สาวคลั่งปีนสะพานลอย พ.ต.อ. โพสต์แฉเป็นมิจฉาชีพ ชาวเน็ตจับโป๊ะตำรวจอาจจำผิด?

สาวคลั่งปีนสะพานลอย พ.ต.อ. โพสต์แฉเป็นมิจฉาชีพ ชาวเน็ตจับโป๊ะตำรวจอาจจำผิด?

สาวคลั่งปีนสะพานลอย พ.ต.อ. โพสต์แฉเป็นมิจฉาชีพ ชาวเน็ตจับโป๊ะตำรวจอาจจำผิด?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวคลั่งจะกระโดดสะพานลอย อ้างเครียดปัญหาชีวิต เจอตำรวจแฉวีรกรรมตระเวนสร้างเรื่อง ทำทีจะกระโดดสะพาน เพื่อหวังได้เงินช่วยเหลือจากคนที่สงสาร

(20 พ.ย.62) พบหญิงสาวพยายามจะกระโดดสะพานลอย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี วิทยาเขต จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกลี้ยกล่อมจนยินยอมลงมาอย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เครียดปัญหาภายในครอบครัว และก็ตกงาน

ต่อมา เพจบิ๊กเกรียน รายงานว่า นายตำรวจยศ พ.ต.อ. คนหนึ่งส่งข้อมูลมายังเพจ ระบุว่าหญิงสาวรายนี้ชื่อ "อรสา" มักจะตระเวนก่อเหตุลักษณะนี้ประจำ โดยเคยมากระโดดสะพานลอยที่หน้าเทคนิคอุตรดิตถ์ เมื่อประมาณเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้น พ.ต.อ.นายนี้คือเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ประชาชนจากหลายพื้นที่ยังให้ข้อมูลว่า หญิงรายนี้ มักสร้างเรื่องก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้ง อ้างว่ามีปัญหาชีวิต เพื่อเรียกร้องความสงสารให้คนหยิบยื่นเงินช่วยเหลือ ครั้งละ 1,000-2,000 บาท และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า มีคดีติดตัวในข้อหาลักทรัพย์ ตามหมายจับของ สภ.เมืองกาฬสินธุ์

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่จบง่ายๆ เมื่อต่อมามีการเปิดเผยข้อมูลว่า หญิงที่ก่อเหตุพยายามจะกระโดดสะพานลอย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี วิทยาเขต จ.จันทบุรี ชื่อ น.ส.นิตยา อายุ 26 ปี ซึ่งชื่อนามสกุลต่างจากคนที่ตำรวจอ้างถึง

 

จากการสอบถาม นางสาวนิตยา หญิงที่จะกระโดดสะพานลอย กล่าวว่า ตนเองตกงานมานานหลายเดือนแล้ว ไปสมัครงานหลายแห่งก็ยังไม่มีใครเรียกรับเข้าทำงาน ประกอบแม่สามีได้ขอเงินตนเองเดือนละ 1,000 บาท แต่ตนเองไม่มีให้ จึงคิดไม่ตก และเกิดอาการเครียดจึงได้ขึ้นไปบนสะพานลอยเพื่อหวังที่จะกระโดดสะพานลอยเพื่อฆ่าตัวตาย เพราะหมดหนทาง จากนั้นก็ได้มีนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าช้าง และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้มาช่วยเหลือดังกล่าว

นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าช้าง จึงได้นำเงินส่วนตัวช่วยเหลือ นางสาวนิตยา และได้เตือนว่าอย่าทำเช่นนี้อีก เพราะชีวิตมีค่า คนที่เดือดร้อนคือครอบครัว พ่อแม่ที่อยู่ด้านหลัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook