อภิสิทธิ์ขอถกกษิต

อภิสิทธิ์ขอถกกษิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เคลียร์ข่าวทหารบีบ ไม่ปรับ-ไม่ขัดกฎเหล็ก

มาร์คไม่ปรับกษิตยันไม่มีปัญหาความน่าเชื่อถือ ย้ำรักษามาตรฐานกฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่รอศาลพิพากษา แต่รมต.ถูกออกหมายเรียกแล้วให้ออก ดูจะเกินเลยไปปัดทหารบีบรัฐบาลให้ปลด เตือนกษิตระวังปากปลุกม็อบ รอคุยหลังกลับจากนิวซีแลนด์ เพื่อไทยส่งระเบียบคุณธรรม-จริยธรรมจี้นายกฯ โยนถ้ามีป่วนอาเซียนเป็นแดงเทียม พร้อมพงศ์บอกถ้าจะประท้วงรมว.บัวแก้วร่วมประชุม จะไปแค่ 4 คน โพลระบุคนอีสานหนุนขออภัยโทษนักการเมืองทุจริต

มาร์คยังไม่ปรับกษิตพ้นเก้าอี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งช่วงแรก 15 นาทีเป็นการออกรายการสด นายกฯ พูดถึงกระแสข่าวการกดดันให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง และการจัดประชุมอาเซียน จากนั้นเป็นเทปบันทึกการเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยการจัดรายการครั้งนี้ใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที จากที่ปกติใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง

นายกฯ ยืนยันจะไม่ปรับนายกษิตออกจากตำแหน่ง เพราะการปฏิบัติหน้าที่ยังไม่มีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือ และยังต้องทำงานต่อเนื่องในช่วงการประชุมสำคัญระหว่างที่ไทยเป็นประธานอาเซียน และยืนยันยังรักษากฎเหล็กตามมาตรฐาน กรณีของนายกษิตก็จะไม่รอให้ศาลมีคำพิพากษา แต่จะบอกว่าเมื่อถูกตั้งข้อหา ตำรวจออกหมายเรียกแล้วต้องลาออก ก็ดูจะเกินเลยไป (อ่านรายละเอียด น.3)

เวลา 11.20 น. ที่สยามพารากอน นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กรณีนายกษิตไม่พอใจกระแสข่าวมีทหารจำนวนหนึ่งพยายามบีบให้ลาออกจากตำแหน่งว่า เข้าใจว่าเป็นรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีทหารแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนายกษิต เมื่อนายกษิตเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจที่ประเทศนิวซีแลนด์จะได้พูดคุยกัน เมื่อถามถึงกรณีนายกษิตระบุว่ามีคนจำนวนไม่มากที่ต้องการให้ออกจากตำแหน่ง แต่มีคนอีกนับแสนอยากให้อยู่ในตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้ระมัดระวัง เพราะจริงๆ แล้วตนก็ได้อธิบายการตัดสินใจของตน นายกษิตก็อธิบายการตัดสินใจของตัวเองได้จึงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล และในช่วงนี้ก็มีงานสำคัญรออยู่ก็ขอให้นายกษิต มุ่งทำตรงนั้นไป

ปัดทหารบีบเปลี่ยนตัวรมต.บัวแก้ว

เมื่อถามว่ามีทหารเข้ามากดดันรัฐบาลเพื่อให้ตั้งข้อกล่าวหานายกษิต เพื่อให้ออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี และเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้อยู่ก็ต้องชี้แจง หากมีใครมาแทรกแซงคงไม่ได้ หากมีหลักฐานว่ามีใครแทรกแซงขอให้แจ้งมาเพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ขณะนี้ทหารก็ยังให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลดี เมื่อถามว่ารัฐบาลยังอยู่ภายใต้การครอบงำของทหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์มีท่าทีไม่พอใจถามกลับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องไหนละครับๆ จากนั้นกล่าวว่า อ่านในหนังสือพิมพ์แบบเร็วๆ ว่านายกษิตถูกถามเรื่องรายงานข่าวว่าทหารแสดงความคิดเห็น นายกษิตก็ถามว่าเป็นใครเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากนายกษิตเดินทางกลับมาประเทศไทยคงได้พูดคุยกันและก่อนการประชุมอาเซียนก็คงได้พูดกันยาวหน่อย

