ลูกสาวช็อก! ผู้ช่วยสัปเหร่อพูดเป็นลาง "เดี๋ยวกูก็ตาย" ก่อนพบศพผูกคอตาย

ผู้ช่วยสัปเหร่อ วัย 79 ปี ผูกคอตายคาห้องน้ำ หลังอาการป่วยหอบหืดและความดัน กำเริบเพราะอากาศหนาว ลูกสาวจะพาไปหาหมอแต่ไม่ยอมไป ทั้งพูดเป็นลาง "เดี๋ยวกูก็ตายแล้ว" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านตะโกราย ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถาน ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 81 ม.4  บ้านตะโกราย ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบร่าง นายสงวน อายุ 79 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อ ใช้สายไฟผูกคอตัวเองกับขื่อห้องน้ำเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพลงมาไว้ที่พื้น  

จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย  มีเพียงรอยเขียวช้ำที่บริเวณลำคอ  คาดว่าเกิดจากการใช้สายไฟผูกคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะคิดว่าเป็นการตัดสินใจของผู้ตายเอง     

จากการสอบถาม นางบุญมี อายุ 40 ปี ลูกสาว บอกว่า ตอนเช้ายังเห็นพ่อซ่อมก๊อกน้ำอยู่หน้าบ้าน ก็ได้ยินพ่อบ่นว่าเหนื่อย กินข้าวไม่ค่อยได้และนอนไม่หลับ เนื่องจากพ่อมีโรคประจำตัวทั้งหอบหืด  ความดัน  ประกอบกับช่วงมีสภาพอากาศหนาวเย็น จึงปรับตัวไม่ทัน อาจทำให้อาการกำเริบขึ้น ซึ่งตนก็ยังถามพ่อว่าไปหาหมอไหม แต่พ่อก็บอกว่าไม่ไปหรอก “เดี๋ยวกูก็ตายแล้ว” แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าพ่อคงพูดไปแบบนั้นเอง  

กระทั่งพ่อหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานานแม่จึงบอกให้หลานไปเรียก แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าอาจจะล้มหรือเป็นลมในห้องน้ำ จึงบอกให้หลานพังประตูเข้าไปเลย  พอหลานพังประตูก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพ่อผูกคอเสียชีวิตในห้องน้ำแล้ว จึงได้ตะโกนเรียกคนใกล้บ้านให้มาช่วยแก้สายไฟแล้วนำร่างลงมาวางที่พื้น  

ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะคิดว่าพ่อคงตัดสินใจผูกคอตัวเอง เพราะเครียดเรื่องอาการป่วยของตัวเองทั้งโรคหอบหืด และความดัน  ประกอบกับช่วงนี้ก็มีอากาศหนาวเย็นอาจจะทำให้อาการกำเริบเหนื่อยง่าย นอนไม่ค่อยหลับ ที่ผ่านมาพ่อก็จะบ่นให้คนในครอบครัวฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งพ่ออาจจะคิดไปเองว่ารักษายังไงก็คงไม่หาย จึงได้คิดสั้นผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว