ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ฟ้องรัฐบาล หลังโดนข้อหาก่อการร้าย

ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ฟ้องรัฐบาล หลังโดนข้อหาก่อการร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีนายณัฐพร โตประยูร ทนายความ เป็นโจทก์ฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 91, 157 และ 200

ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า จำเลยที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2 เป็นรองนายกรัฐมนตรี และจำเลยที่ 3 เป็น ผบ.ตร. มีอำนาจดูแลควบคุมและกำกับการปฎิบัติงานของข้าราชการตำรวจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 3 ได้บังอาจร่วมกันทำผิดต่อกฎหมายอาญา โดยจำเลยทั้ง 3 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน ลงนามออกหมายเรียกผู้ต้องหาฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 โดยกล่าวหาโจทก์ว่า ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่การกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ , มั่วสุมกันแต่งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมืจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก, ก่อการร้าย. บุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์, ทำให้การบริหารท่าอากาศยานหยุดชะงักลง ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม ม.9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทั้งที่ข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริงตามที่จำเลยทั้ง 3 ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหากับโจทก์

ความจริงแล้วตามวันเวลาที่ พล.ต.ท.วุฒิ หัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวหาโจทก์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้น มีประชาชนจำนวนมหาศาลรวมตัวกันใช้ชื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใช้สิทธิตามรัฐธรรม พ.ศ.2550 ม.69 71 โดยชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีขณะนั้น แก้ไขปัญหาบ้านเมืองในเรื่องต่างๆ อาทิ การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มบุคคลก้าวล่วง แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉย ต่อมานายสมัคร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนต่อมา ไม่แก้ไขปัญหาเรื่องเขตแดนเขาพระวิหารกับประเทศกัมพูชา และสั่งให้มีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กลุ่มพันธมิตรฯเพิ่มมาตรการเรียกร้องโดยการเข้าไปชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชั่วคราวแทนทำเนียบรัฐบาล และที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อกดดันให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาตามที่เรียกร้อง

โดยในระหว่างการชุมนุมเจ้าหน้าที่ำรวจได้ตั้งข้อหาโจทก์กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรกระทำผิดฐานเป็นกบฏและขอให้ศาลออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมโจทก์และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าโจทก์กับพวกไม่ได้กระทำผิดข้อหากบฏตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้ง 3 ที่สั่งให้พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาเกินความจริงต่อโจทก์ จึงเป็นการปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น และเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้โจทก์ต้องถูกออกหมายเรียกและตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและกระทบกระเทือนสิทธิเสรีภาพ เสื่อมเสียชื่อเสียง เหตุเกิดที่แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ ขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกจำเลยทั้ง 3 มาแก้ต่างคดีและพิพากษาลงโทษตามความผิดด้วย

ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 24 สิงหาคม นี้ เวลา 13.30 น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook