"ใหญ่ ฝันดี" ควงภรรยาคนสวย "สา ธนวรรณ" ออกสื่อครั้งแรกในรอบ 10 ปี

"ใหญ่ ฝันดี" ควงภรรยาคนสวย "สา ธนวรรณ" ออกสื่อครั้งแรกในรอบ 10 ปี

"ใหญ่ ฝันดี" ควงภรรยาคนสวย "สา ธนวรรณ" ออกสื่อครั้งแรกในรอบ 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นอีกหนึ่งอดีตนักร้องดูโอ้ชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงพิธีกรอารมณ์ดีอย่าง ใหญ่-ฝันดี จรรยาธนากร ที่ล่าสุดควงภรรยาสาวสุดสวย สา ธนวรรณ ออกมาเปิดเผยเส้นทางความรักกว่า 25 ปี ผ่านรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี ท็อป ดารณีนุช และ นุ้ย สุจิรา เป็นพิธีกร เผยรักครั้งนี้คือรักครั้งแรกและรักเดียวเท่านั้น พร้อมเล่าประสบการณ์สัมผัสพิเศษเห็นผีที่น่ากลัวยิ่งกว่าในหนัง

จุดเริ่มต้นบอยแบนด์เจอกับนางงาม เจอกันได้ยังไง  ?

สา : "ตอนนั้นใหญ่เขาเป็นนักร้อง สาเป็นนางงามแล้วไปงานด้วยกัน พอดีมีพี่ที่รู้จักเขาไปงาน เราก็ไป เขาก็ไป"

แต่ที่ที่เจอไม่ใช่บนพื้นดินเจอกันบนเรือยอร์ช  เรือแล่นออกไปแล้วตีวงกลับมารับ ฝันดี-ฝันเด่น เรื่องมันยังไง ?

ใหญ่ : "ไปสาย เราติดงานแต่ทางผู้ใหญ่เขาอยากให้ไป"

งานวันนั้นงานอะไร ?

ใหญ่ : "เป็นงานวันเกิดล่องเรือจากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเรือส่วนตัวข้างบนมีดนตรีเล่น"

ตอนนั้นอายุเท่าไหร่ ?

ใหญ่ : "16-17 พอ พอขึ้นไปข้างบนเราก็มองไปที่หัวเรือ เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวผมยาวอยู่ตรงหัวเรือ"

แล้วเรารู้มั้นว่าเค้าเป็นนางงามขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนเวทีนางสาวไทย ปี 2536 ?

ใหญ่ : "ไม่รู้ เหมือนออกจากกะลามาแล้วแค่เจอคนที่เราชื่นชอบก็ให้คนไปขอเบอร์ ขอเบอร์เสร็จก็เก็บใส่กระเป๋า"

แล้วเขาสนใจเรามั้ย ?

ใหญ่ : "คุยบ้างเล็กๆน้อยๆ"

หลังจากที่ใหญ่ได้เบอร์สาไปหายไปกี่เดือน ?

สา : "ประมาณเดือนนึงมั้ง"

หายไป 1 เดือน ไปทำอะไร ?

ใหญ่ : "ทำงาน ตอนนั้นทัวร์คอนเสิร์ตอยู่"

แล้วเบอร์ไม่ได้ดึงดูดคุณขนาดนั้นเลยหรอ ?

ใหญ่ : "หาย เมาไง หยิบไปหยิบมาแล้วหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่เราก็ยังจำได้ว่าต้องหาเบอร์"

แล้วทำยังไงล่ะ ?

ใหญ่ : "คนเราจะตามหาสิ่งหนึ่งที่อยากได้คำตอบมันไม่ยากหรอก ดังนั้นเราต้องโทรหาเจ้าของงานวันเกิดซิ  เราโทรไปก็บอกว่าลักษณะแบบนี้ๆ เขาก็บอกว่าอ๋อ…น้องสา แต่พี่ไม่รู้นะว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหนยังไง แต่เดี๋ยวพี่หาเบอร์ให้"

พอเขาโทรมาเขาโทรมายังไง ?

ใหญ่ : "ก็คุยปกติ หวัดดีสาจำได้มั้ยใหญ่เอง เขาก็ถามว่าหายไหน เราก็บอกว่าทำงานออนทัวร์พอไปทีไป 20 วัน ออนทัวร์สมัยกก่อน 20 จังหวัดไปทีเป็นเดือน พอคุยปุ๊ปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามากเราก็บอกว่าวันนี้ว่างไปกินข้าวกันมั้ย"

แล้วสาว่ายัไง ?

สา : "ไม่ได้รู้สึกอะไรก็เป็นเพื่อนจริงๆ ความรู้สึกสาเป็นเหมือนเพื่อนจริงๆ  เราไม่ได้เจอเขาแล้วปิ๊งเขาเหมือนที่เขาเป็นกับเรา พอเราคุยกันได้สักพักนึงรู้สึกว่าเขาน่ารัก ความคิดของเขาดูโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็รู้แล้วว่าเขาจีบเรา หลังจากคุยกันได้ซักพักนึงเขาก็บอกว่าเขาว่างงานจะทานข้าวกันได้มั้ย"

แล้วเดทแรกเป็นยังไงบ้าง ประทับใจเขามั้ย เขาเทคแคร์ดูแลเรามั้ย ?

สา :  "น่ารักดี พอมาคุยแล้วรู้สึกเขาเป็นผู้ใหญ่ ความคิดเขาโต"

ใหญ่ : "พอกินข้าวเสร็จก็ถามเขาว่าไปเที่ยวต่อมั้ย เดี๋ยวพาไป เราก็พาไปสีลมเราอยากให้เขาสนุกมั้งเลยพาไปโรม แต่เข้าไปแป๊ปเดียวไปดูเสร็จแล้วก็เดินออกมา"

ตอนนั้นไม่มี Google Map มีแต่มือถือแต่คุณใหญ่สามารถสืบได้ว่าบ้านคุณสาอยู่ไหน ?

ใหญ่ : "ได้แต่เบอร์โทรศัพท์มือถือมาเราก็ต้องไปตามหาบ้านเลขที่ หลังจากนั้นเราก็ต้องไปเปิด  Yellow Pages (สมุดหน้าเหลือง) เราก็ดูว่าชื่อพ่อ ชื่อแม่เขาชื่ออะไร นามสกุลอะไรพอมีที่อยู่ปุ๊ปเราก็ใช้เบอร์โทรศัพท์โทรไป 1133 โทรไปเพื่อถามว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะบ้านเราอยู่พระราม 2 แต่บ้านเขาอยู่ตรงลาดพร้าว 80 อยากได้ลูกเสือเราต้องไปแถวบริเวณถ้ำเสือ พอไปถึงหน้าบ้านก็โทรหาเขา เห็นรถเขาจอดอยู่แล้ว เราก็บอกว่าเปิดหน้าต่างมาซิเดี๋ยวจะเห็น เราก็ยืนหล่อเลยในโทรศัพท์เค้าก็บอกว่า อ๋อเห็นแล้ว แล้วเราก็ขับรถไปเลย"

แล้วตอนนั้นสารู้สึกยังไง ?

สา : "ตกใจค่ะ เพราะว่ายังไม่ได้เปิดตัวเอง ไม่ได้อยากบอกเขาว่าบ้านอยู่ไหน เราเหมือนอยากคุยมากกว่า"

ใหญ่ : "หลังจากนั้นลืมเล่าเรื่องนึงเป็นความประทับใจแล้วก็จำตลอดเลย วันนั้นตอนเราเป็นแฟนกันแล้ว เราก็บอกเขาว่าเดี๋ยวเราจะไปลงเรือที่ครั้งแรกเราเจอกัน ตอนนั้นเราขับรถของเราไป BMW เตี้ย โหลดไปที่ท่าน้ำซึ่งพอไปถึงน้ำท่วม มาถึงแล้วก็ต้องไป น้ำเข้าถึงในรถครึ่งแข้ง รถเราต่ำกว่าทางขึ้นก็เลยให้สาปีนเข้าข้างหลัง ชุดสาก็สีขาวเหมือนเดิม เราให้เขาปีนขึ้นไปเพื่อดึงเราขึ้นไปเพราะรถเตี้ย สิ่งที่เกิดขึ้นคือล้มลงไปในน้ำทั้งคู่เลยสรุปเปียกทั้งคู่แล้วก็กลับ พอสตาร์ทรถไม่ติดน้ำเข้าท่อ เป็นภาพจำ หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกัน 5-6 เดือนก็เป็นแฟน กินข้าว แต่เราจะไม่มีเวลาตลอด 24 ชม. เพราะเราต้องทัวร์คอนเสิร์ต"

ทำไมพี่สาตัดสินใจคบกับพี่ใหญ่ ?

