ทะเลาะมั่วแทงยายดับ-สาหัส2

ทะเลาะมั่วแทงยายดับ-สาหัส2

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เหตุหลานเขยก่อเหตุสยองรายนี้ เกิดเมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ 11 ก.ค. พ.ต.ต.สุริยา แสงอ่อนตา สารวัตรเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 8 บ้านหนองแค ต.โนนรัง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรร.พ.ร้อยเอ็ด และหน่วยกู้ภัย เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านชั้นเดียวพบศพนางบัวลา สารมิตร อายุ 67 ปี นอนหงายเสียชีวิต ในสภาพนุ่งผ้าถุง เสื้อคอกระเช้า เหนือราวนมทั้งสองข้าง หัวไหล่ขวา และหน้าท้องถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลลึกรวม 7 แผลเลือดท่วมร่าง โดยมีนายหนูจันทร์ สารมิตร อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย นั่งร้องไห้เฝ้าศพแม่อยู่

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 รายคือ นายอนงค์ ไชยภักดี อายุ 35 ปี ถูกแทงด้วยของมีคม เข้ากลางหลังทะลุหน้าท้อง 1 แผล อาการสาหัส และนางหนูไกร วินทะไชย อายุ 28 ปี ถูกของมีคมเชือดเข้าต้นแขนขวาเป็นแผลเหวอะ 1 แผล หน่วยกู้ภัยจึงช่วยกันนำส่งร.พ.ร้อยเอ็ด ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้คือ นายสมบัติ เจตเสน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเดียวกัน มีอาชีพเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด และมีศักดิ์เป็นหลานเขยของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำนายสมบัติมีปากมีเสียงกับลูกชายวัย 16 ปี เนื่องจากกินเงาะแล้วจะทิ้งเปลือกและเมล็ดลงพื้น ลูกชายจึงไปหยิบถุงมาให้พ่อเพื่อทิ้งให้ลงถุง แต่พ่อกลับเอาเปลือกเงาะวางใส่มือลูก ลูกไม่พอใจจึงพูดประชดว่า พ่อคนเขาทำอย่างนี้หรือ พ่อโมโหจัดพยายามจะทำร้าย ญาติจึงไปตามให้นายหนูจันทร์ สารมิตร ลูกของผู้ตายมาห้าม กระทั่งมีปากเสียงกัน นายสมบัติใช้มีดปลายแหลมเชือดคอนายหนูจันทร์ แต่จับคมมีดผิดด้านจึงถูกลำคอเป็นแผลเล็กน้อย นายหนูจันทร์จึงวิ่งหนีไปหลบอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายนายสมบัติแค้นไม่เลิกขี่รถจักรยานยนต์ตามหาผู้ตายทั่วทั้งหมู่บ้านเพื่อหวังทำร้าย

กระทั่งกลางดึกขณะนั้นนางบัวลาซึ่งมีบ้านติดกันกับนายสมบัติ ซึ่งมีอาชีพต้มถั่วลิสงขายตามหมู่บ้านและตลาด นอนหลับสนิทอยู่ภายในบ้านกับด.ช.บรรพต วินทะไชย อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นหลานชาย นายสมบัติคิดว่านายหนูจันทร์คงจะนอนอยู่ภายในบ้าน จึงเคาะประตูเรียกอย่างรุนแรง ด.ช.บรรพตงัวเงียตื่นขึ้นมาเปิดประตู พบว่านายสมบัติดื่มสุราจนเมาวิ่งเข้าไปในบ้านดึงนางบัวลาลุกขึ้นจากเตียงนอน แล้วล็อกคอออกมาหน้าบ้านใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงอย่างบ้าคลั่ง จนนางบัวลาเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาหลานชาย

ขณะนั้นนายอนงค์ ไชยภักดี และนางหนูไกร วินทะไชย ได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาช่วย นายสมบัติจึงจ้วงแทงทั้งคู่จนได้รับบาดเจ็บทั้งสองราย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป แต่รถจักรยานยนต์ไปล้มคว่ำขณะหนีเข้าตัวเมืองจนได้รับบาดเจ็บถูกหน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพื่อรักษาพยาบาล กลับไปเจอกันกับนายอนงค์ ไชยภักดี และนางหนูไกร วินทะไชย ซึ่งกำลังได้รับการรักษาพอดี จึงแจ้งตำรวจจับและควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป

(กรอบบ่าย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook