นักวิชาการยืนยัน แสงไฟถนนทำให้ข้าวไม่ออกรวงจริงๆ ชาวนาไม่ได้คิดไปเอง

นักวิชาการยืนยัน แสงไฟถนนทำให้ข้าวไม่ออกรวงจริงๆ ชาวนาไม่ได้คิดไปเอง

นักวิชาการยืนยัน แสงไฟถนนทำให้ข้าวไม่ออกรวงจริงๆ ชาวนาไม่ได้คิดไปเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(21 พ.ย.62)  จากกรณีที่มีเกษตรกรนำกระสอบปุ๋ยและสแลนกันแดดปิดคลุมหลอดไฟฟ้าส่องสว่าง บนถนนทางหลวงหมายเลข บร.3001 สายละหานทราย – นางรอง ช่วงถนน 4 เลน บริเวณบ้านจอมปราสาท ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ทั้งยังใช้เชือกมัดกับกระป๋องกาแฟ และก้อนหินผูกติดห้อยระโยงระยาง รวมจำนวน 7 ต้น เพราะมีความเชื่อว่าแสงไฟทำให้ต้นข้าวโตช้าและไม่ออกรวง  

>> อะเมซิ่งบุรีรัมย์! อ้างไฟส่องทำข้าวไม่โต ชาวบ้านเอากระสอบคลุมหลอดไฟถนน

กระทั่งล่าสุดแขวงทางชนบทระบุว่าไม่สามารถทำได้เพราะเป็นทรัพย์สินของทางราชการ และเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ทางหลวง  และล่าสุดได้ให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บรื้อกระสอบปุ๋ยและสแลนออกจากหลอดไฟแล้ว  เพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุกับผู้สัญจร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น   

จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม นายนวนิตย์ พลเคน เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์  ได้ออกมาระบุว่าตามหลักวิชาการแล้ว  แสงไฟส่องสว่างกระทบต้นข้าวทำให้เจริญเติบโตช้าและไม่ออกรวงจริง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ 105 ที่เกษตรกรภาคอีสานนิยมปลูกเพราะเป็นที่ต้องการของตลาด จะมีความไวต่อแสง ซึ่งปกติจะต้องการแสงไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน  หากโดนแสงนานกว่านั้น จะทำให้ข้าวเจริญเติบโตช้าและไม่ออกรวง ก็จะทำให้ได้ผลผลิตลดลง

ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยได้รับการร้องเรียนจากเกษตรในหลายพื้นที่อำเภอ  ที่มีนาข้าวอยู่ใกล้กับรัศมีของไฟฟ้าส่องสว่างริมถนน  ว่าประสบปัญหาดังกล่าว และเคยนำเสนอเข้าที่ประชุมแล้ว ซึ่งจากกรณีดังกล่าวก็จะได้หารือกับทางจังหวัด  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบของเกษตรกร  

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นก็ได้ไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรที่เจอปัญหาในลักษณะดังกล่าวแล้ว  ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงหากไม่สามารถที่จะปิดไฟส่องสว่างได้    เกษตรกรก็จะต้องปรับเปลี่ยนพันธุ์ข้าวที่ไม่มีความไวต่อแสง     แต่ก็ค่อนข้างจะยากเพราะนาปีส่วนใหญ่ที่เกษตรกรปลูกจะเป็นข้าวหอมมะลิ 105  

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook