พ่อปารีณาเผยทั้งน้ำตา! ลูกสาวโดนดิสเครดิต ปมรุกที่ดิน 1,700 ไร่ เชื่อฝีมือทักษิณ

นายทวี ไกรคุปต์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และพ่อของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนแทนบุตรสาว หลังจาก น.ส.ปารีณา ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ป่าของ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) พื้นที่ 1,700 ไร่ ที่เรื่องนี้สร้างความเสียหายกับบุตรสาวและวงศ์ตระกูลของตน

รัฐมนตรีรายนี้ กล่าวต่อไปว่า ตนเป็นพ่อย่อมรู้เรื่องนี้ดี และยืนยันว่า น.ส.ปารีณาไม่ได้บุกรุกที่ป่า สปก. แต่เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ตาม ภบท.5 โดยซื้อต่อกันมาหลายมือ ซึ่งเดิมเป็นไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด กระทั่ง น.ส.ปารีณา ซื้อต่อมาเพื่อทำเกษตรสร้างฟาร์มไก่ ก่อนที่ภายหลังกรมป่าไม้จะแปลงเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน สปก. ในปี 2554

นายทวี พูดต่อไปว่า ครอบครัวก็เคยทักท้วงกรณีที่เกิดขึ้น และการครอบครองทำประโยชน์ตลอดที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องร้องเรียนบุกรุก แต่มาเป็นปัญหาเพราะเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งดิสเครดิต ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง เนื่องจากบุตรสาวตนเป็นคนกล้าพูดขุดคุ้ยคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอิทธิฤทธิ์ของยุคทักษิณ

ไม่ใช่แค่นั้น นายทวี บอกว่า หาก น.ส.ปารีณา ไม่เปิดอภิปรายในสภา ไม่เอาเรื่องเก่าๆ ของเขาหนีคดี เป็นนายกฯ ที่หนีคดีทุจริต โกงกินบ้านกินเมือง ไปอยู่ต่างประเทศเสวยสุข ลูกน้องติดคุกหัวโต ย่อมไม่ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างมาก และผู้ร้องเป็นใครก็รู้กันอยู่ ซึ่งเป็นแกนนำของพรรคหนึ่ง เรื่องนี้จึงเป็นเกมการเมืองที่ทำร้ายลูกสาว จึงขอความเป็นธรรมในฐานะพ่อแทนลูกสาว ยืนยันว่า ลูกสาวเป็นเกษตรกรไม่ใช่เกษตรกรเถื่อน

ขณะเดียวกัน นายทวี กล่าวยอมรับว่า ที่ดิน ภบท.5 ไม่สามารถเปลี่ยนมือซื้อขายได้ แต่บุตรสาวมีเจตนาซื้อและครอบครองทำประโยชน์เพื่อการเกษตรอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อการค้า ตาม มาตรา 1 ประมวลกฎหมายที่ดิน พร้อมกันนี้ นายทวี ยังได้ขอท้าให้สืบเอกสารสิทธิความถูกต้อง เพื่อยืนยันว่าพื้นที่ครอบครองทำประโยชน์ดังกล่าว เป็นพื้นที่ ภบท.5 ไม่ใช่พื้นที่สปก. ตามที่ถูกกล่าวหา