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ว่า โดยรวมพึงพอใจที่ได้ไปติดตามงานในส่วนของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ประชาชนก็มีความตื่นตัวที่จะให้งานเหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อถามว่ากระแสตอบรับเป็นกระแสจัดตั้งในพื้นที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่ได้เดินทางไปจะเห็นเองว่าปฏิกิริยาของคนทั่วไปเป็นอย่างไร

รับ 6 เดือนงานยังไม่ลุล่วง

เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา ให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค โดยกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้ทำหน้าที่บริหารประเทศมา 6 เดือนเศษ บางคนลืมไปแล้วว่าเราเริ่มต้นมาจากภาวะที่บ้านเมืองสับสนยุ่งเหยิงมาก ตอนนี้ประเทศไม่มีทางออก เกิดปัญหารุมเร้าทางด้านเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกติดลบ และในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.51 มีปัญหาในเรื่องการเมืองเข้ามาด้วย แต่เมื่อเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลก็พยายามทำให้ประเทศเกิดความมั่นคง มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังไม่สำเร็จลุล่วง เพราะมีคนบางกลุ่มยืนยันเคลื่อนไหวต่อไป มีเป้าหมายขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ โดยเฉพาะการจัดงานสำคัญการประชุมอาเซียน คนกลุ่มนี้มีเป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเป้าหมายที่ตัวอดีตนายกรัฐมนตรี

นายกฯ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวจึงยังไม่สามารถทำให้ประเทศเกิดความเรียบร้อยทั้ง 100% ได้ ทั้งที่เหตุการณ์พัทยา และเหตุการณ์ช่วงเดือนเม.ย.แต่รัฐบาลก็พยายามใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ทำให้เกิดความเรียบร้อย โดยไม่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้ชี้แจงกับต่างประเทศเมื่อมีโอกาสยืนยันว่ายึดนโยบายนี้ในการแก้ไขปัญหา วันที่ 16 ก.ค.นี้คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภาตั้งขึ้นจะรายงานให้ทราบว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร ตรงนี้ถือเป็นการหาทางออกให้ประเทศทางหนึ่ง แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงไม่พอใจ ไม่ว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรก็แล้วแต่

จี้สมานฉันท์ต้องเริ่มจากในพรรค

นายกฯ กล่าวว่า บางกลุ่มบอกว่ามาเรียกร้องประชาธิปไตยแต่วิธีการเรียกร้องกลับไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น การขัดขวางการลงพื้นที่ ตรงนี้ต่างประเทศเข้าใจดี แต่คนกลุ่มนี้พยายามทำให้เห็นว่าต้องการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ชี้ให้เห็นว่ากลัวรัฐบาลลงไปชี้แจงต่อประชาชน เพราะถ้าไม่กลัวจะขัดขวางทำไม ตนยืนยันว่าจะเดินทางไปทุกพื้นที่ จากภาคอีสานก็จะไปภาคเหนือ ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ที่พึ่งไปมาก็มีประชาชนมาต้อนรับเป็นพันเป็นหมื่น มีการพูดคุยทักทาย ปราศรัยใกล้ชิดตามสมควร โดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ทุกอย่างเรียบร้อยดี และทุกๆ ที่ที่ตนลงไปก็ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกัน เรื่องความสมานฉันท์ในพรรคต้องทำให้เกิดความสมานฉันท์กันก่อน เพราะถ้าทำให้เกิดขึ้นในพรรคไม่ได้แล้วจะไปทำให้ภายนอกสมานฉันท์ได้อย่างไร

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การทำงานของสาขาพรรค โดยเฉพาะการเลือกตั้งส.ก.และส.ข. ก็ต้องเตรียมผู้สมัครให้พร้อม และมีตารางการเลือกตั้งอยู่แล้ว ส่วนส.ส. สาขาพรรคต้องช่วยกันดูแลให้ส.ส.ลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพราะในระบบรัฐสภาการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากให้สาขาพรรคศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เข้าใจ บางทีอาจดูยุ่งยากบ้างแต่ก็ต้องยอม ตนเป็นหัวหน้าพรรคยังต้องใช้เวลาเซ็นเอกสารบางครั้งถึง 4 ชั่วโมง ล่าสุดที่ไปเวียดนามก็ใช้เวลาที่อยู่บนเครื่องบิน 2 ชั่วโมงเซ็นเอกสาร ถ้าไม่ทำก็อาจเป็นการฝ่าฝืนผิดกฎหมาย ขอให้อย่าเบื่อและต้องมีความอดทน เพราะเรื่องของกฎหมายไม่มีทางเลี่ยงเป็นอย่างอื่น เมื่อพรรคจัดกิจกรรมก็ต้องมีรายละเอียดของค่าใช้จ่ายแสดงต่อกกต. โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์แทบจะเป็นพรรคเดียวที่มีสาขาพรรคครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด ถือว่าเรามีปัญหาหนักสุดในเรื่องนี้ แต่ถ้าประเด็นใดมีปัญหามากจริงๆ ก็ให้เสนอมายังตนจะได้นำไปหารือกับ กกต.ต่อไป

นายกฯเจอม็อบแดงนครปฐม

เวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปยังคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม เพื่อทำพิธีเปิดโรงงานต้นแบบนำร่องทดลองผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ณ อาคารปฏิบัติการควบคุมและประเมินคุณภาพทางเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ทำพิธีเปิดมีกลุ่มเสื้อแดง 20 คน พร้อมตีนตบและป้ายผ้าข้อความว่า คนนครปฐม ไม่ต้อนรับรัฐบาลโจรก่อการร้าย มาชุมนุมอยู่บริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่รอบบริเวณ นอกจากนี้ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เดินทางมาสังเกตการณ์การทำพิธีด้วย

จากนั้น นายอภิสิทธิ์เดินทางมาเป็นประธานพิธีปิดงาน World Saxophone Congress ครั้งที่ 15 ณ อาคารภูมิพลสังคีต วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นายกฯ ร่วมชมการแสดงดนตรีนาน 40 นาที มีนายธีระ สลักเพชร รมว. วัฒนธรรม ร่วมงานด้วย จากนั้น นายกฯ กล่าวปิดงานพร้อมมอบของที่ระลึกให้กับศิลปินชาวต่างชาติและผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่บริเวณหน้าอาคารภูมิพลสังคีต มีกลุ่มเสื้อแดง 20 คน มาถือธงแดงช้างเผือกพร้อมตีนตบ แสดงการต่อต้านนายกฯ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจเต็มพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ จะเดินทางกลับ กลุ่มเสื้อแดงได้พยายามปิดล้อม ประตูทางออก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำกำลัง 20 นายเข้าไปเคลียร์พื้นที่กันผู้ชุมนุมเพื่อเปิดทางให้กับขบวนของนายกฯ จากนั้นขบวนรถของนายกฯ วิ่งออกทางด้านประตูทางออกอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง มีเพียงผู้ชุมนุมบางคนส่งเสียงโห่ไล่ ท่ามกลางวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คุ้มกันขบวนรถของนายกฯ อย่างเข้มงวด

กรณ์เจอไล่ที่พิษณุโลก

วันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เดินทางไปที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เพื่อดูความพร้อมโครงการไทยเข้มแข็งก่อนที่งบประมาณจะลงไปในช่วงเดือนก.ย. เพื่อตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลที่ของบก่อสร้างอาคารตติยภูมิระดับสูง (โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคทางอุบัติเหตุ) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ตำรวจนปพ. ตชด. และเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอรอบนอกร่วม 500 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งกำลังอส. วางกำลังรอบโรงพยาบาล และตามจุดต่างๆ อย่างเข้มงวด