สา : ก็อาจจะเป็นนิสัยเค้ามีความคิด โตกว่าเราด้วยซ้ำไปเค้าคิดได้เยอะกว่าเรา

ตอนคบกันแรกๆ หลบๆซ่อนๆ เพราะศิลปินสมัยก่อนห้ามเปิดตัวแฟน ?

ใหญ่ : "ปกติ แต่ก็ไม่ได้โฉ่งฉ่างอะไร" 

แล้วทำไมเราไม่เห็นข่าวเลย ?

ใหญ่ : "สมัยก่อนยังใช้ Yellow Pages กันอยู่เลย"

โดยส่วนใหญ่สาจะเป็นคนระวังตัวมากกว่า เพราะกลัวว่าจะมากระทบกระเทือนหรือเปล่า ?

สา : "คบกับเขาไม่เคยบอกเพื่อนเลย เพื่อนสนิทก็ไม่เคยบอกจะรู้แค่ครอบครัว อาจจะเป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่าเค้าเป็นนักร้องมีชื่อเสียงมาก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราคบกันจะเป็นแฟนกันนานมั้ย"

การเห็นสาเป็นรักครั้งแรกของเราหรือเปล่า ?

ใหญ่ : "เอาจริงๆนะ ไม่ตลกเลยนะ ครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบันนี้" 

แสดงว่านี่คือรักแรกพบแล้วก็รักเดียวของพี่ใหญ่เลย ?

ใหญ่ : "ใช่" 

แล้วคบกันนานมั้ยถึงตัดสินใจแต่งงานกัน ?

ใหญ่ : "ประมาณปี 2539 คบกัน 3 ปี คบกันตั้งแต่ปี 2536"

พี่ก็แต่งงานกันเร็วนะ

ใหญ่ : "แต่งงานกันตอนอายุ 20-21 เป็นแฟนกันตอนอายุ 16-17"

แขกในงานประมาณกี่คน ?

ใหญ่ : "มีพ่อแม่ ญาติๆ ฝั่งเขา ฝั่งเราประมาณ 50 คน"

ด้วยความที่แต่งงานแบบส่วนตัวมารู้อีกทีว่ามีลูกแล้ว เขาก็เลยนึกว่าท้องก่อนแต่ง ? 

ใหญ่ : "ใช่ ก็มีกระแสข่าว แต่ก็มีนักข่าวที่รู้จักเราเค้ารู้ว่ามันเป็นยังไง พอไปออกโทรทัศน์ถึงรู้ว่าลูกใหญ่แล้วก็อุ้มเจแปนตอนผ่านไปอีก 2 ปีครึ่งตอนเป็นทหาร"

ใหญ่ไม่ได้ทำงานแค่เป็นดารา นักแสดง พิธีกร ทำจิตอาสาด้วย เราไม่รู้สึกว่าโดนแบ่งเวลาหรอ ?

สา : "ไม่รู้สึก เพราะมีความรู้สึกว่าอะไรที่เค้าชอบก็อยากให้เค้าทำให้เต็มที่"

ตอนสึนามิปีอะไรนะ ?

ใหญ่ : "ปี 47"

10 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นเรารู้จักกันแล้วตอนนั้นสาโทรมาแล้วก็ร้องไห้กับพี่ (ท็อป ดารณีนุช) ว่าทำยังไงดีใหญ่ไม่กลับบ้านเลยแล้วสาก็ห่วงว่าถ้าสึนามิมันกลับมาอีกรอบนึงจะทำยังไง ?

