จี้ประกันราคาฟื้นชีวิตเกษตรกรหนี้พุ่ง30%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยในรอบ 10 ปี นับจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 41 เป็นต้นมา ว่า จากการสำรวจสถานภาพของเกษตรกรไทยจำนวน 1,757 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-10 ก.ค.52 ส่วนใหญ่การดำเนินชีวิตได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น 98.30% สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะต้นทุนค่าครองชีพสูง ระดับราคาพืชผลทางด้านเกษตรลดลง ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมีน้อย ทำให้รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย แนวโน้มการเป็นหนี้จึงเพิ่มสูงขึ้นถึง 30% โดยเกษตรกรได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจดังนี้คือ การบริโภคลดลง 51.68% ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น 67.94% รายได้ลดลง 47.84% ส่งผลต่อการออมลดลง 67.09% ซึ่งเป็นสิ่ง ที่น่ากังวลต่อระบบเกษตรกรรม เนื่องจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะมีสัดส่วน เพิ่มขึ้นจาก 1% เพิ่มเป็น 2.5% และหันไปพึ่งพาเงินนอกระบบมากขึ้น

จากผลการสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าระดับราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อรายได้เกษตรกรมาก ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลโดยเน้นเรื่องการประกันราคาที่สูงกว่าราคาตลาดเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับเกษตรกร วิธีการนี้รัฐจะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าส่วนต่างราคาที่เกษตรกรขายได้เท่านั้น ดีกว่าวิธีการรับจำนำที่รัฐจะต้องจ่ายทั้งหมด 100% ในการรับซื้อสินค้า อีกทั้งยังสามารถ ดำเนินการได้หลากหลายสินค้าเพราะใช้งบประมาณไม่มาก และการประกันราคาสินค้าเกษตรจะทำให้เกษตรกรที่ไหลมาจากภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 39.24% อยู่ในภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งจากพื้นที่การเกษตรที่มีอยู่คาดว่ายังสามารถรองรับแรงงานได้อีกมากและมีส่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้