที่พบมีข้าวโพดขึ้นราและเน่าเสียจำนวนมาก กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอให้นายกอร์ปศักดิ์ เร่งพิจารณาเปิดระบายอีกครั้งอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะเสียหายหนักกว่าเดิม และเป็นไปได้ว่า รัฐอาจจะขายขาดทุนมากกว่าครั้งก่อนหลายพันล้านบาท.