ใหญ่ : "แต่ใจมันไปตรงนั้นแล้วเรารักในแบบนั้น บางทีมันก็มีคำถามสาถามว่าเธอบางทีมันมากไปขนาดนี้ เมื่อสิ่งนั้นมันห้ามตัวใหญ่ไม่ได้ให้ใหญ่ไปทำสิ่งนั้นเหอะ ต่อให้ใหญ่อยู่ที่นี่ใหญ่ก็เหมือนไฟใหญ่ก็ไม่คุยกับสา"

สา : "มันเหมือนกับว่าเขาอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่มีเหตุก็มีค่าเท่ากัน เขาอยู่กับเราเขาก็คุยติดต่อประสานช่วยเหลือตลอดมีค่าเท่ากัน ก็ให้เขาไป ห่วงมั้ยห่วงมาก เพราะตอนนั้นสึนามิมาจะแจ้งเตือนเรื่อยๆ ก็ไม่มีใคร ก็เลยโทรหาพี่ท็อปอย่างที่บอก"

แล้วใหญ่ไปหลงใหลจิตอาสาติดนิสัยมาจากใคร ?

ใหญ่ : "จากแม่เราเนี่ยแหละ ตอนเด็กๆ เดี๋ยวแหมะก็ไปโน่นไปนี่ไปช่วย มีคำพูดนึง "แหมะพวกหนูยังเล็กๆกันอยู่เลยทำไมแหมะไม่เคยอยู่ดูเลย" แหมะก็เลยบอกว่าวันนึงจะรู้พอเราโตก็อ๋อรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง เวลามันถูกบังคับให้ต้องไปช่วยคน บังคับในที่นี้ไม่ได้คนมาบังคับนะแต่จิตใจเรามันไป อยู่ในที่ที่สงบแต่เราไม่สงบ อยู่ในที่ที่เป็นทุกข์เรากลับมีความสุขและสงบในสิ่งที่เราได้ทำมันเป็นอย่างนั้นมากกว่า"

พี่สองคนแสดงออกความรักกันยังไง ?

ใหญ่ : "ปัจจุบันก็พยายามทำให้มากขึ้น คือสาเค้าไม่ได้เป็นแบบเยอะๆ ที่จะแบบ อยากกินอะไร งอนอะไร อยากได้อะไร เขาจะไม่ใช่"

มีโอกาสได้บอกรักกันบ่อยมั้ย ?

ใหญ่ : "น้อย"

สาอยากจะบอกอะไรใหญ่ ?

สา : "จะบอกว่าเรารักเขา รักครอบครัว ทุกอย่างที่ทำให้ก็คือมันมาจากข้างใน" 

เขาเป็นสามีที่ดียังไงบ้าง ?

สา : "อาจจะไม่ดีมากแต่เขาเป็นให้เราทุกอย่าง" 

ตอนเด็กๆ รู้ตัวมั้ยว่าเราเป็นลูกคนดังซุปเปอร์สตาร์ ?

จินนี่ : "รู้ค่ะ เพราะเวลาไปข้างนอกจะมีคนมาขอถ่ายรูปกับป๊า เคยเห็นละคร เคยโทรไปร้องไห้กับป๊าถามว่าป๊าอยู่ไหนเพราะฉากนั้นเป็นฉากที่ป๊าโดนยิง" 

แล้วเจแปนมีเพื่อนมาบอกมั้ยว่าพ่อเราเป็นดูโอ้ ?

เจแปน : "เป็นอาจารย์ส่วนใหญ่ เพื่อนก็รู้จัก" 

ลูกสองคนนิสัยเป็นยังไงบ้าง ?

สา : "น้องจินนี่จะนิสัยเหมือนใหญ่เป็นคนพูดเยอะ กล้าแสดงออก ส่วนเจแปนจะเหมือนสาไม่ค่อยพูด ชอบฟังมากกว่า" 

ป๊ากับแม่กลัวใครมากกว่ากัน ?

เจแปน : "ป๊าจะดุกว่า"

จินนี่ : "ป๊าไม่ดุนะ"

ส่วนใหญ่คุณพ่อ คุณแม่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ?

จินนี่ : "ไม่ค่อยเป็นเรื่องใหญ่แบบเลือกร้านข้าวไม่ได้ เหมือนแม่จะบ่นป๊าแต่จะไม่ว่าป๊าโดยตรงแต่จะว่ามาที่จิน"

พี่สารู้เรื่องสัมผัสพิเศษพี่ใหญ่บ้างมั้ย ?

สา : "รู้ค่ะ เพราะตั้งแต่คบกันแรกๆ เขาก็ชอบบอกว่าเขาเห็นอันนี้ เราก็ฟัง" 

แล้วสาเคยขอให้ใหญ่ดูดวงให้หรือสัมผัสพิเศษอะไรให้เราบ้างมั้ย  ?

สา : "เคย ตอนนั้นนานมากแล้วบอกว่าดูให้หน่อยซิ เขาบอกดูไม่ได้"

ใหญ่ : "เราอยากดูหมดทุกคนแหละ แต่มันดูไม่ได้ ไม่เห็นไรเลย" 

แล้วเวลาปกติถ้าพี่จะเห็นพี่เห็นยังไง ?

ใหญ่ : "มันจะป๊ะกันพอดี เส้นกาลเวลามันพอดีกัน เรามองอีกแบบนึงนะ มันเกิดเป็นภาพขึ้นมาแล้วเราก็เห็นสิ่งนี้ ไปถ่ายรายการแต่งหน้าอยู่เรามองไปตรงบันได ทำไมเห็นผู้หญิงถือมีดยืนปาดคออยู่"

จริงๆ แล้วพี่ใหญ่เคยเห็นแบบนี้แต่เป็นภัยพิบัติแล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ?

ใหญ่ : "เราเห็นยังไม่เท่าไหร่กับการที่เรารู้สึกว่าเราถูกสั่งให้ทำในสิ่งนี้จะเจอแบบนี้มากกว่า สมมติว่าตึกถล่มมันยังไม่เกิดเหตุ แต่เราเห็นภาพตึกถล่มแล้วเราก็ดำเนินการซ้อมแผนเรื่องตึกถล่มใช้เทคนิคอย่างนี้ อุปกรณ์ใช้อะไรบ้างพอฝึกเสร็จไม่เกินอาทิตย์นึงก็ตึกถล่ม แล้วเราก็ใช้แบบเดียวกัน มันถึงพ่วงกันว่าทำไมทีมของใหญ่กับเล็กถึงที่เกิดเหตุก่อน หนึ่งเพราะมันมีข้อมูลที่เราหาจากโลกโซเชียล ข้อมูลดิบนะ สองเราดันไปอยู่ศูนย์กลางของเหตุการณ์" 

เวลาที่พี่เห็นโหดสุดของเหตุการณ์พี่เห็นยังไง ?

ใหญ่ : "มันเห็นเป็นเงาจากกำแพงมา เรายังไม่ได้นอนเลย ก็เป็นรูปคนเป็นเงาออกมาจากกำแพงเราก็มองเลื่อนลงมาใต้เท้าแต่เราเห็นอีกทีคือโผล่มาปลายเท้าเราเหมือนในหนังเลยก็โผล่มาเป็นเงาคนตัวใหญ่ แต่มันเป็นฟุ้งๆ แต่มันเป็นรูปร่างมันแตกได้ แต่พอมันเอื้อมมาจะบีบคอเราเราก็ง้างขาเอาไว้แล้ว ถีบเลย แล้วเราก็เห็นเงาเข้าไปในกำแพง เราก็บอกว่าอย่าให้แช่งนะ เดี๋ยวไม่ได้เกิดเลย" 

แล้วพี่จะเป็นหมอดูเลยมั้ย ?

ใหญ่ : "ไม่ เราไม่ได้เรียนมาแบบนั้น เราไม่ได้ไขว่คว้าจะเรียน มันไม่มีอะไรเลยตัวเรา มันมีอย่างเดียวคือมันไปกับเรา ไม่ใช่ว่าแบมือแล้วดูเส้น ไม่มี"

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ "ใหญ่ ฝันดี" ควงภรรยาคนสวย "สา ธนวรรณ" ออกสื่อครั้งแรกในรอบ 10 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook