หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือเริ่มขาดตลาด

วันนี้(16 ก.ค.) นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งให้กรมการค้าภายในเพิ่มสินค้าหน้ากากอนามัยและเจลทำความสะอาดเข้าอยู่ในรายการสินค้าที่ต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพิ่มจากจากเดิมที่มี 200 รายการ เป็น 202 รายการ เนื่องจากได้รับทราบว่าขณะนี้ในส่วนหน้ากากอนามัย เริ่มขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้น ส่วนเจลทำความสะอาด เริ่มพบมีการผลิตเจลปลอมออกมาวางขายมากขึ้น นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยจากผลิต 6 วันต่อสัปดาห์ เป็น 7 วัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นได้อีก 1.4 แสนชิ้น

''เท่าที่ทราบการผลิตไม่ได้ลดลง แต่ความต้องการใช้ของประชาชนสูงขึ้นมาก จึงได้สั่งให้เพิ่มกำลังการผลิต และชะลอการส่งออกที่มีสัดส่วน 20% ของกำลังการผลิตในประเทศ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวมถึงจะพิจารณาทำโครงการหน้ากากและน้ำยาล้างมือธงฟ้า เพื่อจำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด 20-40% แก่ประชาชน พร้อมลงโทษผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี'' นางพรทิวา กล่าว

นางพรทิวา กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆ ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ยกเลิกหรือเลื่อนออกไป แต่กระทรวงฯ จะประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความร่วมมือในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปแจกหน้าหากอนามัยและน้ำยาล้างมือ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าร่วมงานในทุกงาน

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไข้หวัด 2009 จำนวน 20 รายว่า ผู้ผลิตแจ้งว่าราคาหน้ากากอนามัยมีราคาการปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง เพราะวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงขึ้น และหาซื้อได้ยาก แต่ยืนยันว่าจะขึ้นราคาตามต้นทุน ไม่ได้ฉวยโอกาสปรับราคาเพิ่ม ขณะที่ทางยี่ปั๊ว ซาปั๋วที่รับสินค้าจากผู้ผลิตไปจำหน่ายยืนยันว่า ไม่มีการกักตุนสินค้าเช่นกัน

''กรมฯ จะมีการตรวจสอบช่องทางการผลิต และการจำหน่ายสินค้าป้องกันไข้หวัด 2009 โดยจะไปดูว่าใครเป็นคนทำให้ราคาขึ้น เพราะในการหารือ ฝ่ายต้นทาง คือ ผู้ผลิต กลางทาง คือ ยี่ปั้ว ซาปั๊ว ต่างก็ยืนยันว่าไม่มีการปรับขึ้นราคา จะขึ้นบ้างก็เพียงเล็กน้อยตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนปลายทาง คือ ผู้ขายปลีก ก็ต้องไปดูว่ามีการขายเกินราคาหรือไม่ และจะดูว่าแต่ละช่วงมีการปรับเพิ่มราคาขึ้นมากน้อยแค่ไหนโดยจากการสำรวจราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยพบว่า มีตั้งแต่ 2 บาทต่อชิ้นขึ้นไป และชนิด N95 ราคาตั้งแต่ 30-50 บาทชิ้น และจะออกราคาแนะนำในสัปดาห์หน้า'' นางวัชรี กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร้านขายยาในท้องตลาดทั่วไป ไม่มีสินค้าหน้ากากอนามัยวางจำหน่าย เพราะมีการตัดตอนจากร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านสะดวกซื้อบางแห่ง ได้สั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิต และยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และนำไปขายทำกำไร โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีการนำไปขายต่อประมาณ 2 ชิ้น 15 บาท หรือบางแห่งจำหน่าย 2 ชิ้น 19 บาท ขณะที่ต้นทุนที่ซื้อไปอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 1.50 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร และฉวยโอกาสจากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัด 2009 ในปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาข้างต้น กรมการค้าภายใน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจสถานการณ์การจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านสะดวกซื้อแล้ว ซึ่งคงต้องมีการตรวจสอบว่าทำไมถึงมีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่แพงขึ้น ทั้งๆ ที่ต้นทุนที่รับมาต่ำมาก และหากพบว่ามีการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.