หลังร่วมประชุมกับผู้บริหารโรงพยาบาลนาน 2 ชั่วโมง นายกรณ์ เดินทางไปที่โรงแรมท้อปแลนด์พลาซ่า มีกลุ่มคนเสื้อแดง 30 คน นำโดย นายภานุกฤษณ์ พัชรอารีย์ แกนนำกลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยสองแคว ใช้รถปิกอัพติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีรัฐบาล และโจมตีนายกรณ์ อยู่ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามทางเข้าโรงแรม กระทั่งนายกรณ์ประชุมหารือกับหอการค้าจังหวัดเสร็จจะเดินทางกลับ กลุ่มเสื้อแดงที่รออยู่ก็ต่างตะโกนขับไล่ ก่อนที่จะพากันแยกย้ายกลับ โดยไม่มีเหตุรุนแรง

ย้ำกำหนดการนายกฯไปเชียงใหม่

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกฯ ว่า ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีในทุกพื้นที่ ส่วนการลงพื้นที่ครั้งต่อไปของนายกฯ กำลังดูกำหนดการที่เหมาะสม คาดว่าวันที่ 23 ก.ค. น่าจะไปลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จากนั้นอาจต้องพัก 2 สัปดาห์ ก่อนไปเยือนภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ และลำพูน

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ ที่จ.บุรีรัมย์ ว่า พรรคขอสนับสนุนการลงพื้นที่ของนายกฯ การลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ถือว่าประสบความสำเร็จและขอเสนอว่าควรมีโปร แกรมลงพื้นที่อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้สัปดาห์ละครั้งก็จะถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ อยากเสนอว่านอกจากการลงพื้นที่ทุกภาคแล้ว ควรลงพื้นที่ตามสภาพปัญหาด้วย เช่น ลงพื้นที่เผชิญกับปัญหาใน จ.สระบุรี กรณีความเดือดร้อนจากโรงกำจัดขยะ เพราะถ้าเป็นความเดือดร้อนของประชาชน นายกฯ ควรลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อรับทราบปัญหา รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหา

นายสาธิต กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ถือว่าเป็นประโยชน์เพราะจะได้ตรวจสอบว่าได้มีการปฏิบัติตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ เพราะเมื่อนายกฯ ลงพื้นที่ก็จะได้รับทราบข้อมูลในเชิงลึกจากประชาชน ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ปั้นแต่งไปเสนอผู้มีอำนาจ และประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ก็จะได้พบกับตัวนายกฯ เพราะบางทีประชาชนรู้จักนายกฯ จากข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่เมื่อได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของนายกฯ ก็จะเข้าใจนายกฯ ได้มากยิ่งขึ้นว่านายกฯ เป็นคนที่มีบุคลิกจริงใจในการแก้ปัญหา และยังลดความขัดแย้งของประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสาน จะได้รับรู้ว่ารัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรให้กับประชาชนทุกภาคทุกจังหวัดเท่าเทียมกัน

สุทัศน์ไม่ไปรับนายกฯติดไปลาว

นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส.ส.อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีกระแสคนอีสานไม่ต้อนรับคนในรัฐบาลชุดนี้ แต่จากการที่นายกฯ ไปบุรีรัมย์ แสดงว่ากระแสดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะมีประชาชนมาต้อนรับเป็นหมื่นคน ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาล และจะทำให้รัฐบาลทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลทำไปถึงประชาชนแล้ว และกำลังจะมีโครงการต่างๆ ลงไปอีกจำนวนมาก และนอกจากกระแสของรัฐบาลจะดีแล้ว กระแสของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคอีสานก็ดีขึ้น

นายอิสสระ กล่าวว่า มั่นใจการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.ในภาคอีสานเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลย่อมจะมีโครงการต่างๆ ที่ทำเพื่อคนอีสานมากขึ้น ซึ่งต้องเตรียมหาผู้สมัครเพื่อลงพื้นเผยแพร่นโยบายของพรรค และการส่งคนลงสมัครไม่จำเป็นต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่เกี่ยวอะไรกัน พรรคการเมืองมีหน้าที่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง หากพรรคภูมิใจไทยจะส่งคนก็เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่าขุนพลอีสานในพรรคประชาธิปัตย์มีความแตกแยกกันหรือไม่ เพราะนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน ไม่ได้มาต้อนรับนายกฯ ที่บุรีรัมย์ นายอิสสระ กล่าวว่า นายสุทัศน์ ติดภารกิจไปประเทศลาว ไม่น่ามีความขัดแย้ง ตนก็ไม่ได้เจอนายสุทัศน์ มานานแล้ว

ปธ.วิปชี้ปรับกษิตให้รอศาล

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงการลงพื้นที่บุรีรัมย์ของนายกฯ ที่ไม่มีกลุ่มเสื้อแดงมาป่วน ว่า เป็นการเดินตามยุทธศาสตร์รวมกันเราอยู่ กอบกู้เศรษฐกิจ ใกล้ชิดประชาชน ประชาชนขานรับเป็นอย่างดี รัฐบาลจึงควรเดินหน้าทำยุทธศาสตร์นี้ให้เป็นจริงในนามพรรคร่วมรัฐบาล โดยให้คิดว่าทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก ประชาชนจะขานรับเช่นเดียวกับที่บุรีรัมย์ ยุทธศาสตร์นี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องประเมินกันเป็นระยะๆ และต้องร่วมกันทำงานให้เป็นจริง จะทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหา ส่วนกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องแยกให้ชัดว่ารัฐบาลไม่ได้ทำงานการเมืองแต่ทำงานเพื่อประชาชน

นายชินวรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวทหารกดดันให้ปรับ นายกษิต ภิรมย์ ว่า ปัญหาของนายกษิต ควรให้เวลา ให้คดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายปรากฏชัดก่อน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทุกฝ่ายควรใช้ความอดทน ยืนยันว่าไม่มีกระบวนการอะไรที่จะผลักดันให้นายกษิต ออกจากตำแหน่งได้ ไม่มีใครบีบ หรือกลั่นแกล้ง และเชื่อว่าปัญหาจะไม่บานปลาย เพราะนายกษิต พูดชัดแล้วว่าหากศาลชี้ว่าคดีมีมูลก็พร้อมออกจากตำแหน่ง นายกฯ ก็แสดงมาตลอดว่ายึดหลักนิติรัฐ ไม่อยากให้มีการยึดตามกระแส

นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 50 กล่าวกรณีนายกษิต ถูกตำรวจออกหมายเรียกในคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า มีข้อพิจารณาอยู่ 2 ด้านคือ ในด้านของกฎหมาย ตนเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรหากนายกษิต ยืนยันทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป เพราะวันนี้ยังไม่ได้ต้องคำพิพากษาของศาล เป็นเพียงหมายเรียก จะอ้างหรือยึดถือปฏิบัติหน้าที่ต่อไปคงไม่ได้ผิดอะไรในแง่ของกฎหมาย ส่วนอีกด้านคือเรื่องมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งแล้วแต่ใครจะมองหรือเรียกร้องในด้านใด

40ส.ว.หนุนกษิตปกป้องตัวเอง

นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีนักการเมืองคนใดจะแสดงสปิริต เพราะมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองไทยนั้นอยู่ในขั้นต่ำมาก ที่ผ่านมามีนักการเมือง หรือรัฐมนตรีหลายคนถึงขนาดต้องคำพิพากษาของศาล แม้จะยังไม่ถึงที่สุดแต่ไม่เคยเห็นใครที่จะแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง

อดีตเลขานุการกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การจะเขียนกฎหมายเพื่อให้ยึดเป็นหลักปฏิบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเรื่องการต้องคำพิพากษาของศาล หรือการถูกหมายเรียกจากตำรวจแล้วต้องลาออกจากตำแหน่ง ไม่ควรเขียนไว้ในกฎหมายหรือบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งหากจะเขียนไว้จริงๆ ต้องไปเขียนไว้ในประมวลคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเข้าใจว่ามีประมวลคุณธรรมและจริยธรรมดังกล่าวอยู่แล้ว โดยเป็นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ทราบว่ารายละเอียดเขียนไว้อย่างไร และรัฐสภาชุดนี้ หรือรัฐบาลจะหยิบยกมาพิจารณาหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้คาดหวังในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม หรือบทลงโทษในเรื่องนี้ของนักการเมืองบ้านเรา

นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา แกนนำ 40 ส.ว. กล่าวกรณีนายกษิต ระบุว่ามีทหารพยายามบีบให้ลาออก ว่า นายกษิต เป็นข้าราชการหัวแถวที่ออกมาท้าทายระบอบทักษิณ เพราะทนเห็นความไม่ชอบธรรมสมัยที่เป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลทักษิณแล้ว เชื่อว่านายกษิต เป็นเหยื่อทางการเมืองแน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้นายกษิต ออกมาพิทักษ์ความชอบธรรมให้ตัวเอง

ปธ.วุฒิชี้ร้องทุกข์-ฎีกาคนละเรื่อง

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวกรณีกระแสกดดันจากสังคมเรียกร้องให้นายกษิต ลาออก ว่า กรณีของนายกษิต แค่เป็นผู้ต้องหาเท่านั้นยังไม่ชัดเจนว่าผิด ต้องรอให้อัยการมีคำสั่งฟ้องก่อนจึงจะถือว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และลาออกได้ ส่วนกระแสกดดันให้ลาออก ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ในความคิดของตนต้องรอให้อัยการสั่งฟ้องเท่านั้น นายกษิต จึงน่าจะลาออก

ประธานวุฒิสภา กล่าวกรณีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานคนที่ 2 ระบุว่าการยื่นถวายฎีกาเพื่ออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนสมัยพ่อขุนรามที่ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องมาสั่นกระดิ่ง ว่า เป็นคนละอย่างกัน การที่ประชาชนมาร้องทุกข์ได้ในสมัยก่อนนั้นเพราะปกครองแบบระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ปัจจุบันเราปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจะต้องทำตามกฎหมาย ถ้าจะขออภัยโทษจะต้องยืนยันยอมรับความผิดก่อน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความผิดทางการเมือง อย่าไปดึงพระองค์ลงมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย เพราะเป็นเรื่องของการเมืองพระองค์อยู่เหนือการเมือง ถ้าอยากขออภัยโทษก็ให้ญาติหรือตัวผู้ที่ทำผิดร้องขอเอง ไม่ใช่ให้ประชาชนมาร้องขอให้ เพราะอำนาจตุลาการได้ชี้ขาดไปแล้วว่าผิด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องรับโทษก่อนแล้วค่อยขออภัยโทษ มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการลบอำนาจอีกอำนาจหนึ่ง แล้วมาให้อีกอำนาจหนึ่งช่วย เพราะฉะนั้นผู้ขอจะต้องขอเองหรือญาติขอให้เท่านั้น โดยขอผ่านกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และต้องให้รมว.ยุติธรรม เป็นผู้เห็นชอบจึงสามารถทำได้

เมื่อถามว่าหากกลุ่มเสื้อแดงไม่เชื่อว่า รมว.ยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมได้จะทำอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่เสนอไปกระทรวงยุติธรรมเลย จะไปคิดเช่นนั้นไม่ได้ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไปจะต้องดูว่ากลุ่มเสื้อแดงจะทำตามข้อกฎหมายหรือไม่

ปชป.ไม่ใช่เสื้อเหลือง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวนายกฯ กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัย โทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ยอดทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ว่า ถือเป็นเรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง พรรคจะไม่เข้าไปตรวจสอบว่ารายชื่อดังกล่าวได้มาจากไหน แต่ที่น่าสนใจคือความเหมาะสมและความถูกต้องว่าบังควรหรือไม่ที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งสติ รับฟังกระแสสังคม ไม่อยากให้ดันทุรังหรือเพื่อเอาชนะคะคานหรือความสะใจเพียงอย่างเดียว

นายเทพไท กล่าวว่า แกนนำจากพรรคเพื่อไทยยังออกมาตะแบงว่าไม่ได้เป็นการทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เป็นการทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระราชทานความเป็นธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างไร

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมงานแซยิดครบรอบ 60 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมีความผูกพันกับคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ผูกพันกับคนเสื้อเหลือง ว่า การที่พรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มคนเดียวกัน ถือเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกเสมอว่าพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง และก็มีส.ส. ยอมรับในสภา แต่การที่ออกมาบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นกลุ่มคนเดียวกับกลุ่มเสื้อเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยยอมรับว่าเป็นกลุ่มคนเดียวกัน มีเพียงบางเรื่อง บางเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวสอดคล้องกันก็ถือเป็นสิทธิ ไม่มีส.ส.พรรคที่ไปเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ยกเว้นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตร ก่อนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จะมาเหมารวมกันคงไม่ถูกต้อง และกลุ่มพันธ มิตร ยังเป็นองค์กรการเมืองภาคประชาชน มีสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีที่มีการเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และพรรคก็พร้อมให้ตรวจสอบเต็มที่

พท.ยื่นระเบียบจริยธรรมจี้นายกฯ

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกมาสนับสนุนให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่คงหนีไม่พ้นคนในตระกูลชินวัตร หากเป็นไปได้เชื่อว่านายสมชายคงอยากสนับสนุนนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยามากกว่า แต่ติดปัญหาว่านางเยาวภา อยู่ในบ้านเลขที่ 111 ที่ถูกตัดสิทธิ มรดกชิ้นนี้จึงตกเป็นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าสู่การเมืองแบบเต็มตัว อย่าเล่นการเมืองแบบลับๆ ล่อๆ ขอให้ทำงานแบบตรงไปตรงมาเท่านั้น

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ ถูกออกหมายเรียกในข้อหาก่อการร้าย ว่า รัฐบาลและนายกฯ ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อกรณีของนาย กษิต และพร้อมให้นายกษิต พิสูจน์ความเป็นธรรม หากรัฐบาลเลือกปฏิบัติ นายกษิต คงไม่ถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีการออกหมายเรียกนายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตผู้สมัครส.ส.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในแกนนำ พันธมิตร เพราะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเรื่องของการดำเนินคดี ขึ้นอยู่กับการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ครบทุกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหมายเรียกเฉพาะบางคน

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ ออกมาปกป้องนายกษิต ว่า ได้พบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ซึ่งระบุชัดเจนถึงจริยธรรมของคนเป็นรัฐมนตรี ดังนั้นในวันที่ 13 ก.ค. จะให้เจ้าหน้าที่ไปยื่นต่อนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทราบถึงระเบียบดังกล่าว

โยนแดงเทียมป่วนอาเซียน

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกระทำของนายกษิต เข้าข่ายก่อการร้ายตามการลงนามอนุสัญญามอนทรีอัล ว่าด้วยการบินพลเรือนนานาชาติ ยิ่งวันนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งมีวาระการประชุมเรื่องการก่อการร้าย แต่นาย กษิต ในฐานะประธานรัฐมนตรีอาเซียน กลับโดนข้อหาก่อการร้าย คงต้องเอาปี๊บคลุมหัว ไม่รู้ว่าเหตุใดนายอภิสิทธิ์ จึงเอาศักดิ์ศรีของประเทศไปอุ้มคนๆ เดียว ส่วนที่ระบุว่าจะมีกลุ่มบุคคลมาป่วนการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลพยายามโยงมาที่พรรคเพื่อไทยและฝ่ายตรงข้าม ขอยืนยันว่าถ้าจะมีกลุ่มใดไปป่วนการประชุม ก็ไม่ใช่พวกตน ไม่ใช่พวกแดงแท้ แต่เป็นแดงปลอมที่รัฐบาลโยนขี้ป้ายสีมาให้

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่บุรีรัมย์ของนายกฯ ว่า พรรคเห็นว่าการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกฯ เป็นความล้มเหลวของรัฐบาล ที่มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณจำนวนมาก เพราะมีข่าวนายกฯ ต้องใส่เสื้อเกราะอ่อนและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึง 3,000 นาย ไม่รวมกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน และเสื้อขาวกว่า 1,000 คน แทนที่จะใช้เจ้าหน้าที่และงบประมาณไปกับการดูแลช่วยเหลือประชาชนจะเหมาะสมกว่า

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามโยงการก่อความวุ่นวายในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน มาที่พรรคตรงกันข้าม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสุราษฎร์ธานี เรียกนายนิพนธ์ นพฤทธิ์ หรือ โกยาว พี่ชายตนไปให้การในฐานะพยาน เหตุพยายามระเบิดป้ายสวัสดีปีใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ และยังพบว่าตำรวจสันติบาลทำหนังสือรายงานมายังส่วนกลาง เบื้องต้นระบุว่าผู้ที่จะมาก่อเหตุในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน คือตน พี่ชายตน และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ถ้ามีคนเสื้อแดงไปป่วนขอยืนยันว่านั่นคือแดงเทียม ถ้าพรรคเห็นด้วยว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนไม่เหมาะสม ที่มีนายกษิตร่วมประชุม ตนจะไปยื่นหนังสือคัดค้านนายกษิต จะไปแค่ 3 คน ไม่เกิน 4 คน

โพลชี้6เดือนรัฐบาลสอบผ่าน

สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ประเมินผลงานรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในรอบ 6 เดือนแรก และความนิยมต่อพรรคการเมืองถ้ามีการเลือกตั้งใหม่วันนี ้ สุ่มตัวอย่างใน 17 จังหวัด 4,102 ครัวเรือน ระหว่างวันที่ 3-11 ก.ค. พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.2 เห็นว่าควรให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไปก่อน ขณะที่ร้อยละ 28.8 ที่เห็นว่าไม่ควรให้โอกาส

ความพึงพอใจภาพรวมมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้ 54.71 คะแนน จาก 100 คะแนน มาตรการที่ประชาชนพึงพอใจมากที่สุด ร้อยละ 60.2 คือ เบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ 500 บาทต่อเดือน ร้อยละ 48.6 ค่าตอบแทน อสม. 600 บาทต่อเดือน ร้อยละ 44.6 การลดค่าครองชีพของประชาชนในส่วนของการเดินทางทางรถไฟ รถเมล์ ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า น้ำประปา น้อยที่สุดในมาตรการด้านเศรษฐกิจคือ การกำกับดูแลเรื่องราคาน้ำมัน ร้อยละ 19.2

ความพึงพอใจต่อมาตรการรัฐบาลด้านสังคม ได้ 49.14 คะแนน มาตรการที่ประชาชนพึงพอใจมากที่สุด ร้อยละ 62.8 คือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ร้อยละ 44.8 พอใจต่อการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคหวัด 2009 ร้อยละ 30.7 คือมาตรการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง ความพอใจมาตรการด้านการเมืองและความมั่นคง ได้ 55.18 คะแนน มาตรการที่ประชาชนพอใจมากที่สุด ร้อยละ 65.4 พอใจต่อการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ร้อยละ 47.9 พอใจต่อการป้องกันประเทศ ร้อยละ 45.8 พอใจต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ขณะที่ความพอใจต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้น้อยที่สุด ร้อยละ 23.6

คนอีสานหนุนขออภัยโทษ

เมื่อถามถึงความนิยมตั้งใจจะเลือก ส.ส. แบบสัดส่วนของพรรคการเมือง ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ร้อยละ 44.6 เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 40.1 จะเลือกพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 15.3 เลือกพรรคอื่นๆ เช่น พรรคการเมืองใหม่ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และรวมใจไทยชาติพัฒนา โดยเมื่อมองเชิงพื้นที่พบว่าพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงเป็นของพรรคเพื่อไทย คือร้อยละ 57.1 ต่อพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 25 พรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีฐานเสียงสูงขึ้นจากเดิมเคยพบร้อยละ 10 ขณะที่ภาคใต้ยังคงเป็นของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม คือร้อยละ 78.6 แต่น้อยลงเพราะเคยสำรวจพบว่ามีถึงร้อยละ 80 ขณะที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ คนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 49.3 และร้อยละ 48.1 ต่อร้อยละ 34.1 และร้อยละ 39.3

เอแบคโพล ยังเผยผลวิจัย เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อแนวคิดอภัยโทษคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทุจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook